มิตรลาวส่งออกน้ำตาลล็อตแรกไปสหภาพยุโรป

บริษัท น้ำตาลมิตรลาว จำกัด ในกลุ่มมิตรผล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำตาล ภายใต้แบรนด์ “มิตรลาว” ได้ฤกษ์โหลดน้ำตาลทรายดิบคุณภาพสูงล็อตแรก ลงเรือไปจำหน่ายยังสหภาพยุโรปแล้ววันนี้ พร้อมเดินหน้าเร่งส่งเสริมเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพิ่มผลผลิตป้อนโรงงานรอบการผลิต 2552/2553 ไม่น้อยกว่า 70%

นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำตาลมิตรลาว จำกัด กล่าวว่า ในรอบการผลิต 2551/2552 มิตรลาวมีปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งสิ้น 230,000 ตันอ้อย คิดเป็นน้ำตาลที่ผลิตได้ทั้งสิ้น 23,150 ตัน โดยบริษัทฯ ได้จัดสรรน้ำตาลจำนวน 22,940 ตัน ส่งจำหน่ายไปยังสหภาพยุโรปตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัท เทด แอนด์ ไลล์ ผู้ค้าน้ำตาลรายใหญ่ของโลก ผ่านกระบวนการโลจิสติกส์โดยบริษัท ยูไนเต็ด แสตนดาร์ด เทอร์มินัล จำกัด(มหาชน) ซึ่งดำเนินการขนส่งน้ำตาลจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มายังท่าเรือแหลมฉบัง และส่งต่อให้บริษัท อ่าวไทยคลังสินค้า จำกัด ดำเนินการส่งออก โดยจะใช้เวลาขนส่งประมาณ 40 วันจึงจะขึ้นน้ำตาลที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ส่วนน้ำตาลที่เหลือบริษัทฯคาดว่าจะจัดจำหน่ายเพื่อการบริโภคภายในสปป.ลาว ได้ในไตรมาส 3/2552

ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ขยายพื้นที่เพาะปลูกไปยังเมืองอุทุมพร แขวงสะหวันนะเขต และเมืองเซบั้งไฟ แขวงคำม่วน ซึ่งอยู่ใกล้เคียง โดยมีพื้นที่ปลูกอ้อยในปีการผลิต 2551/2552 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 40,000 ไร่ และคาดว่าในปีการผลิต 2552/53 บริษัทฯจะขอสัมปทานพื้นที่เพิ่มอีก 62,500 ไร่ เพื่อขยายกำลังการผลิต เป็น 450,000 ตันอ้อย หรือราว 5,000 ตัน/วัน ซึ่งจะทำให้สามารถผลิตน้ำตาลได้ประมาณ 50,000 ตัน

“จากผลผลิตอ้อยที่ได้ตามเป้าในรอบการผลิต 25521/2552 ทำให้เรายิ่งสนับสนุนให้มีการส่งเสริมให้ชุมชนในพื้นที่รอบโรงงานปลูกอ้อยอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้อ้อยคุณภาพที่มีค่าความหวานและผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น รวมถึงเร่งขยายพื้นที่แปลงปลูกเพื่อให้รองรับกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจของกลุ่มมิตรผลในประเทศลาว โดยเราคาดว่าด้วยระบบการส่งเสริมที่มีประสิทธิภาพจะสามารถเพิ่มชาวไร่อ้อยคู่สัญญาได้อีกไม่น้อยกว่า 300 ราย จากเดิมที่มีอยู่แล้วจำนวน 500 ราย” นายบรรเทิงกล่าวสรุป

บริษัท น้ำตาลมิตรลาว จำกัด มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 730 ล้านบาท ได้รับสัมปทานพื้นที่ปลูกอ้อยและก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำตาลจากรัฐบาลของสปป.ลาว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2549 บนพื้นที่ 62,500 ไร่ อายุสัมปทาน 40 ปี และสามารถขอต่อสัมปทานสิทธิ์ได้อีก 20 ปี โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 63 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,300 ล้านบาท