สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ “เบโด้” เปิดตัวโครงการ “จุดรักษ์ ยิ้ม” ช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชีวภาพของชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรูปแบบใหม่ ทั้งตู้จำหน่ายสินค้าอัจฉริยะ หรือ Vending machine, Wall Shopping บนรถเมล์ เครื่องบิน รถไฟฟ้า BTS และ MRT หวังเพิ่มช่องทางการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ทรัพยากรชีวภาพมากขึ้น และให้เกิดการรับรู้ของผู้บริโภค และเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง เสียค่าใช้จ่ายด้านการบริหารจัดการต่ำ ประหยัดเวลา พร้อมเตรียมขนสินค้ากว่า 19 รายการออกจำหน่าย พร้อมออกตรา Bio Economyเห็นตรานี้ซื้อเลย ช่วยชาติ ช่วยชุมชน ช่วยสิ่งแวดล้อม ประเดิมวางตู้จำหน่ายฯ 2 จุด บน MRT สถานีพระราม 9 และเมเจอร์รัชโยธิน พร้อมเริ่มจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ “จุดรักษ์ ยิ้ม” ต่าง ๆ ตั้งเป้าขยายจุดวางตู้ฯ สินค้าอัจฉริยะทั่วประเทศต่อไป
ผศ.ดร.วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO เปิดเผยว่า ตามที่ “เบโด้” ได้จัดตั้งศูนย์แสดงผลิตภัณฑ์ชีวภาพจากชุมชน “ฟ้าใสแกลอรี่” เพื่อยกระดับการแข่งขันทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ชีวภาพจากชุมชน และเป็นช่องทางในการสื่อสารกับภาคธุรกิจและผู้บริโภค โดยเน้นการจัดแสดงและสร้างรูปแบบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากฐานชีวภาพของชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และในปี 2557 นี้ เบโด้ ได้จัดโครงการ “จุดรักษ์ ยิ้ม” ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายต้นแบบ เช่น ตู้จำหน่ายสินค้าอัจฉริยะ หรือ Vending machine, Wall Shopping ซึ่งจะทำให้เกิดช่องทางการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ทรัพยากรชีวภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เกิดการรับรู้ของผู้บริโภคมากขึ้น และให้สินค้าสามารถเข้าหาลูกค้าได้โดยตรง เสียค่าใช้จ่ายด้านการบริหารจัดการต่ำ ส่งผลให้ต้นทุนต่ำลง ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาดเพิ่มศักยภาพในการปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลาลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในส่วนของค่าเช่าพื้นที่ขายหรือการลงทุนในการสร้างร้าน ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนของธุรกิจต่ำลงมีช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้น
ทั้งนี้ทาง เบโด้ ได้ร่วมกับทางคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทำการศึกษา วิจัย และวิเคราะห์ความนิยมของสินค้า ตลอดจนผลการตอบรับ โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า อาทิ พฤติกรรมการบริโภค สินค้าที่ต้องการ เพื่อวางแผนการตลาด สรรหาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาดมากขึ้น สร้างภาพลักษณ์ในเรื่องของความทันสมัยให้กับร้านฟ้าใสแกลอรี่ และเป็นโอกาสที่จะทำให้สินค้าสามารถขยายตลาดได้กว้างและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเน้นการสร้างช่องทางรูปแบบใหม่Vending machine, Wall Shopping / รถเมล์ เครื่องบิน รถไฟฟ้า BTS / MRT ฯลฯ รวมถึงช่วยประหยัดต้นทุน ทั้งยังเป็นการช่วยชาติ ช่วยสิ่งแวดล้อม ทั้งผู้ซื้อ ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และได้เข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมาก ทั้งยังช่วยสร้างการรับรู้ ตระหนักและมีส่วนร่วมในการสร้างเศรษฐกิจจากทรัพยากรชีวภาพอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ผศ.ดร.วีระพงศ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาจำหน่ายทั้งหมดอยู่ในกลุ่มของใช้ส่วนตัว เป็นจำนวนทั้งสิ้น 19 รายการได้แก่ ชีวาแชมพูใบหมี่ –อัญชัน ชีวาครีมนวดผมใบหมี่ ชีวาสบู่เหลวน้ำนมข้าว ชีวาเกลือขัดผิวขมิ้นชัน – น้ำผึ้ง ชีวาน่าแชมพูสมุนไพร 5 ชนิด ชีวาน่าครีมนวดผมสมุนไพร 5 ชนิด ชีวาน่าแฮร์โทนิค บำรุงเส้นผม – หนังศรีษะ ชีวาน่าเจลล้างหน้ามะเฟือง – บัวบก ชีวาน่าโทนเนอร์มะเฟือง – บัวบก ชีวาน่าเจลอาบน้ำมะเฟือง – บัวบก ชีวาน่าเกลือขัดผิว บ้านบ่อเกลือ ชีวาน่าโลชั่นบำรุงผิวมะเฟือง – บัวบก ชุมตาบงสบู่เหลวหม่อนไหม ชุมตาบงสบู่ก้อนหม่อนไหม อนงค์ทิพย์สบู่เหลวธัญพืช อนงค์ทิพย์ครีมขัดผิวธัญพืช อนงค์ทิพย์ Lotion ธัญพืช ครีมอาบน้ำขลู่ และเกลือขัดผิวขลู่
สำหรับช่องทางจำหน่ายเครื่อง ตู้จำหน่ายสินค้าอัจฉริยะ หรือ Vending Machine ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จาก “ร้านฟ้าใสแกลอรี่” จำนวน 2 เครื่อง โดยติดตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน MRT สถานีพระราม 9 และเมเจอร์รัชโยธิน และWall Shopping อีก 9 ชุด ประกอบด้วย การติดตั้งที่สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ (Pier head) 2 ชุด สถานีอ่อนนุช (Phone pole) 2 ชุด รวมทั้งสิ้น 4 ชุด และสถานีรถไฟใต้ดิน MRT สถานีพระราม 9 (Light box) จำนวน 1 ชุด และสื่อ In Buzz ในรถโดยสารประจำทาง NGV 10 สายในเส้นทางที่ผ่านสถานที่ชุมชน ห้างสรรพสินค้าและมหาวิทยาลัยในกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 3 ชุด และร้านกาแฟที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร อีก 1 ชุด โดยเริ่มจำหน่ายแล้วที่ “จุดรักษ์ ยิ้ม” ต่าง ๆ
“นอกจากนี้ เบโด้ ยังได้ออกตราส่งเสริม (BioEconomy) อันเป็นสัญลักษณ์ที่จะ สื่อสารถึงผู้บริโภคและสังคมเมืองให้ช่วยกันอุดหนุนผลิตภัณฑ์ที่ได้รับตรา ซึ่งจะบ่งบอกว่า (1) ผลิตภัณฑ์มีการใช้ทรัพยากรชีวภาพหลักจากชุมชน (2) มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ (3) มีการนำรายได้ส่วนหนึ่งกลับไปฟื้นฟู ดูแล และรักษาแหล่งวัตถุดิบอีกด้วย”
ผศ.ดร.วีระพงศ์ กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า จากการศึกษาหาช่องทางการจำหน่ายทางการตลาดในรูปแบบใหม่ๆ นี้ จะช่วยสร้างยอดขาย สร้างการรับรู้ให้กับร้านฟ้าใสแกลอรี่ และ “จุดรักษ ยิ้ม” ได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากฐานชีวภาพให้กับชุมชน และจากแหล่งผลิตกับภาคธุรกิจในหลายๆ รูปแบบ และสามารถสร้างต้นแบบของการขายสินค้าของร้านฟ้าใสแกลอรี่ ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลวางแผนด้านการลงทุนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับ เบโด้ ต่อไปในอนาคต