ทรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ ประกาศแผนปี 2552 ชูจุดเด่นราคาและคุณภาพ มัดใจลูกค้าไอเอสพีไทย หลังประสบความสำเร็จขยายชุมสายยุโรปตามด้วยชุมสายเอเชียเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้ประสิทธิภาพการเชื่อมต่อเกตเวย์เร็วและเสถียรยิ่งขึ้นทั่วทุกมุมโลก ชี้แม้ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เป็นโอกาสสร้างตลาดอินเทอร์เน็ตโตก้าวกระโดด มั่นใจเรื่องการแข่งขันที่สูงเพิ่มขึ้นในตลาด เป็นทางเลือกคุณภาพให้ไอเอสพีไทยทุกราย
นายทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์ ผู้อำนวยการบริหารด้านลูกค้าองค์กรและธุรกิจบริการระหว่างประเทศ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ด้วยศักยภาพกลุ่มทรู ผู้นำชีวิต Convergence Lifestyle มีความพร้อมด้านการสื่อสารครบวงจร สามารถตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์และเวิร์คสไตล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวิร์คสไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องมีการติดต่อระหว่างประเทศ ทำให้กลุ่มทรูสร้างสรรค์กลุ่มธุรกิจบริการมุ่งเน้นด้านการสื่อสารระหว่างประเทศซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายช่องทาง ทั้งบริการอินเทอร์เน็ต เกตเวย์ โทรศัพท์ข้ามแดนระหว่างประเทศ และโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VoiP) โดยบริการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ เป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพมาก ซึ่งที่ผ่านมาได้ขยายชุมสายสู่ยุโรป และเอเชีย เพิ่มจากชุมสาย ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จนครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก เสริมศักยภาพและคุณภาพในการเชื่อมต่ออย่าง ไร้ขีดจำกัด สร้างมาตรฐานความเร็วในการใช้งานจนทัดเทียมนานาประเทศ รวมถึงเปิดเสรีอินเทอร์เน็ต เกตเวย์ ที่ช่วยเพิ่มทางเลือกแก่อุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต และเพิ่มปริมาณการใช้บรอดแบนด์ในประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจของชาติพัฒนาเติบโตได้เร็วขึ้น
ดร. อโณทัย รัตนกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัททรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากเปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลาเพียง 2 ปี บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด โดยในปีที่ ผ่านมา มีการเติบโตด้านรายได้ประมาณ 100% ต่อปี และสำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2552 จะมุ่งเน้นด้านการขยายศักยภาพการบริการที่มีคุณภาพเป็นหลัก โดยการเพิ่มความหลากหลายของบริการชุมสายอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ ควบคู่ไปกับราคาที่เหมาะสม สะท้อนต้นทุนราคาแบนด์วิธ ในต่างประเทศที่ลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวของไอเอสพีในประเทศไทย ให้สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีปริมาณสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินว่า ปริมาณการใช้แบนด์วิธ ในประเทศไทยแบบเชื่อมต่อตรงกับต่างประเทศโดยรวมจะเติบโตสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด
อย่างต่ำ 100% จาก 30 Gbps ปี 2551 เป็น 60 Gbps ในปี 2552 โดยสัดส่วนปริมาณการใช้แบนด์วิธของ ทรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ จำกัดจะเป็นอย่างต่ำ 10 Gbps ในสิ้นปีหน้าหรือประมาณ 20% ของตลาดโดยรวม
“เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับประชาชนชาวไทย ที่ปัจจุบันราคาอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยคุ้มค่ามากขึ้น มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการแข่งขันของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เกตเวย์ มากขึ้นหลายราย ซึ่งทรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ เชื่อมั่นว่ายิ่งมีการแข่งขันในตลาดมากขึ้น ผู้บริโภคก็จะได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น และด้วยจุดเด่นของ ทรูอินเทอร์เน็ต เกตเวย์ ทั้งเรื่องคุณภาพของการให้บริการ ราคา รวมทั้งความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ได้ลงทุนเมื่อปีที่ผ่านมา อาทิ การติดตั้ง POP (Point of Presence) ในประเทศไทยและต่างประเทศ คือสิงค์โปร์ และสหรัฐอเมริกา และการขยายชุมสาย (Node) ครอบคลุม ทุกภูมิภาคทั่วโลก ทั้งยุโรปที่ประเทศอังกฤษ และเอเชียที่ประเทศฮ่องกง จะสามารถขยายคุณภาพและบริการ เพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เกตเวย์ ให้ลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ สร้างความแตกต่างตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า ไอเอสพี ได้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการเตรียมพร้อมระบบสำรอง (Back-up Gateway) ที่สามารถขยายปริมาณช่องสัญญาณได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความมั่นใจในการใช้บริการอินเทอร์เน็ตของประเทศ ไม่ให้เกิดผลกระทบเหมือนเช่นกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เคยผ่านมา” ดร. อโณทัย กล่าวเพิ่มเติม