บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปี 2555 รายได้เติบโตเป็นที่น่าพอใจ จากลูกค้าบริการ 3G+ ของทรูมูฟ เอช ที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเป็น 2 ล้านราย ในขณะที่ บริการบรอดแบนด์ยังคงเติบโตดี จากการขยายบริการ ULTRA hi-speed Internet สู่ตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง
ในไตรมาส 2 ปี 2555 กลุ่มทรูมีรายได้จากการให้บริการโดยรวม จำนวน 15.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่จากรายได้จากการให้บริการของทรูมูฟ เอช ขณะที่รายได้ของกลุ่มทรูออนไลน์ เพิ่มขึ้นจากรายได้บริการบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไป ซึ่งเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอัตราร้อยละ 6.4 และ 18.8 ตามลำดับจากไตรมาสที่ผ่านมาและช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า นอกจากนี้ รายได้จากการขาย (ส่วนใหญ่จากสมาร์ทโฟน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 77.3 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า จากการใช้บริการข้อมูล (หรือ โมบาย อินเทอร์เน็ต) ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งความนิยมของแพ็กเกจสมาร์ทโฟนจากทรูมูฟ เอช
อย่างไรก็ดี กำไรจากการดำเนินงาน ก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ของกลุ่มทรู ในไตรมาส 2 ปี 2555 อ่อนตัวลงร้อยละ 5.9 จากไตรมาส 1 ปี 2555 (ลดลงร้อยละ 14.6 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า) ส่วนใหญ่จากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ใน 3 ธุรกิจหลัก เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ และช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ามีการใช้งานเพิ่มขึ้น เนื่องจากไตรมาส 2 นี้ถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่นส์ ของธุรกิจโทรคมนาคม
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 ปี 2555 กลุ่มทรูรายงานผลขาดทุนสุทธิการดำเนินงานปกติ (NIOGO) ไม่รวมภาษีเงินได้รอตัดบัญชี จำนวนทั้งสิ้น 1.4 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ขาดทุน 1.0 พันล้านบาท ในไตรมาสก่อนหน้า และมีผลขาดทุนสุทธิสำหรับส่วนที่เป็นของบริษัท จำนวนทั้งสิ้น 2.2 พันล้านบาท โดยมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 466 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลขาดทุนทางบัญชี ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กล่าวว่า “ในไตรมาส 2 กลุ่มทรูยังคงเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งของการเป็นผู้นำการให้บริการ hi-speed Internet โดยเดินหน้าขยายพื้นที่ให้บริการบรอดแบนด์ทั้งผ่านระบบไร้สาย 3G+ และผ่านระบบสาย ด้วยเทคโนโลยี DOCSIS 3.0
นอกจากนี้ ยังเร่งเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณของทรูวิชั่นส์ ทั้งระบบเคเบิล และจานดาวเทียม ทำให้สามารถเปิดใช้งานระบบออกอากาศใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงได้ในกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเร็วกว่าเดือนตุลาคมตามกำหนดการเดิม ยิ่งไปกว่านั้นยังได้เปิดตัวบริการเสริม แอพพลิเคชั่น และคอนเทนต์ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้า ได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มคอนเวอร์เจนซ์ศักยภาพสูงของกลุ่มทรูอย่างเต็มที่”
ในไตรมาส 2 ปี 2555 รายได้จากการให้บริการของ กลุ่มทรูวิชั่นส์ ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างจำกัด แม้รายได้จากค่าโฆษณา และกิจกรรมต่าง ๆ จะมีการเติบโตที่ดี ทั้งนี้จากรายได้จากค่าสมาชิกที่ลดลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการลักลอบใช้สัญญาณ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความเชื่อมั่นว่า การเปิดใช้ระบบออกอากาศใหม่ ซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยีการบีบอัดสัญญาณภาพ MPEG-4 ที่มีความปลอดภัยสูงในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จะช่วยขจัดปัญหาจากการลักลอบใช้สัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มรายได้จากการให้บริการได้
ในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ การเปิดตัวแพ็กเกจใหม่ Platinum HD ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนระบบออกอากาศใหม่ ทำให้สมาชิกระดับบนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทรูวิชั่นส์ยังเพิ่มช่องรายการในระบบ High Definition (เอชดี) จากเดิม 12 ช่อง เป็น 17 ช่องในเดือนกรกฎาคม รวมทั้งยังเสริมสร้างความเป็นผู้นำรายการกีฬาระดับโลก โดยได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดรายการอเมริกันฟุตบอล “NFL” รายการ English Premier League ฤดูกาล ปี 2012/13 และ รายการ London Olympic 2012 ในระบบเอชดี
กลุ่มทรูโมบาย ได้ออกแคมเปญร่วมกับโทรศัพท์เคลื่อนที่หลากหลายรุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าสมาร์ทโฟนทุกกลุ่ม โดยมีเป้าหมายเพื่อการขยายฐานลูกค้าของทรูมูฟ เอช แคมเปญต่างๆ นี้มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้ลูกค้าระบบรายเดือนของทรูมูฟ ย้ายเครือข่ายมาใช้บริการของทรูมูฟ เอชเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังดึงดูดให้ลูกค้าที่มียอดค่าบริการรายเดือนสูงจากเครือข่ายอื่นๆ เปลี่ยนมาใช้บริการ 3G+ ของทรูมูฟ เอช เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในไตรมาสนี้ กว่าร้อยละ 70 ของฐานลูกค้าระบบรายเดือนของทรูมูฟ เอช เป็นลูกค้าใหม่ที่ไม่ได้ย้ายมาจากฐานลูกค้าเดิมของกลุ่มทรู ทำให้ ทรูมูฟ เอช มีจำนวนผู้ใช้บริการรวมกว่า 2.0 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 2 และส่งผลให้กลุ่มทรูโมบาย มีจำนวนผู้ใช้บริการโดยรวมทั้งสิ้นกว่า 19.5 ล้านราย
กลุ่มทรูออนไลน์ มีจำนวนผู้ใช้บริการบรอดแบนด์รายใหม่สุทธิทั้งสิ้น 62,500 ราย จากความนิยมอย่างต่อเนื่องของบริการ ULTRA hi-speed Internet และมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 1.47 ล้านราย ทั้งนี้บริการบรอดแบนด์ของกลุ่มทรูออนไลน์ ซึ่งใช้เทคโนโลยี DSL และ DOCSIS ครอบคลุม 3.0 ล้านครัวเรือน โดยสามารถให้บริการครอบคลุม 38 จังหวัดทั่วประเทศ
นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน กล่าวว่า “รายได้จากการให้บริการโดยรวมของกลุ่มทรูเติบโตเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเป็นผลจากการลงทุนขยายพื้นที่ให้บริการ 3G+ และบริการบรอดแบนด์ผ่านเทคโนโลยี DOCSIS 3.0 และ ADSL อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2555 บริษัทมีหนี้สินระยะยาว (รวมส่วนที่ครบกำหนดชำระใน 1 ปี) เพิ่มขึ้น ประมาณ 2.7 พันล้านบาทจากสิ้นปี 2554
นอกเหนือไปจากนั้น การทำการตลาดอย่างเต็มที่ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ ทำให้กลุ่มทรูมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากตั้งแต่การเปิดตัวบริการ 3G+ ของทรูมูฟ เอช รวมถึงการขยายการพื้นที่ให้บริการ ULTRA
hi-speed Internet และ การเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณของ ทรู วิชั่นส์ อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายดังกล่าว เป็นไปเพื่อสนับสนุนธุรกิจใหม่ในช่วงเริ่มต้น ทั้งนี้ บริษัทจะเริ่มนำเอามาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายมาใช้ หลังบรรลุแผนการขยายธุรกิจตามที่ได้วางไว้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานและสถานภาพทางการเงินที่ดีขึ้นในระยะยาว”