คนอร์พลิกตำรับโจ๊ก เปิดตัวคัพโจ๊กหลากสีใหม่ จากผักหลากสีสัน

ต่อแต่นี้โจ๊กจะไม่ได้จำกัดแค่สีขาว! เมื่อคนอร์พลิกตำรับโจ๊ก สร้างสรรค์คนอร์ คัพโจ๊กหลากสีใหม่ ด้วยส่วนผสมจากผักหลากสีและเนื้อสัตว์ ให้อาหารเช้ากลายเป็นมื้อที่มีสีสันและมีประโยชน์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เริ่มวันใหม่อย่างสดใส

นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานกรรมการบริหาร ธุรกิจอาหารและไอศกรีม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เผยถึงแรงบันดาลใจของคนอร์ คัพโจ๊กหลากสีสันใหม่ว่า “คนอร์ คัพโจ๊ก ในฐานะผู้นำตลาดคัพโจ๊ก เล็งเห็นความสำคัญของมื้อเช้าเพราะเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของเด็กวัยเรียนที่ต้องใช้พลังงานในการเรียนหนังสือ เล่นกีฬา ตลอดจนคุณค่าทางอาหารเพื่อการเจริญเติบโต แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ เด็กๆ มักจะไม่ค่อยยอมรับประทานอาหารเช้า และด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้หลายคนละเลยอาหารเช้าด้วยเช่นกัน และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”

ทั้งนี้ จากรายงานการสำรวจภาวะอาหารและโภชนาการของประชาชนในกรุงเทพมหานคร 2546-2547 ระบุว่า ในกลุ่มคนวัยทำงานและกลุ่มเด็กนักเรียน ไม่บริโภคอาหารเช้าเฉลี่ยประมาณ 30% โดยเฉพาะนักเรียนหญิงอายุระหว่าง 12-14 ปี ที่ไม่ได้บริโภคอาหารเช้าถึง 52%

“คนอร์ คัพโจ๊กถือเป็นตัวเลือกอาหารเช้าที่เหมาะกับวิถีชีวิตในปัจจุบันของคนทุกเพศทุกวัย เพราะเตรียมง่าย ทานง่าย เนื้อข้าวนุ่ม ลื่นคอ ไม่หนักท้องจนเกินไป และมีประโยชน์ แต่คนอร์คัพโจ๊กยังไม่หยุดนิ่งในการเพิ่มประโยชน์ โดยมองว่า ส่วนผสมของมื้ออาหารควรมีผักเป็นส่วนประกอบด้วย เพราะผักเป็นหนึ่งในประเภทอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้ให้คำแนะนำว่า การกินผักควรกินผักให้หลากสี เพราะผักแต่ละสีก็มีวิตามินต่างกันไปที่ช่วยสร้างสุขภาพให้แข็งแรง อย่างกลุ่มสีเขียว เช่น ผักบรอคโคลี่ ผักกาด มีวิตามินต่างๆ ผักโขมให้ธาตุเหล็ก และแคลเซี่ยมที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน กลุ่มผักสีเหลืองเช่น ฟักทอง ข้าวโพดที่มี วิตามินเอ ในรูปของเบต้า แคโรทีน ช่วยบำรุงสายตา เป็นต้น”

“ด้วยข้อมูลโภชนาการดังกล่าว คนอร์ คัพโจ๊ก จึงมุ่งมั่นคิดค้นนวัตกรรมอาหารเช้าที่เพิ่มประโยชน์และความน่ารับประทาน และกระตุ้นให้คนรับประทานอาหารเช้ามากขึ้น ด้วยการออกคนอร์ คัพโจ๊กหลากสี ที่มาจากการคัดสรรผักธรรมชาติหลากชนิดที่มีสีใกล้เคียงกันอย่างพิถีพิถัน พร้อมด้วยเนื้อสัตว์ที่มีรสชาติเข้ากัน เกิดเป็นโจ๊กที่อร่อย มีประโยชน์และมีสีสันดึงดูด เหมาะเป็นอาหารเช้าสำหรับทุกคนในครอบครัว รวมทั้งเด็กๆ ให้สนุกกับการกินโจ๊กมากยิ่งขึ้น” นางสุพัตรากล่าว

คนอร์ คัพโจ๊กหลากสีใหม่ มี 4 สี 4 รสชาติ ซึ่งแต่ละสีประกอบไปด้วยส่วนผสมของผักตามธรรมชาติหลากชนิดที่มีสีใกล้เคียงกันและเนื้อสัตว์ ได้แก่
• คนอร์ คัพโจ๊ก เหลือง มีส่วนประกอบของฟักทอง ข้าวโพดหวาน และไก่
• คนอร์ คัพโจ๊ก เขียว มีส่วนประกอบของบรอคโคลี่ ผักกาด ข้าวโพดอ่อน และหมู
• คนอร์ คัพโจ๊ก ขาว มีส่วนประกอบของกะหล่ำปลี เห็ดแชมปิญอง มันเทศ และไข่
• คนอร์ คัพโจ๊ก ส้ม มีส่วนประกอบของแครอท มันเทศและปูอัด

ทั้งนี้ คนอร์ คัพโจ๊กยังมีแผนการโฆษณาประชาสัมพันธ์คนอร์คัพโจ๊กหลากสีใหม่นี้อย่างครบวงจร ทั้งสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ ป้ายโฆษณา ที่เน้นให้เห็นถึงความหลากสีสัน และการจัดกิจกรรมชงชิมจำนวน 1 ล้านถ้วยชิม ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้ลองชิมผลิตภัณฑ์

“คนอร์ คัพโจ๊กหลากสีใหม่ 4 สี 4 รสชาติที่มีส่วนประกอบจากผักธรรมชาติหลากสี จะทำให้ทุกคนสนุกกับการเลือกอาหารเช้าที่มีสีสันหลากหลาย และเพื่อประโยชน์ที่ครบถ้วนควรรับประทานให้ครบทุกสี เพราะเราควรรับประทานผักให้หลากสีอยู่แล้ว เรามั่นใจว่า คนอร์คัพโจ๊กหลากสีใหม่ จะช่วยให้ทุกคนเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยสีสันที่มีประโยชน์ได้แน่นอนค่ะ” นางสุพัตรากล่าวสรุป

ผู้บริโภคสามารถเลือกสรรคนอร์คัพโจ๊กหลากสีใหม่ ทั้งแบบถ้วยและซอง ขนาดบรรจุ 35 กรัม ในราคาถ้วยเดี่ยว 17 บาท และซองเดี่ยว 12 บาท ได้แล้ววันนี้ที่ร้านค้าใกล้บ้านคุณ

เกี่ยวกับยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย
พันธกิจของยูนิลีเวอร์ คือ การเติมพลังให้แก่ชีวิต เราตอบสนองความต้องการทางด้านโภชนาการ สุขอนามัย และการดูแลเอาใจใส่ชีวิตส่วนตัวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผู้คนรู้สึกดี มีลักษณะชวนมอง และแต่งเติมชีวิตให้มีความสุขมากยิ่งขึ้นทุกวัน ทุกๆ วันมีผู้บริโภคทั่วโลกกว่า 160 ล้านคน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์

ยูนิลีเวอร์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยมากว่า 75 ปี ผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย ได้แก่ ผงซักฟอกบรีส โอโม ซันไลต์ คอมฟอร์ท ลักส์ วาสลีน ซิตร้า ซันซิล คลีนิค เคลียร์ พอนด์ส โดฟ แอกซ์ เรโซนา ใกล้ชิด คนอร์ วอลล์ ลิปตัน เบส์ทฟู้ดส์ และภาคธุรกิจผลิตภัณฑ์ชั้นสูง (อาวิยองซ์)

ยูนิลีเวอร์มุ่งมั่นที่จะสนองความต้องการของผู้บริโภคและชุมชนที่เราอยู่อาศัยทำธุรกิจและใช้ชีวิตอยู่ทุกวัน บริษัทฯ มีพนักงานรวมทั้งสิ้นกว่า 2000 คนทั้งในประเทศไทย มีรายได้จากยอดขายปี 2551 ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยได้ที่
www.unilever.co.th