— สำนักโลจิสติกส์การค้า กรมส่งเสริมการส่งออก เร่งพัฒนาศักยภาพโลจิสติกส์ไทย หวังใช้เป็นกลยุทธ์สู้กับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก เบื้องต้นจัดให้มีการอบรมให้ความรู้ผู้ส่งออก เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรให้ผู้ประกอบการ พร้อมเปิดเวทีการค้าด้านโลจิสติกส์สุดยิ่งใหญ่ ให้ผู้ประกอบการไทยได้พบปะพันธมิตรทางธุรกิจและคู่ค้าในกลุ่มเป้าหมาย ในงาน Thailand International Logistics Fair ปี 2552 (ครั้งที่ 6)
นายปณต บุญยโหตระ ผู้อำนวยการสำนักโลจิสติกส์การค้า เผยว่า กรมส่งเสริมการส่งออกกำลังเร่งช่วยเหลือผู้ส่งออก ในการลดต้นทุนโลจิสติกส์ เพื่อสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน และแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดในประเทศคู่ค้าหลักอย่าง สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น
“กรมส่งเสริมการส่งออกมีความพยายามที่จะช่วยผู้ประกอบการและผู้ส่งออกลดต้นทุนโลจิสติกส์ให้ได้มากที่สุด เนื่องจากการลดต้นทุนในส่วนนี้ เป็นหนทางเดียวที่จะช่วยเพิ่มผลกำไรให้ผู้ประกอบการได้ในขณะนี้ เพราะโอกาสที่เราจะไปเพิ่มราคาขายสินค้าในขณะนี้นั้นแทบไม่มีเลย” นายปณต กล่าว
โดยทางสำนักฯ ได้จัดให้มีการฝึกอบรมผู้ประกอบการและผู้ส่งออกทั่วประเทศให้มีความรู้ความเข้าใจด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดต้นทุนในการขนส่งและจัดเก็บสินค้า และสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน อาทิ การจัดโครงการลดต้นทุนโลจิสติกส์สำหรับผู้ส่งออก รุ่นที่ 1 เป็นต้น
“เราได้นำผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์กับผู้ประกอบการ และมีการส่งผู้เชี่ยวชาญไปวิเคราะห์ว่าบริษัทที่เข้าร่วมโครงการกับเรานั้นมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไรบ้าง มีต้นทุนส่วนใดที่สูงอยู่บ้าง และจะต้องแก้ไขอย่างไร เพื่อให้คำแนะนำที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้ได้จริง ซึ่งเราก็คาดหวังว่าในปีนี้ เราจะสามารถจัดโครงการลดต้นทุนโลจิสติกส์สำหรับผู้ส่งออกได้อย่างน้อยสองรุ่น” นายปณต เสริม
นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีแผนที่จะอำนวยความสะดวกด้านกระบวนการเอกสารให้กับผู้ส่งออก ด้วยการขยายสาขาศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Export Service ไปยังภูมิภาค
“ศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ เป็นหน่วยงานที่ให้บริการด้านการออกใบรับรองจากหน่วยงานภาครัฐกว่า 15 หน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการ อีกทั้งเป็นศูนย์ให้คำปรึกษาด้านการส่งออกให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถใช้ศูนย์ของเราเพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางเพื่อจัดการด้านกระบวนการเอกสารต่างๆ จากที่เคยใช้เวลา 3-7 วัน ก็จะเหลือแค่เพียงวันเดียว ซึ่งก็จะช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ส่งออกอย่างเห็นได้ชัด”
“กรมฯ มีแผนที่จะขยายศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จไปยังภูมิภาค โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีความต้องการเรื่องการออกใบรับรองสูง ซึ่งเราก็ได้จัดประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอความคิดเห็นว่าเราควรจะขยายศูนย์ไปยังจังหวัดใด ซึ่งก็คงจะเป็นจังหวัดที่มีการส่งออกเยอะ อย่างที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เป็นต้น ซึ่งเราตั้งใจว่า ในปีนี้เราจะต้องเปิดเพิ่มให้ได้อีกหนึ่งแห่งเป็นอย่างน้อย” นายปณต เผย
ขณะเดียวกัน กรมฯ เตรียมจัดงาน Thailand International Logistics Fair ปี 2552 (ครั้งที่ 6) อย่างยิ่งใหญ่ หวังใช้เป็นเวทีทางการค้าและการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และผู้ใช้บริการ โดยงาน Thailand International Logistics Fair ในปีนี้ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-13 กันยายน ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค
“ในปีหนึ่งๆ ผู้ประกอบการและผู้ส่งออก จะได้มีโอกาสอัพเดทสินค้าและบริการใหม่ที่ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ มีให้กับผู้ใช้บริการ ซึ่งแทนที่ผู้ใช้บริการจะต้องบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ให้ตัวเอง พวกเขาก็จะได้มาดูว่ามีอะไรที่พวกเขาจะสามารถจะใช้บริการจากผุ้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แทน เพื่อช่วยลดต้นทุนและประหยัดเวลาได้บ้าง งาน Thailand International Logistics Fair จะเป็นเวทีที่ผู้ที่อยู่ในวงการจะได้เจอกัน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไทยด้วยกันเองหรือจะเป็นผู้ให้บริการจากต่างประเทศที่มาเข้าร่วมงานก็ตาม บริษัทเหล่านี้จะได้สร้างเครือข่ายระหว่างกัน”
“นอกจากนี้ งาน Thailand International Logistics Fair ปี 2552 (ครั้งที่ 6) ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก ASEAN Logistics Networks จะเป็นโอกาสให้ประเทศไทยจะได้แสดงให้ต่างชาติได้เห็นว่า เรามีความสามารถมากพอที่จะเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาคได้ ก่อนหน้านี้ ทางสำนักฯ ได้มีการพาผู้ประกอบการไทยไปพบปะกับคู่ค้าในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงอย่างประเทศจีนตอนใต้มาแล้ว ซึ่งเราก็จะดึงพันธมิตรที่อยู่ในประเทศเหล่านี้ให้มาร่วมงานด้วย” นายปณต กล่าว