จากภาพ : นายธีระ กาญจน์คีรวัฒนา (ที่ 1 จากซ้าย) ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส และผู้จัดการฝ่ายลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา นายวศิน วณิชย์วรนันต์ (ที่ 2 จากซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และมิสเตอร์ฟิล แอตคินสัน (ที่ 3 จากขวา) Corporate Finance Assistant Director บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล พาวเวอร์ จำกัด ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจากประเทศอังกฤษ ร่วมลงนามในสัญญาให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัท ไทย เนชั่นแนล พาวเวอร์ จำกัด เป็นสินเชื่อระยะยาว จำนวน 4,965 ล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็กแห่งใหม่
กสิกรไทยจับมือกรุงศรีฯ ปล่อยกู้เกือบ 5,000 ล้านบาท ให้ยักษ์ใหญ่โรงไฟฟ้าของโลกจากอังกฤษ สร้างโรงไฟฟ้าขนาด 110 เมกะวัตต์ ในประเทศไทยขายกระแสไฟฟ้าให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และโรงงานในเขตประกอบการอุตสาหกรรมสยามอีสเทิร์น อินดัสเตรียล พาร์ค (SEP) จังหวัดระยอง นับเป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกที่ประสบความสำเร็จในการได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากสถาบันการเงินใหญ่ จากทั้งหมด 19 โรงไฟฟ้าที่ได้รับการคัดเลือก
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้ให้การสนับสนุนเงินสินเชื่อแก่บริษัท ไทย เนชั่นแนล พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล พาวเวอร์ จำกัด (International Power PLC.-IPR) ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจากประเทศอังกฤษ จำนวนรวม 4,965 ล้านบาท มีระยะเวลาการกู้นาน 16 ปี โดยได้จัดโครงสร้างทางการเงินใหม่ ให้เอื้อประโยชน์ต่อการขยายตัวในอนาคต มีต้นทุนทางการเงินและการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของปัจจัยต่างๆที่เหมาะสม
สำหรับวงเงินสินเชื่อดังกล่าว บริษัท ไทย เนชั่นแนล พาวเวอร์ จำกัด จะนำไปดำเนินโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (Small Power Producer – SPP) ด้วยกำลังการผลิต 110 เมกะวัตต์ (MW) เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) จำนวน 90 MW โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 25 ปี ส่วนที่เหลืออีก 20 MW ขายให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมในเขตประกอบการอุตสาหกรรมสยามอีสเทิร์น อินดัสเตรียล พาร์ค
ทั้งนี้กลุ่มบริษัท ไทย เนชั่นแนล พาวเวอร์ จำกัด ( บริษัทฯ หรือ TNP) เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกให้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก จำนวน 1 โรง เมื่อเดือนมกราคม 2551 ตามแผนขยายกำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 (2552-2564) ในการขยายกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 30,392 เมกะวัตต์ (MW) ทั้งนี้โรงไฟฟ้าใหม่ดังกล่าว จะจัดตั้งในนามบริษัท ไทย เนชั่นแนล พาวเวอร์ 2 จำกัด (TNP2) มูลค่าก่อสร้างประมาณ 5,000 ล้านบาท และมีแผนเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (Commercial Operating Date : COD) ในปลายปี 2555
นายวศิน กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ของบริษัท ไทย เนชั่นแนล พาวเวอร์ จำกัด นับเป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกที่สามารถลงนามด้านการเงินได้สำเร็จในปีนี้ จากโรงไฟฟ้าที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด 19 โรง ซึ่งนับเป็นโครงการที่มีความมั่นคงสูงเนื่องจากมีแหล่งรับซื้อไฟฟ้าที่แน่นอน ทั้งจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ และโรงงานในเขตประกอบการอุตสาหกรรมสยามอีสเทิร์น อินดัสเตรียล พาร์ค ที่ยังคงมีแนวโน้มในการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การที่บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล พาวเวอร์ จำกัด ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่แห่งหนึ่งของโลกจากประเทศอังกฤษ โดยเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าทั้งหมด 45 โรง ใน 21 ประเทศทั่วโลก ด้วยกำลังผลิตรวมสุทธิ 20,648 เมกะวัตต์ เข้ามาตั้งกลุ่มบริษัท ไทย เนชั่นแนล พาวเวอร์ จำกัด เพื่อขยายลงทุนด้านพลังงานในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้เคยลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าแห่งแรกไปและเริ่มประกอบการเชิงพาณิชย์ไปแล้วเมื่อปี 2543 ย่อมแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจระยะยาวของไทย และมั่นใจในสถาบันการเงินของไทยในการเลือกให้เป็นผู้จัดสรรและสนับสนุนทางการเงินระยะยาวแก่โครงการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่