“โฮมโปร”โชว์กำไรครึ่งปี 54 โต 24.67%

“โฮมโปร” โชว์ผลประกอบการครึ่งปี 54 โกยกำไรเพิ่ม 24.67% กำไรสุทธิอยู่ที่ 887.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 175.54 ล้านบาท หลังกวาดยอดขายทะลุ 13,000 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายสาขาเดิม เปิดสาขาใหม่ และงาน HomePro EXPO พร้อมเตรียมเร่งขยายสาขาในปีนี้ให้ครบ 5 แห่ง

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้นำธุรกิจศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 887.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 175.54 ล้านบาท หรือ 24.67% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักได้แก่

รายได้จากการขาย สำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2554 มีจำนวน 13,559.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2553 จำนวน 2,126.87 ล้านบาท หรือ 18.60% การเพิ่มขึ้นของยอดขายเป็นผลเนื่องจากการเติบโตของสาขาเดิมและการเปิดสาขาใหม่ ได้แก่ สาขาฉะเชิงเทราและสาขาร้อยเอ็ด รวมถึงการจัดงาน HomePro Expo ครั้งที่ 13 เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และมีการปรับโฉมใหม่ของ “โฮมโปร” สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นเป็นจำนวนเงิน 3,408.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 619.66 ล้านบาท หรือ 22.22% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเท่ากับ 25.14% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 24.40% เป็นผลเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงส่วนของกลุ่มสินค้าขาย

นายคุณวุฒิ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้ค่าเช่าและบริการ จำนวน 391.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2553 จำนวน 15.78 ล้านบาท หรือ 4.20% เป็นผลเนื่องจากการเพิ่มรายได้ค่าเช่าพื้นที่ของร้านค้าเช่าในโฮมโปร และรายได้จากพื้นที่เช่าศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ

สำหรับในส่วนของรายได้อื่น ๆ นั้น บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีจำนวน 541.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2553 จำนวน 88.72 ล้านบาท หรือ 19.60% เป็นผลเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าโฆษณาและส่งเสริมการขาย และค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร มีจำนวน 2,981.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2553 จำนวน 442.64 ล้านบาท หรือ 17.44% ค่าใช้จ่ายดังกล่าวคิดเป็น 21.99% ของยอดขาย ซึ่งใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปี 2553 ที่มีอัตราส่วนเท่ากับ 22.21% ของยอดขาย ค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินที่เพิ่มขึ้นเป็นผลเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของเงินเดือน, ค่าขนส่งและค่าบริการ, ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบัตรเครดิต และค่าเสื่อมราคา

นายคุณวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในปี 2554 นั้น บริษัทฯ ยังมีนโยบายการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ให้ครบ 5 สาขา โดยสาขาที่เปิดไปแล้วนั้นจำนวน 3 สาขา ได้แก่ สาขาฉะเชิงเทรา, สาขาร้อยเอ็ด และสาขาสุพรรณบุรี ยังเหลืออีก 2 แห่ง คือ สาขาลพบุรี และสาขาสกลนคร ที่จะเปิดช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมกันนั้น ยังมีการปรับปรุงสาขาเดิม เพื่อเพิ่มอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องอีกด้วย