ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดใจไม่หวั่นปัจจัยลบการเมือง เชื่อกำลังซื้อและเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง เผยเดือนพฤษภาคม 53 ฟันยอดขายรวม 50 ล้านบาท จากจำนวน 16 สาขาทั่วประเทศ สวนภาวะวิกฤติทางการเมือง พร้อมสะท้อนกำลังซื้อผู้บริโภคยังคงเติบโต โดยเตรียมทุ่มงบการตลาด 7 ล้านบาท จัดโปรโมชั่นกระตุ้นกำลังซื้อต่อเนื่อง ภายใต้แคมเปญ “สร้างบ้านกับพีดีเฮ้าส์ รับโชคดี 4 ต่อ” หวังกวาดยอดขาย 50 หลัง ไตรมาส 2 หรือเฉลี่ยหลังละ 3-4 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 150-200 ล้านบาท เชื่อปี 53 นี้เป้ายอดขายรวม 600 ล้านบาท ยังมีลุ้น
นางมาลี สุวรรณสุต รองกรรมการผู้จัดการ ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ รู้จักกันนามศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า แม้ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาจะมีความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้น แต่ปรากฏว่าศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เกือบทุกสาขาทั้งในปริมณฑลและต่างจังหวัด ยังมีลูกค้าเข้ามาติดต่อใช้บริการสร้างบ้านเป็นปกติ จนสามารถทำยอดขายในเดือนพฤษภาคมแล้วเกือบ 50 ล้านบาทเศษ จากสาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน 16 สาขาทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ยกเว้นสาขาที่อยู่ใกล้บริเวณชุมนุมคือ สาขาย่อยศูนย์สิริกิติ์ที่ต้องปิดทำการระยะหนึ่ง แต่ขณะนี้สามารถเปิดทำการได้ตามปกติแล้ว จากผลตอบรับดังกล่าวสะท้อนว่ากำลังซื้อผู้บริโภคยังมีอยู่มากพอ โดยเฉพาะตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการเองว่าจะพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้อย่างไร และสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าไว้วางใจได้มากน้อยเพียงใด
“การที่บริษัทฯ มีลูกค้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญกับวิกฤติการเมืองก็ตาม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลยุทธ์การขยายสาขา ออกไปในทำเลที่หรือพื้นที่ใหม่ๆ โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่ทำให้ลูกค้าติดต่อใช้บริการกับ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาติดต่อกับบริษัทรับสร้างบ้านในกรุงทพฯ เช่นในอดีต ประกอบกับความน่าเชื่อถือในมาตรฐานบริการ และผลงานก่อสร้างบ้านที่มีมาตรฐานเดียกันทุกสาขา อันเกิดจากความตั้งใจของทีมงานศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาธุรกิจรับสร้างบ้าน ให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง กระทั่งปัจจุบันสามารถต่อยอดธุรกิจเดิมไปสู่โมเดลธุรกิจใหม่ ภายใต้ระบบแฟรนไชส์รับสร้างบ้านได้สำเร็จ ในส่วนของบริษัทฯ เองประเมินว่าธุรกิจรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดปี 2553 ถือเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่น่าจับตาแนวโน้มการเติบโต”
นางมาลี กล่าวต่อว่า กลยุทธ์การแข่งขันของ พีดีเฮ้าส์ ในตลาดรับสร้างบ้านจะไม่เน้นแข่งขันราคาหรือตัดราคาคู่แข่ง ทั้งนี้เพราะผลการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายบริษัทฯ พบว่า “ราคาต่ำไม่ใช่ปัจจัยหลัก” หากแต่ “คุณภาพบ้านและมาตรฐานที่สม่ำเสมอ” คือปัจจัยสำคัญ รวมถึงผู้ประกอบการเองต้องมีความน่าเชื่อถือและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดนั้นจะเน้นจัดรายการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนนี้ บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญ “สร้างบ้านประหยัดพลังงานกับ พีดีเฮ้าส์ รับโชคดี 4 ต่อ” โดยรางวัลใหญ่คือ โชคดีต่อที่ 1 ลุ้นรับบัญชีเงินฝาก 1,000,000 ล้านบาท โชคต่อที่ 2 รับเครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 1 เครื่องมูลค่า 50,000-70,000 บาท โชคต่อที่ 3 รับเครื่องปรับอากาศ (ประหยัดไฟเบอร์ 5) จำนวน 1 เครื่องมูลค่า 30,000 บาท และบริษัทฯ ได้จับมือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ AIS มอบโชคต่อที่ 4 รับทันที โทรศัพท์ Blackberry 1 เครื่อง พร้อมค่าบริการระบบแบบ Unlimited ฟรี ตลอดระยะเวลานาน 1 ปี มูลค่า 20,000-30,000 บาท คิดเป็นมูลค่าของรางวัลรวมกว่า 7 ล้านบาท โดยรายการส่งเสริมการขายครั้งนี้ มอบโชคให้เฉพาะลูกค้าที่สร้างบ้านกับ พีดีเฮ้าส์ 50 หลังแรกเท่านั้น
