ปัจจัยลบจากภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ ส่งผลตลาดรถจักรยานยนต์เดือน ม.ค. หดตัว 23%

ตลาดรถจักรยานยนต์ได้รับผลกระทบจากสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ในเดือนเริ่มต้นของการเปิดศักราชใหม่ปี 52 มีอัตราการเติบโตลดลง 23% ด้วยปริมาณยอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 1.09 แสนคัน ในขณะที่รถแบบครอบครัวมีสัดส่วนตลาดสูงสุดถึง 50% รวมทั้งเป็นกลุ่มรถประเภทหลักของตลาดที่มีอัตราการเติบโตลดลงน้อยที่สุด เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นด้านความประหยัด สอดรับกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และจากแนวโน้มของสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงอยู่ในทิศทางขาลง จะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้รถประเภทนี้ได้รับความสนใจจากตลาดเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการที่ค่ายผู้นำตลาดคือฮอนด้า ซึ่งมีจุดแข็งด้านรถครอบครัว ได้วางตลาดรถประเภทนี้รุ่นใหม่ล่าสุดที่ติดตั้งระบบหัวฉีด PGM-FI เป็นผลให้มีความประหยัดสูง พร้อมเดินสายจัดกิจกรรมเปิดตัวเพื่อสร้างการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศนั้น จะเป็นส่วนสำคัญผลักดันให้สัดส่วนตลาดของรถแบบครอบครัวมีการขยายตัวมากขึ้น

นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีปริมาณยอดการจดทะเบียนป้ายวงกลมโดยรวมทั้งสิ้น 109,940 คันเมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 143,208 คันแล้ว มียอดจดทะเบียนลดลง 33,268 คัน หรือเทียบเท่าอัตราการเติบโตลดลง 23% โดยสาเหตุที่ส่งผลให้อัตราการเติบโตลดลงนั้น เป็นผลกระทบโดยตรงจากสภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ

สำหรับในส่วนรายละเอียดของยอดการจดทะเบียน พบว่ารถจักรยานยนต์แบบครอบครัวมีสัดส่วนตลาดสูงสุด โดยมีมากถึง 50% และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังนับเป็นกลุ่มรถประเภทหลักของตลาดที่มีอัตราการเติบโตลดลงน้อยที่สุด คือมีปริมาณยอดจดทะเบียน 54,943 คัน และมีอัตราการเติบโตลดลงจากในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเพียง 23% เท่านั้น ทั้งนี้เป็นผลมาจากคุณสมบัติอันโดดเด่นของรถประเภทนี้ที่ให้ความประหยัดในการใช้งานเป็นอย่างสูงสอดรับกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่กลุ่มผู้บริโภคมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับความประหยัด

นอกจากนั้นแล้ว จากแนวโน้มของสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงอยู่ในทิศทางขาลง อันเป็นผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย โดยคำนึงถึงประโยชน์และความคุ้มค่าสูงสุดนั้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้รถแบบครอบครัวได้รับความสนใจจากตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่ค่ายผู้นำตลาดคือฮอนด้า ซึ่งมีจุดแข็งในด้านรถครอบครัว ได้วางตลาดผลิตภัณฑ์รถประเภทนี้รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ (Wave 110i)ที่มีระบบเครื่องยนต์เป็นแบบจ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด PGM-FI (Programmed Fuel Injection) ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้นในด้านความประหยัด อีกทั้งยังมีการเดินสายจัดให้มีกิจกรรมการเปิดตัวรถรุ่นใหม่นี้ในเขตท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศในตลอดช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เพื่อเป็นการสร้างการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง ตลอดจนจัดแคมเปญพิเศษ “แจกเวฟทั่วไทย ได้ทุกจังหวัด (76 จังหวัด – 76 คัน – 76 วัน) ซึ่งเป็นการตอบคำถามเพื่อชิงโชครางวัลรถเวฟ 110 ไอ จำนวน 76 คันนั้น จะเป็นส่วนสนับสนุนและผลักดันให้สัดส่วนตลาดของรถแบบครอบครัวมีแนวโน้มการขยายตัวมากขึ้น

ในด้านรายละเอียดของรถจักรยานยนต์ประเภทอื่นๆ มีดังนี้ คือ รถแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ มีปริมาณยอดจดทะเบียน 50,446 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 46% มีอัตราการเติบโตลดลงจากในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 24% รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 2,866 คัน สัดส่วนตลาด 3% อัตราการเติบโตลดลง 33% รถแบบสปอร์ต 806 คัน สัดส่วนตลาด 1% อัตราการเติบโตลดลง 23% และรถประเภทอื่นๆ 879 คัน

ในขณะที่หากแบ่งแยกเป็นปริมาณจดทะเบียนตามค่ายผู้ผลิตแล้ว ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ฮอนด้า 69,985 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 64% ยามาฮ่า 31,929 คัน อัตราครองตลาด 29% ซูซูกิ 6,036 คัน อัตราครองตลาด 5% คาวาซากิ 1,036 คัน อัตราครองตลาด 1% เจอาร์ดี 183 คัน ไทเกอร์ 121 คัน แพล็ตตินั่ม 61 คัน และอื่นๆ 589 คัน