ทอท. เตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เน้นการพัฒนาการบริการทุกด้าน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารและสายการบิน เชื่อแผนการขยายสนามบินยังเดินหน้า เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจอาเซียนและการขยายตัวของสายการบินต้นทุนต่ำ มั่นใจสร้างรายได้และการเติบโตของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง ด้านนักวิเคราะห์คาดหากแผนลงทุนชัดเจน จะหนุนให้เกิดการเติบโตระยะยาว
นางพูลศิริ วิโรจนาภา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานบัญชีและการเงิน บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทอท.มีความพร้อมในการรองรับการเติบโตของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 โดยได้มีการพัฒนาการให้บริการในทุกๆด้าน เพื่อสร้างความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว และที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัย ให้กับผู้โดยสารและสายการบินต่างๆ ที่มาใช้บริการท่าอากาศยานทุกแห่งของ ทอท. เช่น การขยายการให้บริการอาคารผู้โดยสารที่ 2 ของท่าอากาศยานดอนเมือง และการขยายท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อรองรับการเติบโตของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีการขยายตัวอย่างมาก โดยมีการคาดการณ์ว่าสายการบินต้นทุนต่ำ จะเติบโตไม่น้อยกว่า 25% ในปีนี้ ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจการบินอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนหนึ่งเกิดจากการขยายตัวของเศรษฐกิจอาเซียนที่มีการเชื่อมโยงกันมากขึ้น รวมไปถึงการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวในประเทศ ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน จึงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสายการบินได้รับประโยชน์ไปด้วย
สำหรับแผนการลงทุนของ ทอท.นั้น ล่าสุดคณะกรรมการ ทอท. เห็นชอบแนวทางการศึกษาการใช้ประโยชน์ของอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ที่จะก่อสร้างบริเวณด้านทิศเหนือของอาคารเทียบเครื่องบิน A
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท ที่กำหนดให้อาคารผู้โดยสารหลังใหม่รองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ และภายในประเทศพร้อมๆ กัน และมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคาร รวมทั้งให้ไปศึกษาประเด็นต่างๆ เพิ่มเติมระหว่างที่ดำเนินการทบทวนโครงการพัฒนา ทสภ. (ปีงบประมาณ 2554-2560) ตามมติของ คสช. เช่น พื้นที่ที่จะก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังรอง (Satellite) จะสามารถทำเฉพาะหลุมจอดระยะไกล (Remote Parking) ได้ก่อนหรือไม่ เพื่อเป็นการแบ่งเบาความแออัดของหลุมจอดไปพลางก่อน และในกรณีที่มีผลกระทบไม่สามารถเพิ่มหลุมจอดอากาศยานขนาดใหญ่รองรับ A380 ได้นั้น ให้พิจารณาด้วยว่าควรจะต้องปรับปรุงหลุมจอด ที่มีอยู่เดิมให้สามารถรองรับ A380 เพิ่มได้อย่างไร โดยพิจารณาความเหมาะสมในการก่อสร้างและปรับปรุงในแต่ละจุด ตลอดจนต้องช่วยลดผลกระทบเมื่อมีการซ่อมบำรุงด้วย
“ทอท. จะศึกษาแนวทางการลงทุนในประเด็นต่างๆเพิ่มเติมตามที่คณะกรรมการให้ความเห็น ไม่ว่าจะเป็นด้านความเหมาะสมในการก่อสร้างและปรับปรุงในแต่ละจุด การลดผลกระทบเมื่อมีการซ่อมบำรุง การตรวจสอบรายละเอียดงานให้เหมาะสมและถูกต้อง รวมถึงความต่อเนื่องในการดำเนินงาน โดย ทอท.ยืนว่าจะจัดสรรเงินลงทุนและบริหารเงินลงทุนให้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ ด้วยฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีกระแสเงินสดเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลมีการอนุมัติโครงการต่างๆ แล้ว ทอท.จะวางแผนเพื่อจัดสรรเงินลงทุน ซึ่งส่วนหนึ่งจะมาจากกระแสเงินสดของทอท. ส่วนที่เหลือจะพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการระดมทุน ซึ่งมีหลากหลายทางเลือก โดยจะศึกษาความเป็นไปได้และผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด” นางพูลศิริ กล่าว
สำหรับผลประกอบการ ปี 2557 (ตุลาคม 2556 – กันยายน 2557 ) ทอท. ยังมั่นใจว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่ไม่รวมรายการพิเศษได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ไม่รวมรายการพิเศษมากกว่าปี 2556 ซึ่งทอท.มีกำไรสุทธิไม่รวมรายการพิเศษอยู่ที่ 9,652 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ (กรกฎาคม 2557 – กันยายน 2557) แนวโน้มการท่องเที่ยวในประเทศที่เริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่การเมืองมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการยกเว้นค่าธรรมเนียมในการขอรับการตรวจลงตรา (VISA) ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนและไต้หวัน รวมไปถึงการยกเว้นภาษีที่เกิดจากรายจ่ายภายในประเทศ ซึ่งทำให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
“ที่ผ่านมา ทอท.ประสบปัญหาจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ จนส่งผลกระทบต่อรายได้ของทอท. แต่การบริหารจัดการภายในองค์กร เช่น การปรับลดงบประมาณกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงค่าใช้จ่าย และการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบิน ทำให้ปีนี้ ทอท.สามารถรักษาอัตราการเติบโตของกำไรให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นางพูลศิริกล่าว
นางพูลศิริ กล่าวเพิ่มเติมถึงการเดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนที่ประเทศอังกฤษ ว่า นักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี และยังเชื่อมั่นในแนวทางการบริหารจัดการของ ทอท. ว่าจะสามารถสร้างรายได้และกำไรให้เติบโตต่อเนื่องได้ อย่างไรก็ตามนักลงทุนมีความกังวลเรื่องแผนการขยายโครงการต่างๆในอนาคตที่จะรองรับการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารและสายการบินที่ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งในส่วนนี้ทอท. ได้ชี้แจงไปเบื้องต้นว่าอาจมีความล่าช้า แต่ยังเชื่อมั่นว่าแผนการขยายโครงการต่างๆ จะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้
ด้านบทวิเคราะห์ ของบริษัทหลักทรัพย์เคเคเทรด แนะนำให้ซื้อเก็งกำไรหุ้น ทอท. โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 260 บาท เนื่องจากเห็นว่าผลประกอบการมีแนวโน้มดีขึ้น จากความชัดเจนในสถานการณ์การเมือง รวมไปถึงมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ และการเปิด AEC จะทำให้ ทอท.ได้ประโยชน์มากที่สุดในธุรกิจการบิน ทั้งนี้คาดการณ์ว่าปี 2557 ทอท. น่าจะมีกำไรสุทธิไม่รวมรายการพิเศษเพิ่มขึ้นประมาณ 17 %จากปี 2556 และคาดการณ์ว่าในปีหน้าจะมีกำไรสุทธิไม่รวมรายการพิเศษ เพิ่มขึ้น 16% จากปี 2557 บนสมมติฐานว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12% และหากแผนการลงทุนของทอท.มีความชัดเจน ก็เชื่อมั่นว่าทอท.จะมีการเติบโตที่ต่อเนื่องในระยะยาว