ธนาคารกสิกรไทย ประเดิมแบงก์พาณิชย์แรก จัดโครงการสินเชื่อเอสเอ็มอีดอกเบี้ยพิเศษ ลดภาระค่าแรงเพิ่ม ให้ผู้ประกอบการกู้เสริมสภาพคล่อง พร้อมหนุนการพัฒนาฝีมือแรงงาน ขยายการลงทุนในพื้นที่ที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในระยะยาว เตรียมวงเงินปล่อยสินเชื่อในโครงการนี้ 1 พันล้านบาท
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากมาตรการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน ซึ่งได้ทยอยปรับเพิ่มขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ใน 7 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม และภูเก็ต และจะปรับขึ้นเท่ากันทุกจังหวัดทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นไป จึงคาดว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน โดยเฉพาะการจัดการเรื่องต้นทุนและสภาพคล่องทางธุรกิจเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายด้านค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น
ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทยจึงออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบการ โดยได้ออกโครงการ สินเชื่อเอสเอ็มอีดอกเบี้ยพิเศษ ลดภาระค่าแรงเพิ่ม เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรก โดยโครงการดังกล่าวจะให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ ทั้งวงเงินเบิกเกินบัญชี (O/D) และสินเชื่อระยะยาว (L/N) ด้วยวงเงินสูงสุด 95% ของมูลค่าหลักประกัน ในกรณีที่เป็นธุรกิจที่มีจำนวนแรงงานมากกว่า 10 คน จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษตามจำนวนคนงานที่มีการจ้างงาน ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2-4% สูงสุด 6 เดือนแรก หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยปกติของธนาคาร ระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 5 ปี โดยในช่วง 12 เดือนแรก สามารถผ่อนชำระขั้นต่ำ 50% ของยอดผ่อนชำระปกติ ซึ่งวงเงินดังกล่าวจะช่วยเสริมสภาพคล่องของธุรกิจ รวมทั้งสามารถใช้ในการพัฒนาแรงงาน และการลงทุนเพิ่มเติมในพื้นที่ที่มีศักยภาพ
นอกจากนี้ ธนาคาร ฯ ยังมีสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อเครื่องจักร วงเงินกู้สูงสุด 80% ของมูลค่าเครื่องจักร อัตราดอกเบี้ยคงที่ MRR+1.5% ระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 5 ปี เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนธุรกิจในระยะยาวด้วยเช่นกัน
ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ที่มีผลบังคับใช้แล้ว และกำลังจะมีผลบังคับใช้ในอนาคต จะต้องมีการจ้างงานตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และใช้บริการบัญชีเงินเดือนธนาคารกสิกรไทย (Payroll) โดยธนาคาร ฯ จะให้บริการฟรีนาน 12 เดือน ผู้สนใจสามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเอสเอ็มอีดอกเบี้ยพิเศษ ลดภาระค่าแรงเพิ่ม ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2555 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ K-BIZ Contact Center 0 2888 8822
นายพัชรกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันต้นทุนด้านแรงงาน นับเป็นหนึ่งในต้นทุนที่สำคัญของธุรกิจเอสเอ็มอี โดยคิดเป็น 16.2% ของต้นทุนค่าใช้จ่ายทั้งหมด จากค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ยเดิมอยู่ที่ 175.8 บาทต่อวัน การเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน จะส่งผลให้เอสเอ็มอีมีต้นทุนเพิ่มขึ้นอีก 6.4% ของต้นทุนทั้งหมด ซึ่งเบื้องต้นรัฐบาลทั้งกระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงานได้มีการออกมาตรการทางภาษีและความช่วยเหลือทางการเงินต่าง ๆ เพื่อช่วยผู้ประกอบการในการรับมือภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ธนาคารกสิกรไทยก็เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่ออกโครงการ สินเชื่อเอสเอ็มอีดอกเบี้ยพิเศษ ลดภาระค่าแรงเพิ่ม ดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือเพิ่มเติมจากภาครัฐ โดยธนาคารเตรียมวงเงินสำหรับช่วยเหลือในโครงการนี้ทั้งสิ้น 1 พันล้านบาท