สายการบินเอมิเรตส์ขยายน่านฟ้าการบินสู่แอฟริกาตะวันตก โดยเปิดตัวเส้นทางใหม่บินตรงสู่ดาการ์ ทะยานสู่ปลายทางการให้บริการการบินลำดับที่ 105 สายการบินเอมิเรตส เที่ยวบินที่ EK 797 คือเที่ยวบินเดียวที่ให้บริการบินตรงระหว่างกรุงดูไบและเซเนกัล ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางของเที่ยวบินเหลือเพียงแค่ 8 ชั่วโมง ช่วยให้การเดินทางสำหรับการท่องเที่ยวหรือการทำธุรกิจเป็นเรื่องสะดวก ง่ายและรวดเร็ว
ไนเจล เพจ รองประธานอาวุโสกระทรวงพาณิชย์ประจำแอฟริกาและอเมริกา กล่าวว่า “วันนี้เราได้เปิดตำนานของการเดินทางหน้าใหม่ระหว่างตะวันออกกลางและแอฟริกาตะวันตก ผู้ที่ต้องการเดินทางมายังเซเนกัล หรือออกจากเซเนกัล ไม่ต้องทนกับการเดินทางอันแสนยาวนานเพื่อที่จะอ้อมยุโรปหรือส่วนอื่นๆของแอฟริกา เพื่อจะไปสู่ปลายทาง”
ในทางกลับกัน ผู้โดยสารจะได้สัมผัสกับความสะดวกสบายของเที่ยวบินตรงมาสู่กรุงดูไบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมระหว่างประเทศในดินแดนตะวันออกกลาง,อินเดีย,เอเชีย และตะวันออกไกลเข้าด้วยกัน โดยมีสนามบิน Terminal3 ที่ทันสมัยไว้คอยให้บริการผู้เดินทาง รวมถึงการให้น้ำหนักกระเป๋าเป็นพิเศษแก่ผู้โดยสาร และ รางวัลให้บริการยอดเยี่ยม ที่ทำให้สายการบินเอมิเรตส์มีชื่อเสียง
เที่ยวบิน EK419 ของสายการบินเอมิเรตส์เปิดให้บริการผู้โดยสารทุกวันอังคาร, วันพุธ, วันศุกร์, วันเสาร์ และวันอาทิตย์ จาก กรุงเทพฯ โดยเครื่องจะออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 02.40 นาฬิกา และ ถึงดูไบ เวลา 05.45 นาฬิกและเปลี่ยนเครื่องเป็นเที่ยวบินที่ EK 797 ซึ่งออกจากดูไบเวลา 09.55 นาฬิกา และถึงดาการ์เวลา 16.00 นาฬิกา
เที่ยวโดยสารขากลับนั้น สายการบินเอมิเรตส์ได้จัดเตรียมเที่ยวบิน EK 798 ไว้คอยให้บริการผู้โดยสารโดยเครื่องจะออกจากเมืองหลวงเซเนกัล เวลา 17.40 นาฬิกา และถึงดูไบ เวลา 07.15 นาฬิกา ในวันถัดมา และเปลี่ยนเครื่องบินมากรุงเทพฯ เที่ยวบิน EK 418 เครื่องออก เวลา 08.50 นาฬิกา และ ถึงกรุงเทพฯ เวลา 18.10 นาฬิกา
สำหรับเครื่องบินขนส่ง เอมิเรตส์จะทำการขนส่งสินค้าราว 65 ตัน ต่อสัปดาห์ จากจุดหมายต่างๆในเครือข่ายของสายการบินซึ่งมีอยู่ทั่วโลก ซึ่งสินค้าดังกล่าวนั้นรวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อุตสาหกรรมสิ่งทอจากเอเชีย อุปกรณ์อิเลคโทรนิคจากเอเชียตะวันออกและยุโรป นอกจากนั้นยังมี สินค้าและเสื้อผ้าจากอินเดีย
สินค้านำเข้าที่สำคัญจาก เซเนกัล คือ อาหารซึ่ง เอมิเรตส์ สกายคาร์โก้ ได้ทำการคาดการว่าจะสามารถขนส่งอาหารทะเลได้มากกว่า 3,500 ตัน ต่อปี ในส่วนใต้ท้องของเครื่อง A340-300 ซึ่งเป็นที่มั่นใจได้ว่า สินค้าเช่น กุ้งมังกร, กุ้งและปลาทะเล จะยังสดใหม่อยู่เสมอเมื่อถูกส่งไปยังร้านอาหารทั่วเมืองดูไบ รวมถึงปลายทางอื่นๆที่นอกเหนือเครือข่ายของเอมิเรตส์ เช่น เอเธนส์, ลาร์นากา, โรม, มิลาน, มาดริด, ปารีส และเบรุต ก็สามารถขนส่งได้เช่นกัน
เส้นทางการบินใหม่สู่ดาการ์นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี และเมื่อช่วงเริ่มต้นของฤดูร้อนที่ผ่านมา ทางสายการบินได้สั่งเครื่องบินเพิ่ม โดยเพิ่มเครื่อง โบอิ้ง 777-300ER จำนวน 30 ลำ และเครื่องแอร์บัส A380 จำนวน 32 ลำ และได้สั่งเครื่องยนต์ GE90-115B ซึ่งมีมูลค่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 777 อีกด้วย ตอนนี้เรามีเครื่องบิน A380 ถึง 12 ลำ ให้บริการ โดยเอมิเรตส์ได้วางตัว A380 นี้ไว้สำหรับเส้นทางการบินไป ปักกิ่ง และแมนเชสเตอร์ โดยจะทำการเปิดตัวภายหลัง วันที่ 1 กันยายน
มร. เพจ กล่าว “ดาการ์เส้นทางการบินใหม่ของเรานี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่าเอมิเรตส์มีความตั้งใจที่จะเข้ามาลงทุน และสนับสนุนการแผ่ขยายธุรกิจในพื้นที่ของแอฟริกา ไม่เพียงแค่จัดบริการเส้นทางการบินเท่านั้น แต่ยังรวมถึง สร้างอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ ดังเช่น เราได้มีลูกเรือและพนักงานจำหน่ายตั๋วเครื่องบินเป็นชาวเซเนกัล ไม่เพียงเท่านั้นการเปิดเที่ยวบินใหม่นี้ยังช่วยสร้างผลดีในด้านการค้าและพาณิชย์ ในระยะยาวระหว่าง ภูมิภาคตะวันออกกลาง และแอฟริกาตะวันตก”
อัตราการขนส่งสินค้าระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กับ เซเนกัล ได้เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ซึ่งมีมูลค่า 14.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 184 ล้านแหรียญสหรัฐ ในปี 2552 ข้อมูลอ้างอิงจากกรมพาณิชย์และอุตสาหกรรมของดูไบ
มร. คาหลิด บาร์ดาน ผู้จัดการใหญ่ ประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน กล่าวว่า เส้นทางใหม่สู่ดาการ์นั้นเปิดการเปิดโอกาสด้านการค้าให้กับผู้ค้า ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าสินค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมและธุรกิจสิ่งทอ
ดาการ์ เป็น เส้นทางการบินลำดับห้า ที่เอมิเรตส์ได้เปิดตัวในปีนี้ เส้นทางอื่นๆ คือ โตเกียว ซึ่งเปิดไปแล้วเมื่อ 28 มีนาคม, อัมสเตอร์ดาม เปิดไปแล้วเมื่อ วันที่ 1 พฤษภาคม, ปราก เปิดไปแล้วเมื่อ วันที่ 1 กรกฎาคม และ มาดริด เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา