‘เคซีจี กิมจั๊วกรุ๊ป’ ทุ่ม 1,000 ล้านบาท เปิดโรงงานเนยและชีสแห่งใหม่ ขยายกำลังเพิ่ม 100%

เคซีจี กิมจั๊วกรุ๊ป โชว์ศักยภาพความพร้อมด้านกำลังผลิต ประกาศเดินหน้าเปิดตัวโรงงานแห่งที่ 3 ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานเนยและชีส พร้อมนำเข้าเครื่องจักรนวัตกรรมใหม่ล่าสุด เพื่อขยายกำลังการผลิต หวังรองรับความต้องการของตลาดและการเปิดตลาดอาเซียนในอนาคต นอกจากนี้ ยังผุดศูนย์วิจัยและพัฒนา “KCG Excellence Center” สำหรับสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่เกี่ยวกับอาหาร พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนกันยายนนี้ 

คุณตง ธีระนุสรณ์กิจ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิมจั๊วกรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้าสินค้าอาหารสำเร็จรูปและเนยแข็งระดับโลกจากต่างประเทศ, ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าบริโภคที่มีคุณภาพรายใหญ่ในประเทศไทย อาทิ เนยและชีส ”อลาวรี่” บิสกิต “อิมพีเรียล” น้ำผลไม้เข้มข้น “ซันควิก” ฯลฯ เปิดเผยว่า ตลอด 54 ปี ที่ดำเนินธุรกิจมา เคซีจี กิมจั๊วกรุ๊ป มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพซึ่งบริษัทฯ ให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ คุณภาพสูง จนกระทั่งเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป  ซึ่งในปัจจุบันนโยบายการดำเนินธุรกิจจากนี้ไปจะให้ความสำคัญกับการขยายตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เนยและชีสมากขึ้น หลังจากพบว่าเทรนด์การบริโภคของคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ตลาดเนยและชีส ในประเทศไทยมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 10% และด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจเนยและชีส จึงได้ก่อสร้างโรงงานใหม่แห่งที่ 3 ของกลุ่ม เคซีจี กิมจั๊วกรุ๊ป ภายใต้ชื่อ “บริษัท ยูไนเต็ด แดรี่ฟู้ดส์ จำกัด (เทพารักษ์)(UDF Theparak)” ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการผลิตสินค้าเนยและชีส ด้วยงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้สามารถรองรับความต้องการของตลาดที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตลอดจนการเปิดเสรีการค้าของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอนาคตด้วย  

โรงงาน “ยูไนเต็ดแดรี่ฟู้ดส์ (เทพารักษ์)” ตั้งอยู่บนถนนเทพารักษ์ เขตบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ บนพื้นที่ขนาด 20 ไร่ โรงงานแห่งนี้ได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด พร้อมด้วยเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูง นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งทุกขั้นตอนของการทำงานจะถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย ภายใต้การรับรองมาตรฐาน ISO 9001, GMP, HACCP, HAL-Q และ HALAL ทำให้กระบวนการผลิตและสินค้าที่ได้ตรงตามมาตรฐานสากล ส่งผลให้โรงงาน UDF เทพารักษ์ แห่งนี้เป็น โรงงานผลิตเนยและชีสที่มีความทันสมัย โดยเพิ่มกำลังการผลิตได้มากขึ้นถึง 100% จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 4,000 ตัน/ปี เป็น 8,000 ตัน/ปี  โรงงานแห่งใหม่นี้ประกอบไปด้วย อาคารสำนักงาน  KCG Excellence Center สำนักงานฝ่ายจัดส่ง, อาคารคลังสินค้าและลานโหลด อาคารผลิต โรงอาหารและหอพักพนักงาน ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีศูนย์กระจายสินค้าที่มีระบบโลจิสติกส์ ที่มีประสิทธิภาพสูงในการจัดส่งสินค้าที่ได้มาตรฐาน 4 แห่ง ได้แก่ สมุทรปราการ เชียงใหม่ ขอนแก่น และ     สุราษฎร์ธานี ครอบคลุมพื้นที่การจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ทำให้สินค้าส่งตรงถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็วทันต่อความต้องการ

ซึ่ง KCG Excellence Center เป็นศูนย์วิจัย พัฒนา และสร้างสรรค์นวัตกรรมเกี่ยวกับอาหาร ตลอดจนการส่งเสริมให้เกิดงานวิจัยที่ดีมีคุณภาพ  จากองค์กรในระดับสากลจากต่างประเทศ และมหาวิทยาลัยชั้นนำในไทย อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ทางด้านอาหารและผลิตภัณฑ์แปรรูปร่วมกัน ทั้งนี้ KCG Excellence Center ประกอบไปด้วย อาคารสำนักงาน ห้องปฏิบัติการด้านการทดสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในสภาวะการใช้งานจริง ห้องทดสอบการรับรู้รสอาหาร ห้องปฏิบัติการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ห้องปฏิบัติการทางเคมี ห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยา และห้องสมุด ทำให้ KCG Excellence Center ถือเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ค้นคว้า ทดลอง วิจัย และพัฒนาทางด้านอาหารอย่างครบวงจร 

“ทั้งหมดนี้เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศและรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยโรงงานผลิตเนยและเนยแข็งแห่งใหม่นี้ จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ ”  นายตง กล่าวในท้ายที่สุด