พาณิชย์ เตรียมเปิดฉาก มหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขง ปี 52 กระชับสัมพันธ์ 5 ประเทศ

กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ประกาศความพร้อมจัดงาน “มหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขง ปี 2552” (Mekong Export Festival 2009: MEF 2009) มุ่งโชว์ศักยภาพสินค้าไทย เพิ่มขีดความสามารถการส่งออกพร้อมเปิดโอกาสเจรจาการค้าชายแดน นำร่อง 2 จังหวัด โหมโรงที่อุดรธานีก่อนโยกเวทีไปต่อที่อุบลราชธานี ตั้งเป้าขาช้อปทั้งชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้าน แห่ร่วมงานกว่าแสนคน

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่คาดการณ์ว่าภาคส่งออกจะขยายตัวลดลง ทำให้หลายประเทศต่างพยายามหาทางปรับตัวเพื่อรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น รัฐบาลไทยจึงมีนโยบายส่งเสริมสินค้าไทยฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจโลก โดยการจัดงานแสดงสินค้า “มหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขง ปี 2552” (Mekong Export Festival 2009: MEF 2009) ขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี อุบลราชธานี มุกดาหาร และเชียงราย เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาด้านการส่งออกให้กับผู้ประกอบการ ในภูมิภาค ส่งเสริมการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะบริเวณที่ติดกับประเทศลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า ซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญที่ยังคงมีอัตราขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ในขณะนี้การจัดงานมีความคืบหน้าขึ้นมาก มีผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ภาคเอกชนที่ต้องการสร้างโอกาสในการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และแสดงให้ผู้บริโภคในภูมิภาคได้เห็นถึงศักยภาพสินค้าและบริการ สนใจสมัครเข้าร่วมงานจำนวนมาก แบ่งเป็นผู้ผลิตผู้ส่งออกจากส่วนกลางร้อยละ 60 ผู้ผลิต ผู้ส่งออกในท้องถิ่น ร้อยละ 30 และเป็นผู้ผลิตจากประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะลาว อีกร้อยละ 10

สำหรับกำหนดการจัดงานดังกล่าว จะเริ่มขึ้นที่จังหวัดอุดรธานีเป็นแห่งแรก ระหว่างวันที่ 6 – 15 มีนาคม 2552 บริเวณทุ่งศรีเมือง มีสินค้ามาจัดแสดง 440 คูหา แบ่งเป็นผู้ประกอบการจากประเทศไทยในกลุ่มของผู้ส่งออก 149 ราย ส่วนภูมิภาค 148 ราย รวม 400 คูหา และผู้ประกอบการจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อีก 40 คูหา ไฮไลท์ของสินค้าที่นำมาแสดงและจำหน่ายในงาน ครอบคลุมสินค้าทั้งประเภทอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม สินค้าอุตสาหกรรมเช่นเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น สินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงธุรกิจบริการต่างๆ เช่น การท่องเที่ยว การศึกษา สุขภาพความงาม ตรวจสภาพรถ ตกแต่งรถ และธุรกิจแฟรนไชส์ และที่พิเศษสุดคือมุมสินค้าธงฟ้าตามคำเรียกร้องของผู้บริโภคในภูมิภาค

นางพรทิวา กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายในงานยังมีกิจกรรมพิเศษต่างๆ มากมายที่ให้ทั้งความรู้และความบันเทิงเพื่อดึงความสนใจจากผู้เข้าชมงานทั้งจากจังหวัดใกล้เคียงและประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ การจัดนิทรรศการ การแสดงพื้นบ้าน การประกวดร้องเพลง การแสดงบนเวที การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย อาทิ เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา นกน้อย อุไรพร เฉลิมพล มาลาคำ ฝน ธนสุนทร แดง จิตรกร และศิลปินจากลาว หรั่ง สิทธิ์ประเสิรฐ แก้วจรัส

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น สินค้าลดราคาพิเศษ แจกของรางวัลที่คาดว่าจะดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าชมงานจำนวนมาก โดยเบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ กลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านสนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 100,000 คน และสามารถสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท

“มหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขง ปี 2552 จะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการบริเวณชายแดน เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการจากประเทศเพื่อนบ้านได้เห็นศักยภาพของสินค้าไทย ซึ่งจะนำไปสู่การขยายความสัมพันธ์ด้านการค้า – การลงทุนระหว่างประเทศ พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายในภูมิภาค เสริมสภาพคล่องให้ผู้ส่งออกมีเงินทุนหมุนเวียน บรรเทาปัญหาการลดกำลังซื้อจากต่างประเทศ เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคในภูมิภาคได้เลือกซื้อสินค้าคุณภาพส่งออกที่หลากหลาย ลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอีกด้วย” นางพรทิวา กล่าว