พูล แอสเสท ขึ้น THRU Thonglor มูลค่า 1,800 ล้านบาท

บริษัท พูล แอสเสท ขึ้น THRU Thonglor คอนโดฯขนาดใหญ่ 515 ยูนิต มูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท ย่านทองหล่อ ใกล้ Airport Link, BTS และ MRT ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตในเมือง เปิดขายทางการ 17 ต.ค. นี้ ราคาเริ่มต้น 59,000 บาท/ ตร.ม. โดยห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน เริ่มต้นที่ 1.8 ล้านบาท ดึงเซ็นจูรี 21 ไทยแลนด์ บริหารงานตลาดและการขายโครงการ ตั้งเป้ายอดขายภายในสิ้นปีนี้ 60 %

นายสมบัติ แสงรัฐกาญจนสิน และนายกิติเมศวร์ กิติอัครพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พูล แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทดำเนินโครงการ THRU Thonglor คอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ เป็นอาคารสูง 35 ชั้น จำนวน 515 ยูนิต และมีพื้นที่ Commercial 18 ยูนิต มูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท บนทำเลใกล้แยกทองหล่อ ติดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งออกแบบเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ มีกลุ่มเป้าหมายคือ วัยทำงานหรือครอบครัวคนรุ่นใหม่ ที่มีรสนิยมทันสมัยและชอบไลฟ์สไตล์ย่านทองหล่อ ด้วยทำเลที่ตั้งโครงการเป็นย่านที่มีศักยภาพสูงใจกลางเมือง การเดินทางสะดวกทั้ง Airport Link รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบีทีเอส รวมถึงมีเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงหลายเส้นทาง อาทิ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ รัชดาภิเษก สุขุมวิท พระราม 9 รามคำแหง เป็นต้น ทำให้ไม่ว่าการสัญจร เพื่อชีวิตการทำงาน หรือการนัด Hang out สังสรรค์กับเพื่อนฝูง สามารถทำได้อย่างสะดวกสบาย เพราะอยู่ในย่านสังคมคุณภาพมีระดับ และมั่นใจว่าลูกค้าจะให้การตอบรับที่ดี

จากข้อมูลเศรษฐกิจโดยภาพรวม พบว่ามีแนวโน้มดีขึ้น และเมื่อ Airport Link เปิดให้บริการต้นธันวาคมปีนี้ จะทำให้การคมนาคม การสัญจรของผู้คน บนถนนเส้นนี้มีความคึกคักมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ภาคธุรกิจหลั่งไหลเข้ามาลงทุนในย่านนี้มากขึ้น เนื่องจากที่ดินย่านสุขุมวิทหายาก และมีราคาที่ดินค่อนข้างสูง ดังนั้นในอนาคตภาพโดยรวมของถนนเพชรบุรี จะถูกปรับเปลี่ยนไปในทิศทางบวก สภาพตึกแถวเก่า ๆ จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นอาคารสำนักงาน และ อาคารพักอาศัยในรูปคอนโดมากขึ้น เนื่องจากความเจริญที่มีมากขึ้นส่งผลให้คุ้มค่าแก่การลงทุน ซึ่งปรากฎให้เห็นเป็นรูปธรรมแล้วในขณะนี้ จากการที่ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มให้ความสนใจมาสร้างคอนโดมิเนียมย่านนี้มากขึ้น ในส่วนของบริษัทเองจัดเป็นรายแรกๆ ที่มองการณ์ไกลที่เข้ามาลงทุนในย่านดังกล่าวนี้เช่นกัน

“จากการที่กลุ่มผู้ถือหุ้นมีประสบการณ์ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มานานกว่า 20 ปี และได้พัฒนาโครงการด้านเรียล เอสเตท มาแล้วหลายโครงการ ทั้งแนวราบและแนวสูง อาทิ The Station(Sathorn-Bangrak) ซึ่งเป็นอาคารสูง 17 ชั้น 2 อาคาร รวม 675 ยูนิต ปัจจุบันได้ขายไปแล้วเกือบทั้งหมดและโอนไปแล้ว 60 % คาดว่าจะโอนได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งแต่ละโครงการเราได้ศึกษาด้านตลาด ศึกษาความต้องการของลูกค้ามาเป็นอย่างดี และด้วยทำเลที่ตั้งศักยภาพของโครงการนี้ จึงมีความมั่นใจมากที่ดำเนินการให้โครงการนี้สำเร็จได้ นอกจากนั้นการที่มีบริษัท เซ็นจูรี 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยคุณกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจ -คอนโดมิเนียมมาเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขายให้กับโครงการ จึงยิ่งเชื่อมั่นว่าโครงการจะประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม โดยที่ผ่านมาได้นำโครงการเข้าร่วมออกบูธในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 21 ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ในโซนพื้นที่ของเซ็นจูรี 21 ซึ่งได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี”

“ทั้งนี้โปรโมชั่นราคาในช่วงเปิดตัวโครงการ เปิดขายราคาเริ่มต้น 59,000 บาทต่อตารางเมตร โดยห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นที่ 1.8 ล้านบาท จากที่เริ่มพรีเซลมาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะนี้สามารถขายได้แล้ว 25 % และเราจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ คิดว่าภายในปลายปี 52 จะมียอดขาย 60 % ” นายสมบัติ และนายกิติเมศวร์ กล่าว

โครงการ Thru Thonglor เป็นอาคารชุดพักอาศัย สูง 35 ชั้น จำนวน 515 ยูนิต และพื้นที่ร้านค้าปลีก 18 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,800 ล้านบาท ตั้งอยู่บริเวณแยกทองหล่อ ติดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พัฒนาโดย บริษัท พูล แอสเสท จำกัด บนเนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน 72 ตารางวา มีห้องชุดหลายแบบให้เลือก ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ 31-44 ตารางเมตร และ ขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ 56-65 ตารางเมตร และเพื่อตอบสนองชีวิตคนเมืองอย่างแท้จริง โครงการได้ออกแบบให้มีฟังก์ชั่นการใช้สอยที่ลงตัว โดยขนาด 1 ห้องนอนมีพื้นที่หน้ากว้างถึง 6 เมตร และมีการแยกส่วน ที่ชัดเจนระหว่างห้องนอนและห้องแต่งตัว,ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ รวมถึงห้องครัวอีกด้วย นอกจากนี้โครงการ ยังจะได้ออกแบบให้มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ชุดครัว Built-in เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันอีกด้วย สำหรับ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ประกอบด้วย Swimming Pool, Fitness Center, Sauna room, Stream room, Activity Area ระบบความปลอดภัยด้วย Access Control Card, CCTV. ลิฟท์โดยสารและเซอร์วิส 5 ตัว พร้อมลิฟท์รองรับในบริเวณที่จอดรถยนต์ ชั้น 2-8 และ รปภ. ตลอด 24 ชม. โดยโครงการจะเริ่มก่อสร้างในเดือนมีนาคม 2553 คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2555