“วีซ่า” เผยคนไทยใช้เงินสดน้อยลง ใช้จ่ายผ่านสมาร์ทโฟนมากขึ้น

วีซ่าได้ทำการทำผลสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปี 2558 เผยการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ยังไปได้ดี เพราะแรงขับเคลื่อนของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงยังเผยพฤติกรรมการชำระเงินระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเทรนด์สำคัญของผู้บริโภคจาก 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ประเทศไทย และเวียดนาม

จากผลสำรวจพบว่าในปัจจุบันคนไทยพกเงินสดน้อยลงกว่า 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการใช้จ่ายผ่านบัตรสูงขึ้น และการจับจ่ายผ่านอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างต่อเนื่องก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญด้วยที่ทำให้การยอมรับและเปิดใจในการใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปได้ด้วยดี

โดยรวมแล้ว การชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์กำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโตเพราะมากกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม หรือ 52% นิยมใช้บัตรในการชำระเงินมากกว่าเงินสด และ 55% ตั้งใจที่จะหันมาเลือกใช้การชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสดในอนาคต อาทิ บัตรเครดิตผ่านสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ซึ่งสามารถสะท้อนให้เห็นถึงข้อเท็จจริงที่ว่ามากกว่า 1 ใน 4 หรือ 26% ของผู้ตอบแบบสอบถามพกเงินสดน้อยลงจาก 5 ปีก่อน

หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้บริโภค พกเงินสดน้อยลง มาจากเรื่องของ “ความเสี่ยง” ด้วยคนไทยจำนวนมากถึง 6 ใน 10 หรือ 57% เชื่อว่าการพกเงินสดไม่ปลอดภัย โดยคนไทยถือเงินสดเฉลี่ย 2,094 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนเงินที่พกติดตัวในปี พ.ศ. 2557 เฉลี่ย 2,426 บาท แสดงให้เห็นว่า มีจำนวนลดลงถึง 332 บาท ขณะที่จำนวนบัตร (ยกเว้นบัตรเอทีเอ็ม) ที่พกพาต่อคนยังคงเท่าเดิมที่ 2 ใบต่อคน 

อีคอมเมิร์ซเติบโต กระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตร

ศักยภาพของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยอยู่ในระดับสูงและเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ให้เติบโตขึ้น  ประเทศไทยนั้นมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 29% แต่ยังมีการเข้าถึงอีคอมเมิร์ซในอัตราที่ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศที่มีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ใกล้เคียงกัน แม้ว่าสัดส่วนของผู้ถือบัตรที่ใช้จ่ายผ่านร้านค้าออนไลน์ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ยอดการทำธุรกรรมการเงินผ่านมือถือและแท็บเล็ตกลับมีอัตราที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยสมาร์ทโฟนกลายเป็นเครื่องมือสำหรับชำระเงินอันดับแรกของหลายคน

ถึงแม้ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่ก็มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า แฟชั่นและเครื่องประดับ บัตรชมภาพยนตร์ และการชำระค่าสินค้า บริการ และสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี่เป็นตัวแปรสำคัญในการเติบโตของตลาดออนไลน์เพราะมีส่วนแบ่งการชำระเงินต่ำ แต่มียอดการใช้จ่ายถี่ โดยสัดส่วนที่สูงขึ้นของการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทำให้เห็นโอกาสเติบโตอันดีในอนาคต

อัตราของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยที่ระบุว่าตนซื้อสินค้าออนไลน์อย่างน้อยเดือนละครั้งเพิ่มขึ้นจาก 64% ในปีที่ผ่านมาเป็น 66% ในปีนี้ โดยมีระยะเวลาในการช้อปปิ้งออนไลน์ต่อครั้งนานประมาณ 46 นาที ซึ่งเหตุผลหลักๆที่พวกเขาเลือกซื้อสินค้าออนไลน์เป็นเพราะว่า 40% มีการจัดส่งสินค้าถึงลูกค้าโดยตรง 37% ความสะดวกสบาย 15% มีราคาที่ดีกว่า และ 8% มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย

ในขณะที่การชำระเงินที่ร้านค้าและช่องทางดิจิตอลอยู่ในช่วงที่กำลังบรรจบกัน คนไทยมีความสนใจในเทคโนโลยีการชำระเงินรูปแบบใหม่ๆ โดย 83% สนใจการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (contactless payment) จำพวกอุปกรณ์สวมใส่ไฮเทค หรือ wearable และ 81% ชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนเมื่อซื้อสินค้าที่ร้านค้า