ดัชมิลล์ เสริมความแกร่งผู้นำตลาดนมถั่วเหลือง ส่ง “ดีน่าไบโอกาบา” โกยยอดขาย 30%

บริษัท แดรี่ พลัส จำกัด ในเครือกลุ่ม บริษัท ดัชมิลล์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมอันดับ 1 นำโดย สุพัชรมณี ศรีวลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัท ดัชมิลล์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดกลุ่มนมถั่วเหลืองมีการแข่งขันสูงมาก โดยมีมูลค่าตลาดรวม 8,800 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 8% ซึ่งตลาดแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ นมถั่วเหลืองระดับพรีเมี่ยม เสริมคุณค่า (Value Added Segment) มีสัดส่วน 23% ของตลาดนมถั่วเหลืองทั้งหมด โดยแบรนด์ ดีน่า ครองผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดนี้, ตลาดนมถั่วเหลืองธรรมดา มีสัดส่วนของตลาดส่วนนี้ 66% และสุดท้ายตลาดนมถั่วเหลืองสำหรับเด็กขนาดตลาดประมาณ 10% ของตลาดทั้งหมด

โดยผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองภายใต้แบรนด์ ดีน่า ถือเป็นรายแรกที่บุกเบิกตลาดและเป็นผู้นำตลาดนมถั่วเหลืองชนิดเสริมคุณค่าระดับพรีเมี่ยม ซึ่งได้เพิ่มคุณค่าใหม่ๆ เพิ่มเติมจากนมถั่วเหลืองธรรมดาทั่วไป นำโดยนมถั่วเหลืองสูตรผสมงาดำ 2 เท่า มิราแคลเธอทีน ซึ่งในปัจจุบัน ดีน่า มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 60% ซึ่งมีการเติบโตเฉลี่ย 2 หลักมาตลอด (เทียบเท่าส่วนแบ่งตลาด 16% จากตลาดนมถั่วเหลืองโดยรวม) ด้วยนโยบายที่มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง เพิ่มคุณประโยชน์หรือเพิ่มสารอาหารให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มคนรุ่นใหม่

ล่าสุดได้ทุ่มเทพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จนได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองอร่อยเต็มสูตร “ดีน่า ไบโอกาบา สูตรผสมจมูกข้าวญี่ปุ่น” ภายใต้แนวคิดที่ล้ำหน้าจากนวัตกรรมทางด้านสารอาหารใหม่ คือ “กาบา” มารวมกับนมถั่วเหลือง ซึ่งมีทั้งสารอาหารกาบาและวิตามินบี 12 ที่มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเสริมด้วยประโยชน์ของโปรตีนจากถั่วเหลือง ที่ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง สดใส มาตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ซึ่งมีกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดและตัดสินใจอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา เพื่อช่วยให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ มี 2 ขนาด คือ 180 มล.ราคา 10 บาท และขนาด 230 มล. ราคา 12 บาท หาซื้อได้แล้ววันนี้ ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านค้าทั่วไป

ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดัชมิลล์ กล่าวต่อว่า มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ “ดีน่า ไบโอกาบา สูตรผสมจมูกข้าวญี่ปุ่น” จะได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นของสารอาหารบำรุงสมองที่เรียกว่า “กาบา” และวิตามินบี 12 จากจมูกข้าวสายพันธ์ญี่ปุ่น ชาซานิชิกิ (Sasanishiki ) ที่ปลูกในประเทศไทย ที่อำเภอแม่สรวย จังหวัด เชียงราย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีและภูมิใจอย่างมากที่ประเทศไทยสามารถปลูกข้าวสายพันธ์ญี่ปุ่นนี้ได้ ดังนั้นบริษัทฯ จึงใช้วัตถุดิบทั้งหมดจากเกษตรกรไทย และที่สำคัญยังมีความหอม อร่อย ของจมูกข้าวและถั่วเหลืองที่ผสมกันอย่างลงตัว ผ่านการทดสอบและพัฒนาผลิตภัณฑ์กับกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มวัยทำงาน คนรุ่นใหม่ รวมไปถึงกลุ่มนักศึกษา ที่ต้องการเสริมสมองและมีกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดตลอดเวลา แน่นอนว่าจุดเด่นดังกล่าวสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อย่างดียิ่ง

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ ถือเป็นโอกาสที่จะขยายเซ็กเม้นท์ใหม่ โดยบริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท สำหรับกิจกรรมทางการตลาดและส่งเสริมการขายทั้ง below the line และ above the line มีการผลิตภาพยนตร์โฆษณา เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมายอย่างกว้างขวาง ซึ่งจะเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ อีกทั้งยังมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อหลักทุกสื่อได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ รวมทั้งสื่อที่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคอย่าง BTS เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Roadshow / Troop เพื่อแจกชิมสินค้าอย่างเต็มที่กว่า 1.5 ล้านตัวอย่างทั่วประเทศ พร้อมทั้งกิจกรรมการส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่วนในด้านการกระจายสินค้านั้นได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคู่ค้าที่พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยได้มีการวางตลาดไปยังทุกช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างครบวงจร เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

สำหรับ “ดีน่า ไบโอกาบา” สูตรใหม่นี้ นับเป็นการปฏิวัติวงการผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม ที่ได้พัฒนาให้มีประโยชน์ด้านสารอาหารบำรุงสมองและร่างกายเพิ่มเติมจากนมถั่วเหลืองทั่วไป ทั้งนี้เพื่อขยายฐานกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ๆ ในวัยทำงานให้มากยิ่งขึ้น คาดว่าจะเพิ่มยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 30% ตั้งแต่ ไตรมาสที่สองนี้เป็นต้นไป และสามารถขยายฐานตลาดได้มากขึ้น โดยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5% ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์ ตรา ดีน่า เป็นผู้นำในตลาดนมถั่วเหลืองเสริมคุณค่าที่แข็งแกร่ง และมีส่วนแบ่งตลาดโดยรวมประมาณ 22% ภายในปลายปีนี้ สุพัชรมณี ศรีวลี กล่าวทิ้งท้าย