“สหพัฒน์” หนึ่งในยักษ์ใหญ่แห่งวงการสินค้าอุปโภค บริโภคของประเทศไทย ที่มีบริษัทในเครือกว่า 300 บริษัท และเป็นประจำทุกปีที่มีการจัดงาน “สหกรุ๊ปแฟร์” งานแสดงสินค้าจากบริษัทในเครือ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายและการส่งออก
ทุกปี “เสี่ยใหญ่” บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ นอกจากจะให้สัมภาษณ์แนวโน้มเศรษฐกิจของไทย ส่วนปีนี้ เสี่ยใหญ่ฝากความหวังไว้ที่ครึ่งปีหลังว่าจะกระเตื้องขึ้น หลังจากที่ซบเซามานาน สหพัฒน์เองจากปีที่แล้วที่ชะลอการลงทุนในหลายๆ อย่าง ปีนี้ถือเป็นปีที่ดีในการใส่เกียร์เร่ง อาหารเป็นธุรกิจที่เติบโตสูง และยังคงใช้เป็นหัวหอกหลักในการธุรกิจ เพราะยังไงแล้วคนเราก็ยังต้องกินอยู่ดี
และที่น่าสนใจ ทุกปีเสี่ยใหญ่ จะถือ หรือสวมใส่สินค้า ที่กลุ่มสหพัฒน์จะให้น้ำหนักเป็นพิเศษ หรือเป็นเทรนด์ใหม่มาแรง
แต่ปีนี้แตกต่างกว่าทุกครั้ง เพราะเสี่ยใหญ่ไม่ได้ถือสินค้าชนิดไหน แต่ไปเป็นประธานเปิดสาขาใหม่ของของร้าน “ซูรูฮะ เชน” ดรักสโตร์จากญีปุ่น ตั้งอยู่ย่านถนนร่มเกล้า โดยเป็นโมเดลใหม่แบบสแตนอโลน ขนาดพื้นที่ 300 ตร.ม. ใช้งบลงทุม 15 ล้านบาท แถมร้านยังตั้งประกบกับร้าน ร้านค้าปลีกLawson 108 ที่สหพัฒน์ ได้ลงทุนร่วมกับลอว์สันจากญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ระหว่างทยอยเปิดสาขาเพื่อ
งานนี้ “บุณยสิทธิ์” ดูจะมั่นใจ ถึงอนาคตที่สดใสของธุรกิจค้าปลีก ทั้งลอว์สัน และซูรูฮะ ที่เป็นไปได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แผนต่อจากนี้จะให้น้ำหนักมากขึ้น
“ธุรกิจค้าปลีกเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประชาชนมากที่สุด เป็นธุรกิจที่รู้ตลาดมากที่สุดเช่นกันและสหพัฒน์ก็มีสินค้าเป็นของตัวเองอยู่แล้ว การทำค้าปลีกเหมือนเป็นการทำธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ แต่การแข่งขันก็สูงเช่นกัน มีหลายเจ้าลงมาเล่นค่อนข้างเยอะ” บุณยสิทธิ์ กล่าว
อีกธุรกิจที่ “เสี่ยใหญ่” มองว่าอนาคตจะไปได้สวย คือ “ธุรกิจอาหาร” ที่มีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แม้ในภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองแค่ไหนคนก็ต้องซื้อกิน ในขณะที่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจซบเซา คือ เครื่องสำอาง เสื้อผ้าแฟชั่นมีอัตราลดลงถึง 20% เพราะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย
ส่วนถ้าเป็น “สินค้าใหม่” ที่มาแรงในในสายตาเสี่ยใหญ่ คือ “มารูซัน” นมถั่วเหลืองสูตรญี่ปุ่น มี 3 รสชาติ คือ สูตรแจเปนนิสสไตล์ สูตรผสมชาเขียวมัทฉะ และสูตรผสมชา โดยจะเปิดตัวและวางจำหน่ายในงานสหกรุ๊ปแฟร์ในวันที่ 26-29 มิถุนายนนี้เจน 4 ขึ้นแท่นบริหาร
อีกความเคลื่อนไหวที่น่าจับตา ในปีนี้ การเพิ่มบทบาทของ เจนเนอเรชั่นที่ 4 ปีนี้ สังเกตุได้จาก ผู้ที่ขึ้นเวทีแถลงข่าว เป็นของเวทิต โชควัฒนา กรรมการและรองผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ดูแลกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ธีรดา อำพันวงษ์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โอซีซี จำกัด (มหาชน) ดูแลผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องใช้ส่วนบุคคล กลุ่มเครื่องสำอาง และธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอซีซี อินเตอร์เนชั่นแล จำกัด (มหาชน) ดูแลผลิตภัณฑ์กลุ่มเสื้อผ้าและสิ่งทอ
3 ทายาทเจนเนอเรชั่นที่ 4 ที่กำลังมีบทบาทในเวลานี้ ส่วน เจน 2 และ 3 เวลานี้ ขยับไปเป็นที่ปรึกษา ให้กับผู้บริหารรุ่นใหม่ๆ ขับเคลื่อนธุรกิจต่อไป
ส่วนงานสหพัฒน์แฟร์นี้ คาดว่าจะทำรายได้สะพัด 200-300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 10%