นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) หรือ กรุงศรี ออโต้ เปิดเผยว่า “จากสภาวะที่เศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย ทำให้ประชาชนระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต้องชะลอตัวลง โดยเฉพาะยอดขายรถยนต์ใหม่ในปีนี้ จะหดตัวลงประมาณ 15-20% ทำให้ผู้ประกอบการรวมถึงสถาบันการเงินหลายแห่ง เบนเข็มหันมาใส่ใจในธุรกิจตลาดรถมือสอง และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์กันมากขึ้น เนื่องจากยังมีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”
นายไพโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช ในฐานะผู้บุกเบิกสินเชื่อเพื่อคนมีรถเป็นรายแรกในประเทศไทย และเป็นผู้นำตลาดด้วยสัดส่วน 40% ซึ่งมีศักยภาพในระบบการบริหารอย่างมืออาชีพ โดยเฉพาะทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจสินเชื่อรถยนต์มายาวนานกว่า 15 ปี ประกอบกับในปี 2552 นี้ TRIS ได้ยกระดับให้เรทติ้งความน่าเชื่อถือของ กรุงศรี ออโต้ เป็น A+ จึงทำให้ผู้บริโภคต่างให้ความเชื่อมั่นและลูกค้าให้ความไว้ใจใช้บริการกับกรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช ในงาน Money Expo 2009 มากกว่า 170 คัน หรือคิดเป็นวงเงินประมาณ 60 ล้านบาท เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ และในปีนี้ ตั้งเป้ายอดสินเชื่อเพื่อคนมีรถไว้ที่ 11,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันกรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช มีสัดส่วนฐานลูกค้าต่างจังหวัด 70% และกรุงเทพฯ 30%”
ปัจจัยหลักๆ ที่ผู้บริโภคคำนึงถึงมากที่สุด คือ ราคารถยนต์ที่ประเมินต้องคุ้มค่าและได้ราคาเป็นที่น่าพอใจ ระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานและยืดหยุ่นได้ รวมถึงดอกเบี้ยที่ต่ำ และที่สำคัญต้องเป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือและคลุกคลีอยู่ในธุรกิจมาอย่างยาวนาน
ในงาน Money Expo 2009 กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช ได้กระตุ้นตลาดสินเชื่อเพื่อคนมีรถ ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ คือ ผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน (6 ปี) พร้อมให้วงเงินสูงสุด 100% จากราคาประเมินของบริษัทฯ และให้ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.31% ต่อเดือน ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน นอกจากนี้ ยังแถมบัตรเติมน้ำมันสูงสุด 1,500 บาท และคูปองล้างรถจากร้านวิซาร์ด รวมมูลค่า 3,000 บาท และสำหรับในต่างจังหวัด ยังปรับลดดอกเบี้ยอีก 25 สตางค์ทั่วประเทศ ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้อีกด้วย ซึ่งนับเป็นโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกข้อในวิกฤติเศรษฐกิจเช่นนี้เป็นอย่างมาก โดยกรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช นับเป็นอีกทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถ ในกรณีที่ต้องการเงินก้อนมาใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ซ่อมแซมบ้าน การศึกษาบุตร ต่อยอดธุรกิจ หรือแม้แต่นำเงินก้อนไปช่วยลดภาระอื่นๆ โดยผู้บริโภคยังสามารถใช้รถยนต์ได้ตามปกติ เพียงแต่นำรถยนต์ของตนมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน