TPOLY พร้อมขึ้นตลาดใหญ่ 16 ธ.ค. 53 เปิดโอกาสทางธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นให้พันธมิตร-นักลงทุน “เจริญ จันทร์พลังศรี” ระบุช่วยเพิ่มน้ำหนักในด้านความเชื่อมั่นจาก นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น พร้อมสะท้อนให้เห็นถึงฐานะกิจการที่แข็งแกร่ง หลังธุรกิจมีทิศทางเติบโตชัดทั้งงานรับเหมาก่อสร้าง และธุรกิจด้านพลังงาน ล่าสุดโชว์ผลงาน งวด 9 เดือนโดดเด่นBacklog เฉียด 4 พันลบ.ด้าน APM ที่ปรึกษาการเงินมั่นใจฐานะการเงินแข็งแกร่ง เติบโตต่อเนื่อง
นายเจริญ จันทร์พลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY ผู้นำในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการพิจารณาและอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้ทำการย้ายหลักทรัพย์จากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลท. โดยจะเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลท. อย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 16 ธ.ค. 53 ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้วัตถุประสงค์ที่บริษัททำการย้ายหลักทรัพย์ TPOLY จากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลท. เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นด้านการดำเนินงานที่มีศักยภาพของบริษัทต่อภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ พันธมิตรทางธุรกิจ นักลงทุน ตลอดจนหน่วยงานกำกับดูแล
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทมีนโยบายที่จะขยายธุรกิจออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการรับงานก่อสร้างโครงการที่หลากหลายรูปแบบ อาทิ อาคารสำนักงาน สนามบิน โรงพยาบาล ศูนย์การค้า ฯลฯ อีกทั้งยังมีการสร้างระบบการบริหารจัดการที่ดี เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงาน ประหยัดเวลาในการก่อสร้างโครงการต่างๆ ส่งผลให้บริษัทเป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั้งในภาครัฐและเอกชน ซึ่งแนวคิดการบริหารงานในรูปแบบดังกล่าวทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน เราตัดสินใจย้ายจาก Mai เข้า SET ก็เพื่อเพิ่มความคล่องตัวรองรับการเติบโตของ TPOLY ในอนาคต เพราะเชื่อว่าการย้ายเข้าไปซื้อขายใน SET จะก่อให้เกิดผลดีกับ TPOLY ในหลายๆ ด้าน ทั้งเพิ่มน้ำหนักในด้านความเชื่อมั่นจากทั้งนักลงทุนในประเทศและต่างชาติ รวมทั้งสถาบันการเงินต่างๆ ตลอดจนคู่ค้าและเจ้าของโครงการต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น และสะท้อนให้เห็นถึงฐานะกิจการของ TPOLY ว่ามีความแข็งแกร่ง ซึ่งจะทำให้การขยายธุรกิจในอนาคตเป็นไปอย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินก็จะต่ำลงเป็นผลดีต่อบริษัทฯ ยิ่งกว่าเดิม”นายเจริญ กล่าว
ขณะที่แผนการขยายธุรกิจของบริษัทจะเน้นการลงทุนที่ต่อยอดกับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท โดยเบื้องต้นบริษัทมีแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล กำลังการผลิต 9.5 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างประมาณปลายเดือน ม.ค. 54 และจะเริ่มสร้างรายได้ประมาณ 120 ล้านบาทในปี 2556 ซึ่งจะส่งผลให้รายได้จากการขายไฟฟ้าเสริมฐานรายได้ในอนาคตให้มั่นคงยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีแผนจะขยายฐานธุรกิจรับเหมาก่อสร้างให้ครบวงจร และเชื่อว่าการเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะทำให้การแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจ และการสนับสนุนเงินทุนจากสถาบันการเงินต่างๆ ในอนาคต เป็นไปอย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น
เขากล่าวอีกว่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2553 บริษัทฯ มียอดงานก่อสร้างในมือ (Backlog) คงเหลือประมาณ 3.3 พันล้านบาท โดยมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าภาคราชการที่ 43% และกลุ่มลูกค้าเอกชน 57% ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาเนื่องจนถึงปี 2555 และมีงานที่ประมูลได้อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีก 530 ล้านบาท ดังนั้นคาดว่าจนถึงสิ้นปีจะผลักดันงานในมือให้อยู่ที่ระดับ 4,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายได้สำเร็จ ส่วนในปีนี้บริษัทฯ ยังคงคาดว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 1,760.61 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีอยู่ ส่วนกำไรคาดว่าจะเติบโตจากปีก่อนอย่างชัดเจน เพราะ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี TPOLY สามารถทำกำไรสูงกว่าปีก่อนทั้งปีแล้วถึงร้อยละ 49
ทั้งนี้ TPOLY รายงานผลประกอบการงวด 3 เดือน ประจำไตรมาสที่ 3/2553 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 ว่า บริษัทฯ มียอดรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 546 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 43 เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง ในงวดไตรมาส 3 ปี 2552 ที่ 382 ล้านบาท บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิในงวดไตรมาสที่ 3 จำนวน 22.7 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.063 บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส ที่ 3 ปี 2552 ที่ทำได้ 5.37 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.015 บาท เป็นจำนวน 17.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 324 ในขณะที่งวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 ในงบการเงินรวม บริษัทฯ มียอดรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 1,297 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง ในงวด 9 เดือน ปี 2552 ที่ 1,272 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิในงวด 9 เดือน จำนวน 58.8 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.163 บาท เพิ่มขึ้น จากงวด 9 เดือนปี 2552 ที่ทำได้ 25.97 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.075 บาท เป็นจำนวน 32.8 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 127 และถือว่าเติบโตถึงร้อยละ 49 เมื่อเทียบกับปีก่อนทั้งปีที่ทำได้ 39.52 ลบ.
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความตั้งใจและแน่วแน่ในการดำเนินธุรกิจให้มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยความโปร่งใสมาโดยตลอด จนกระทั่ง TPOLY สามารถสร้างความแข็งแกร่งในด้านฐานะทางการเงิน จนทำให้บริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจะทำการย้ายหลักทรัพย์เพื่อมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 16 ธ.ค. นี้
“TPOLY ถือว่าเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจอื่นๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจของบริษัท ทั้งการสร้างโรงไฟฟ้า น้ำประปา รวมทั้งยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจรับแหมาก่อสร้างไปยังต่างประเทศด้วย ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ น่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุน TPOLY ให้มีการเติบโตที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในการเข้ามาลงทุนในหุ้นของ TPOLY” นายสมภพ กล่าว ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด โทร. 02-264-5678