บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO ก้าวขึ้นเป็นผู้ก่อสร้างระบบรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทน พร้อมเซ็นสัญญาก่อสร้างโครงการพลังงานลม เขาค้อ มูลค่า 800 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร “ประเดช กิตติอิสรานนท์” ให้ความเชื่อมั่นเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอรองรับโครงการ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ เชื่อนักลงทุนใช้สิทธิแปลงสภาพวอแรนท์ เหตุคุ้มค่า
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO ผู้นำธุรกิจด้านงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าครบวงจร รวมถึงผลิตและจำหน่ายเสา โครงเหล็กสำหรับงานด้านไฟฟ้า โทรคมนาคมให้กับภาครัฐและเอกชน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานลม มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท กับบริษัท ซัสเทนเอเบิล เอนเนอยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้พัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์โดยโครงการดังกล่าว เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่แห่งแรกในประเทศไทย ที่มีขนาดการผลิตกระแสไฟฟ้า 50 – 60 เมกะวัตต์ ซึ่งได้รับหนังสืออนุมัติรับซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และมีความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการจนมีความพร้อมที่จะเริ่มงานก่อสร้าง
สำหรับการดำเนินงาน บริษัทฯ จะรับเป็นผู้ก่อสร้างระบบสายส่ง ซึ่งเชื่อมต่อระหว่าง จุดผลิตไฟฟ้าจากทุ่งกังหันลมที่ ต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ กับจุดรับซื้อไฟที่สถานีไฟฟ้าหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ครอบคลุมงานปรับปรุงถนน พื้นที่ก่อสร้าง งานสถานีไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าใต้ดิน งานสายส่งแรงสูงระบบ 115 เควี ระหว่างทุ่งกังหันกับสถานีไฟฟ้าหล่มสัก รวมระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 16 เดือน
“การลงนามในสัญญานี้ ถือเป็นความสำเร็จขั้นต้นที่ DEMCO จะก้าวเข้ามาเป็นผู้นำด้านการก่อสร้างก่อสร้างระบบรับซื้อไฟฟ้าให้แก่ผู้พัฒนาโครงการพลังงานทดแทน ไม่ว่าจะเป็นการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลม หรือพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยความชำนาญงานด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ทั้งงานสถานีไฟฟ้า ระบบสายส่งแรงสูง ระบบไฟฟ้าใต้ดินที่รวมอยู่ใน บริษัทเดียว จะทำให้ DEMCO เป็นผู้ให้บริการงานก่อสร้างครบวงจร ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ว่าจ้างได้มากยิ่งขึ้น” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายประเดช กิตติอิสรานนท์ กรรมการผู้จัดการ DEMCO กล่าวว่า สำหรับเรื่องของเงินทุนหมุนเวียนที่ใช้ในการดำเนินการคาดว่าไม่มีปัญหา เพราะบริษัทฯ มีความมั่นใจว่า นักลงทุนจะใช้สิทธิในการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ์ในการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (วอแรนท์) ทั้ง DEMCO – W1 และ DEMCO – W2 เนื่องจากธุรกิจของบริษัทฯ มีแนวโน้มที่ดี ส่วนราคาวอแรนท์ ณ ปัจจุบันถือว่าคุ้มค่ากับการแปลงสภาพ (In the money) ซึ่งเชื่อว่า นักลงทุนจะให้การตอบรับเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันส่วนตัวก็จะใช้สิทธิแปลงสภาพวอแรนท์ที่ถืออยู่ทั้งหมด 10 กว่าล้านหน่วยด้วย
สำหรับการร่วมพัฒนาโครงการพลังงานลมอีก 8 โครงการที่บริษัทฯ และกลุ่มวินด์ เอเนอยี่ โฮลดิ้ง ได้ยื่นขอขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยรวม 680 เมกกะวัตต์ คาดว่าจะทยอยได้รับการอนุมัติรับซื้อไฟฟ้า ซึ่งเมื่อได้รับหนังสือดังกล่าว บริษัทฯ ก็พร้อมที่จะเป็นผู้ก่อสร้างระบบรับซื้อ ซึ่งการที่โครงการเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันก็จะเป็นผลดี ทำให้บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนของอุปกรณ์ในงานก่อสร้างเป็นประโยชน์ในทางอ้อมกับบริษัทฯ นอกเหนือจากการได้มูลค่างานในมือ (Backlog) ในระยะยาวอีกด้วย