ดิ เอ็มเพอเร่อร์ฯ ก้าวสู่ยุคที่ 5 ชูกลยุทธ์“TRUST”ประกาศความสำเร็จผู้นำการออกแบบ และสร้างงานสถาปัตยกรรมคลาสสิคระดับพรีเมี่ยม พร้อมรุกงานออกแบบบ้าน ต่างประเทศ เดินหน้าสร้างการรับรู้ต่อผู้บริโภคที่ชื่นชอบงานคลาสสิค จัดประกวดคำนิยาม “Trust classic…Trust The Emperor House’’ เปิดตัว 3 แบบบ้านใหม่ ร่วมงานรับสร้างบ้าน 2010 คาดปี 53 เติบโตเกินเป้า 10 %
นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด ผู้นำบริษัทรับสร้างบ้านระดับพรีเมี่ยม เปิดเผยว่า ในปีนี้นับเป็นปีที่บริษัทฯ ได้ก้าวสู่ยุคที่ 5 ของการดำเนินงาน โดยทั้ง 5 ยุค ประกอบด้วย ยุคที่ 1 “Word of Mouth” ยุคของการตลาดแบบปากต่อปาก (2531-2538) ยุคที่ 2 “Quality Beyond Standard” (2539-2545) ชูคุณภาพเหนือมาตรฐาน ยุคที่ 3 “Branding” (2546-2549) สื่อสารให้ผู้บริโภคทราบถึงความเป็น “The most valuable brand of home builder” ยุคที่ 4 “Beyond Expectation” (2550-2552) เน้นกลยุทธ์การใช้หนังสือ “บ้านคู่บารมี” นำเสนอผลงานออกสู่ผู้บริโภคในวงกว้างเหนือความคาดหมายของลูกค้าและคู่แข่ง และในปีนี้เพื่อให้การเติบโตของบริษัทเติบโตอย่างมั่นคง และเพื่อเป็นการประกาศความสำเร็จผู้นำการออกแบบและสร้างงานสถาปัตยกรรมคลาสสิคระดับพรีเมี่ยม ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นทั้งกลุ่มลูกค้าเก่า และกลุ่มลูกเป้าหมายที่ชื่นชอบงานสถาปัตยกรรมคลาสสิค ดังนั้นในปีนี้บริษัทจึงได้กำหนดกลยุทธ์ของยุคที่ 5 ให้เป็นยุคของ “TRUST”
ทั้งนี้ ที่มาของคำว่า “TRUST” ประกอบด้วย T= Touchable ลูกค้าสามารถสัมผัสผลงานการสร้างบ้านที่ทรงคุณค่าได้จริงจากบ้านที่สร้างเสร็จแล้วมากมาย R= Reliable ได้รับความเชื่อถือ และไว้วางใจจากลูกค้าในผลงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เป็นปีที่ 23 U=Unique ผลงานของบริษัทฯ มีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นหนึ่งเดียว S=Satisfied ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าต่อผลงานการก่อสร้างและบริการหลังการขาย T=Timeless สถาปัตยกรรมคลาสสิคไม่มีวันตกยุค ยังคงงดงามล้ำค่า อยู่ตลอดกาล โดยกลยุทธ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากจากการสั่งสมประสบการณ์และผลงานของบ้านสไตล์คลาสสิคระดับพรีเมี่ยมเป็นปีที่ 23 และความรู้สึกเชื่อมั่นในบริษัทฯ ของลูกค้าจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งจากลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จนสามารถเป็นเครื่องการันตีได้ จึงเป็นที่มาของ “Trust Classic…Trust The Emperor House” ที่บริษัทฯ ใช้เป็นข้อความสื่อสารหลัก และใช้เป็นแนวทางในดำเนินงานต่อเนื่องจากนี้ไปอีก 3 ปี
บริษัทเชื่อมั่นว่าการปรับกลยุทธ์ใหม่ในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯมีแนวทางใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น แต่ในขณะที่มาตรฐานจะเป็นสิ่งสำคัญที่เป็นจุดแข็งทีโดดเด่นและไม่ซ้ำแบบใคร อันจะนำไปสู่การได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้ามาถึง 23 ปี ที่ยังคงความเป็นผู้นำในการสร้างบ้านพักอาศัยระดับพรีเมี่ยม พร้อมตั้งเป้าขยายการเป็นบริษัทผู้นำในการออกแบบและก่อสร้างงานสถาปัตยกรรมคลาสสิคที่ทรงคุณค่าและครบวงจร โดยจะไม่จำกัดอยู่ที่งานสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปในประเทศไทยเท่านั้น แต่จะรุกขยายไปยังงานออกแบบสถาปัตยกรรมคลาสสิคอื่น ๆ และรวมไปถึงงานออกแบบบ้านในต่างประเทศอีกด้วย ได้แก่ ปากีสถาน และสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่ไว้วางใจให้บริษัทฯ ไปออกแบบบ้านสไตล์คลาสสิคให้พร้อมงานก่อสร้าง มูลค่ารวมประมาณ 55 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทได้มีการเปิดตัวแบบบ้านใหม่จำนวน 3 แบบ ได้แก่ 1.แบบ Extoller สไตล์ Contemporary Classic บ้าน 2 ชั้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช่สอย 670 ตร.ม. สง่างามด้วยงานสถาปัตยกรรมคลาสสิคถูกนำมาผสานกับความร่วมสมัยทำให้เกิดแบบบ้านที่สวยงามดูภูมิฐาน 2.แบบบ้าน Perpetual สไตล์ Neo-Classic พื้นที่ใช้สอย 1,740 ตร.ม. บ้าน 2 ชั้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ด้วยจุดเด่นของบ้านเกิดจากแรงบันดาลใจจากงานสถาปัตยกรรมทางยุโรป (Europe Classic Architecture) ที่มีความงดงามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ มาอย่างยาวนาน ก่อให้เกิดผลงานที่สร้างสรรค์อย่างปราณีตลงตัว 3.แบบบ้าน Exvanga สไตล์ Contemporary Classic บ้านขนาด 2 ชั้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 700 ตร.ม. จุดเด่น ด้วยความโอ่อ่า ภูมิฐาน และความสง่างามของสถาปัตยกรรมในสไตล์ Contemporary Classic ที่แสดงถึงความภาคภูมิใจของผู้เป็นเจ้าของ เหมาะสำหรับครอบครับขนาดกลาง โดยมีการออกแบบให้สมาชิกทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับทุกพื้นที่ภายในบ้านได้ ซึ่งแบบบ้านใหม่นี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และร่วมแสดง ในงานรับสร้างบ้าน 2010 ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 18-22 สิงหาคม ศกนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นายสุรัตน์ชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนของผลการดำเนินงานในปี 2553 บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้รวม 280 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วมากกว่า 10 % ถึงแม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะชะลอตัว แต่เชื่อมั่นว่าสถานการณ์ของตลาดรับสร้างบ้านระดับพรีเมี่ยมยังมีความต้องการในตลาด และกำลังซื้อยังคงมีสูงอยู่ ตลอดจนมีการเติบโตที่ต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของบริษัทฯ จะเห็นได้จากผลตอบรับ จากกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะกลุ่มเศรษฐีที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีการศึกษาและมีความรู้ดี ได้ชื่นชอบในงานคลาสสิค ทั้งนี้ตลาดรับสร้างบ้านโดยรวมยังคงแข็งแกร่งอยู่ บริษัทฯได้ประเมินสถานการณ์ภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2553 ยังคงมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 10 % โดยคิดจากมูลค่ายอดขายรวม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาท จากยอดขายประมาณการของปี 52 ซึ่งคาดว่าอยู่ที่ 11,000 ล้านบาท
ในขณะที่บ้านสร้างเองจะหดตัวลงต่ำสุดในรอบ 6 ปี โดยดูจากสถิติบ้านจดทะเบียนในกทม. และปริมณฑล ซึ่งมีผลกระทบมาจากเศรษฐกิจหดตัวเมื่อปีที่แล้ว คาดว่าบ้านที่สร้างเสร็จในปีนี้จะมีปริมาณลดลง แต่อย่างไรก็ตามสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้านแล้วกลับสวนทางโดยมีการขยายตัวเข้าไปแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากผู้รับเหมามากขึ้น จากเหตุผลดังกล่าวจึงพอสรุปได้ว่าปัจจุบันตลาดรับสร้างบ้านเองได้รับการพัฒนาเข้าไปอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านแบบมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี จากการปรับกลยุทธ์องค์กรใหม่ในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดโครงการประกวดคำนิยามและความหมายภาษาไทยของคำว่า“Trust classic…Trust The Emperor House’’ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายและบุคคลทั่วไปที่ชื่นชอบในงานคคลาสสิคได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอีกด้วย สำหรับผู้ที่ชนะเลิศการประกวดจะได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท และถ้าบริษัทนำไปใช้จริงจะได้รับเงินสมทบอีก 20,000 บาท ส่วนรางวัลรองชนะเลิศจำนวน 3 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 02 970 3080 หรือ www.emperorhouse.com
