เอปสัน เดินหน้าส่งพรินเตอร์รุ่นสุดคุ้ม ME Series รุกตลาดออฟฟิศ

เอปสัน ประเทศไทย ขยายไลน์พรินเตอร์รุ่นสุดประหยัด ME Series (Max Economy) เปิดตัวพร้อมกัน 3 รุ่น จับกลุ่มออฟฟิศยุคใหม่ เน้นความคุ้มค่าการลงทุนระยะยาว

มร.เอนโดะ โคอิจิ ประธานบริษัท เอปสัน ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า วันนี้ เอปสันกำลังสร้างเทรนด์ใหม่ให้กับตลาดเอเชีย เทรนด์ของพรินเตอร์ที่ช่วยลดต้นทุนการพิมพ์และเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนให้กับลูกค้า เอปสันมีไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วนครอบคลุมองค์กรในทุกขนาด Epson ME Series และ ME Office เองก็เป็นหนึ่งในชุดผลิตภัณฑ์ที่ออกมาตอบรับความต้องการของออฟฟิศที่เน้นเรื่องความประหยัด

“เมื่อก่อน ลูกค้ามักจะตั้งคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความเร็วในการพิมพ์ คุณภาพงานพิมพ์ ต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่น ศักยภาพในการรองรับการทำงานหนัก หรือแม้แต่ความเหมาะสมกับการทำงานในออฟฟิศของอิงค์เจ็ต พรินเตอร์ เมื่อเทียบกับเลเซอร์ พรินเตอร์ แต่วันนี้ เอปสันได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าอิงค์เจ็ต พรินเตอร์เหนือกว่าเลเซอร์ พรินเตอร์ในหลายๆ ด้าน ที่สำคัญคือความคุ้มค่าในการลงทุนและคุณภาพของผลงาน แถมมีคุณสมบัติพิเศษที่มากกว่า เพื่องานที่ดีกว่าของลูกค้า” มร.โคอิจิ กล่าว

มร.เออิจิ คาโตะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าพรินเตอร์รุ่นประหยัดของเอปสัน ME Series ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าหลังจากเปิดตัวไป เพราะเป็นพรินเตอร์ที่เน้นความประหยัด ความคุ้มค่าในการลงทุนของลูกค้า ตลับหมึกรุ่นใหม่ที่พิมพ์งานได้มากด้วยต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นที่ถูกลง อีกทั้งพรินเตอร์ของเอปสันใช้ตลับหมึกแยกสี ที่ทำให้ไม่สิ้นเปลืองหมึกในเวลาพิมพ์ ลูกค้าสามารถเปลี่ยนเฉพาะตลับสีที่หมด บวกกับหัวพิมพ์ไมโครปิเอโซ ที่ทนทาน ใช้งานได้นาน

“ในช่วงภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ลูกค้าไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโฮมยูสหรือกลุ่มธุรกิจต่างก็ระมัดระวังในเรื่องต้นทุนการใช้จ่าย และการลงทุน พรินเตอร์ ME Series จึงเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมของช่วงเวลานี้ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดตัว ME32 และ ME320 พรินเตอร์ใน ME Series สำหรับกลุ่มโซโห และโฮมยูส ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักเรียน นักศึกษา เพราะตลับหมึกรุ่น 141 ที่ช่วยเพิ่มปริมาณการพิมพ์ ในต้นทุนต่อแผ่นไม่ถึง 1 บาท”

“ในวันนี้ เอปสัน ประเทศไทยจะนำเสนอความคุ้มค่าเพื่อลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีบ้าง ด้วยการเปิดตัว ME Series ในกลุ่มออฟฟิศ หรือ ME Office พร้อมกันทีเดียว 3 รุ่น ได้แก่ ME Office 620F, ME Office 900WD และ ME Office 960FWD ฟังก์ชั่นครบครัน คุณสมบัติพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานในสำนักงาน และต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นที่ถูกลง เอปสัน ประเทศไทย เชื่อว่า ME Office ทั้ง 3 รุ่นจะได้รับการตอบรับอย่างดีในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้” มร.คาโตะ กล่าว

ด้านนายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าแนวคิดของ ME Office คือการเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนของลูกค้าให้ได้มากที่สุด เครื่องทั้ง 3 รุ่นที่เปิดตัววันนี้เป็นมัลติฟังก์ชั่นพรินเตอร์รุ่นสุดประหยัด ที่เหมาะกับบริษัทและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่มีปริมาณการพิมพ์ต่อเดือนอยู่ที่ 200 – 500 แผ่น และต้องการคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการเชื่อมต่อเข้าระบบเครือข่าย พิมพ์งานผ่านระบบ WIFI เป็นเครื่องแฟกซ์ในตัว หรือการพิมพ์แบบดูเพล็กซ์ และยังต้องการประหยัดค่าไฟอีกด้วย

Epson ME Office 620F มีจุดเด่นตรงที่ความเร็วในการพิมพ์ 34 หน้าต่อนาที และคุณภาพการพิมพ์ระดับเครื่องเลเซอร์ เพราะใช้หมึก DURABrite Ultra Ink ที่ให้คุณภาพที่คมชัด ทนน้ำ และป้องกันการขูดขีด สำหรับตลับหมึกที่ใช้คือรหัส 141 ที่พิมพ์ได้เต็มที่ 235 แผ่น ด้วยต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นสำหรับเอกสารสีดำ 98 สตางค์ Epson ME Office 620F ยังช่วยประหยัดพลังงานเพียง 11 วัตต์ และมีอุปกรณ์ป้อนกระดาษอัตโนมัติ ขนาด 30 แผ่น มาพร้อมเครื่อง สามารถสั่งพิมพ์ผ่านระบบเครือข่าย ME Office 620F ราคาพิเศษในช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 3,990 บาท

สำหรับ ME Office 900WD และME Office 960FWD มัลติฟังก์ชั่นพรินเตอร์ที่ครบเครื่องเรื่องออฟฟิศ สามารถพิมพ์เอกสารขาวดำด้วยต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นเพียง 49 สตางค์ ใช้ตลับหมึกรุ่นใหม่ 143 สามารถพิมพ์ได้ต่อเนื่องเต็ม 945 แผ่น มีระบบการพิมพ์เอกสารสองหน้าอัตโนมัติ หรือ ดูเพล็กซ์ (Duplex) ที่สามารถกลับกระดาษอัตโนมัติ โดยเฉพาะรุ่น 900WD พิมพ์ได้ที่ความเร็วสูงเกือบ 4 เท่า เมื่อเทียบกับเครื่องของคู่แข่งในตลาด ทั้งสองรุ่นสามารถสั่งพิมพ์งานได้จากทุกที่ในออฟฟิศผ่านระบบ WIFI ส่วนความเร็วในการพิมพ์สูงสุดของ 900WD อยู่ที่ 36 หน้าต่อนาที และ 960FWD อยู่ที่ 38 หน้าต่อนาที นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย แป้นควบคุมการทำงานแบบปรับระดับได้ พร้อมจอ LCD ขนาด 2.5 นิ้ว ช่องเสียบการ์ดความจำ เพื่อสั่งพิมพ์รูปภาพตรงจากเครื่อง ถาดใส่กระดาษด้านหน้าความจุ 150 แผ่น ในรุ่น 900WD และ 250 แผ่นในรุ่น 960FWD สำหรับรุ่น 960FWD ยังเป็นแฟกซ์ในตัว เปิดตัวในราคา 12,900 บาท และรุ่น 900WD ในราคาที่ 6,990 บาท

ในด้านโปรโมชั่นในช่วงเปิดตัว ME Office นายยรรยงเปิดเผยว่า “ทางบริษัทฯ ได้จัดแคมเปญ “มิตรแท้ SME ไทย” เพิ่มความคุ้มให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ ช่วยลดต้นทุนค่าเครื่อง โดยลูกค้าที่ซื้อพรินเตอร์ ME Office ทั้ง 3 รุ่น สามารถผ่อน 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน พร้อมขยายการรับประกันเครื่องอีก 1 ปี รวมเป็น 2 ปี และสำหรับรุ่น 960FWD ยังแถมฟรีหมึกพิมพ์อีก 1 ชุด ซึ่งโปรโมชั่นนี้จะเริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31 มกราคม 2554”

“ME Office จะช่วยเอปสัน ประเทศไทยขยายฐานลูกค้าองค์กรธุรกิจที่ให้ความสำคัญอย่างมากกับเรื่องค่าใช้จ่ายภายในสำนักงาน ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พรินเตอร์ในกลุ่ม ME Office และ ME Series ยังเป็นกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดอิงค์เจ็ตพรินเตอร์ของเอปสัน ที่ปัจจุบันอยู่ในท็อป 3 และบริษัทฯ ยังมีแผนนำสินค้าใหม่ๆ ที่เน้นความประหยัดในการพิมพ์และความคุ้มค่าในการลงทุนของลูกค้าเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต” นายยรรยง กล่าวสรุป