TTA เดินหน้ากลยุทธ์บริหารต้นทุน โดยขายเรือ ทอร์ มารีเนอร์ มูลค่ากว่า 67 ล้านบาท

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)(“TTA”) ล่าสุดแจ้งการขายเรือ ทอร์ มารีเนอร์ มูลค่ากว่า 67 ล้านบาทให้กับ Blueseas Inc., Liberia เรือทอร์ มารีเนอร์ เป็นเรือบรรทุกสินค้าทั่วไป ขนาดระวางบรรทุก 17,298 เดทเวทตัน สร้างในปี พ.ศ. 2526 การขายเรือครั้งนี้เพื่อสนับสนุนโครงการการสั่งต่อเรือใหม่ หรือ ซื้อเรือมือสองที่มีอายุน้อยลง

ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต ประธานกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซน ไทย เอเยนต์ซีส์ (“TTA”) เปิดเผยว่า “ล่าสุด บริษัท ทอร์ มารีเนอร์ ชิปปิ้งจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นร้อยละ 99.99 โดย บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) ได้ขายเรือ ทอร์ มารีเนอร์ ให้กับ Blueseas Inc., Liberia เพื่อนำไปตัดเป็นเศษซาก คิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 1,994,406.70 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือเป็นเงินไทย เท่ากับ 67,595,628.52 บาท”

“สำหรับการขายเรือครั้งนี้เป็นไปตามสถานการณ์ของธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองในปัจจุบัน ซึ่งเรือเก่าจะแข่งขันในตลาดได้น้อยลงและควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินงานยากขึ้น คณะกรรมการของบริษัท ทอร์ มารีเนอร์ ชิปปิ้ง จำกัด จึงเห็นควรให้ขายเรือ ทอร์ มารีเนอร์ ซึ่งมีอายุการใช้งานเกินกว่า 26 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การปรับลดอายุเฉลี่ยกองเรือ TTA ซึ่งจะส่งผลให้กองเรือ TTA มีศักยภาพในการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น โดย TTA จะนำเงินที่ได้จากการขายเรือมาใช้ในโครงการสั่งต่อเรือใหม่ หรือหาโอกาสในการซื้อเรือมือสองในราคาที่คุ้มค่า” ม.ล.จันทรจุฑา กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ขนาดของรายการขายเรือ ทอร์ มารีเนอร์ ดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 0.17 ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552 (สินทรัพย์รวมของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552 เท่ากับ 40,472,515,772 บาท) ดังนั้น ปัจจุบันกองเรือของกลุ่มบริษัทโทรีเซนจะมีจำนวน 37 ลำ ขนาดระวางบรรทุกเฉลี่ย 26,826 เดทเวทตัน อายุเฉลี่ยของกองเรือ 19.10 ปี

บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ เป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าแห้งเทกองโดยให้บริการขนส่งสินค้าแบบประจำเส้นทางและให้เช่าเหมาลำ รวมทั้งเป็นหนึ่งในบริษัทรายใหญ่ที่ให้บริการงานนอกชายฝั่งเกี่ยวกับงานบริการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติและงานวิศวกรรมโยธาใต้น้ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งเป็นหนึ่งใน 50 อันดับแรกของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง รวมทั้งมีสภาพคล่องสูง