การมีผู้ติดตามใน Twitter เป็นจำนวนมากน่าจะเป็นเป้าหมายหลักของการทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Twitter ของแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าทางแบรนด์จะยอมรับหรือไม่ ทุกแบรนด์น่าจะอยากเห็นตัวเลขผู้ติดตามพุ่งขึ้นมาเป็นแบรนด์อันดับ 1 แทน @SamsungMobileให้ได้
วันนี้เราจะมาไขกุญแจความสำเร็จของแอคเคาท์ @SamsungMobileกันว่า กว่าจะได้ขึ้นแท่น Twitter ของแบรนด์ที่มีผู้ติดตามเป็นอันดับหนึ่งนั้น ต้องใช้เทคนิคแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลและรูปแบบการทวีต รวมถึงแอคเคาท์ย่อยของซัมซุงแต่ละประเทศด้วย
ความสำเร็จของ @SamsungMobile
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่าแอคเคาท์ @SamsungMobileนั้นประสบความสำเร็จมากแค่ไหน ขณะที่บทความนี้ถูกเขียนขึ้น แอคเคาท์ @SamsungMobileมีผู้ติดตามถึง 10,948,289 คน รองลงมาเป็นทวิตเตอร์ของสตาร์บัคส์ @Starbucks ที่มีผู้ติดตาม 9,112,334 คน อันดับสามเป็น @Chanel ที่มีผู้ติดตาม 8,364,893 คน
สองอันดับที่ไล่ตามมานั้น ทั้งแบรนด์กาแฟเจ้าดังและแบรนด์น้ำหอมไฮเอ็นด์ต่างก็ไม่ใช่คู่แข่งในธุรกิจเดียวกับซัมซุงเลย หากจะมองหาแบรนด์ที่ทำธุรกิจโทรศัพท์มือถือเช่นเดียวกันก็จะต้องมองอันดับล่างลงไปไกลพอสมควรจึงจะได้เจอกับทวิตเตอร์ของ Blackberry ซึ่งมีผู้ติดตามอยู่ 4,484,376 คน
เห็นได้ชัดว่า @SamsungMobileเป็นผู้นำแบบไร้คู่แข่งในธุรกิจโทรศัพท์มือถือในการทำการตลาดผ่านทวิตเตอร์ แม้จะมีบางคนแย้งได้ว่า ซัมซุงได้เป็นอันดับหนึ่งก็เพราะ Apple ไม่มีแอคเคาท์ทวิตเตอร์เป็นของตัวเอง
ผู้ติดตามมากมายขนาดนี้มาจากไหน???
ซัมซุงใช้กลยุทธ์หลัก 2 รูปแบบในการสร้างฐานผู้ติดตามแอคเคาท์ @SamsungMobileได้แก่
1. มีแอคเคาท์ย่อย ซึ่งจะปรับเนื้อหาตามแต่ละประเทศหรือท้องถิ่นต่างๆ
2. คอนเทนต์ที่แชร์มีคุณภาพทั้งด้านเนื้อหาและดีไซน์
ซัมซุงนั้นมีแอคเคาท์ทวิตเตอร์จำนวนมาก ซึ่งแตกย่อยกันไปตามผลิตภัณฑ์และตามท้องถิ่นแต่ละประเทศ โดยเนื้อหาและภาษาที่ใช้ก็จะแตกต่างกันตามผู้รับสารเป้าหมายของแอคเคาท์นั้นๆ
ด้านล่างคือตัวอย่างทวีตจากแอคเคาท์อย่างเป็นทางการของซัมซุงซึ่งมีทั้งหมด 18 แอคเคาท์ที่ยังแอคทีฟอยู่ และเนื้อหาของแต่ละแอคเคาท์ก็แตกต่างกันไปตามกลุ่มเป้าหมาย
หรืออย่างแอคเคาท์ซัมซุงอังกฤษ @SamsungMobileUKและซัมซุงอเมริกา @SamsungMobileUSที่แม้จะใช้ภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่ก็มีเนื้อหาที่ต่างกัน ทวีตในเวลาที่แตกต่างกัน (ตามเวลาท้องถิ่น) รวมทั้งวิธีการใช้คำที่ต่างกันด้วย
ใครที่บอกว่าแบรนด์ระดับโลกขนาดใหญ่ไม่สามารถทำการตลาดระดับท้องถิ่นได้ คงเห็นแล้วว่าไม่จริง เพราะซัมซุงแสดงให้เห็นแล้วว่าแบรนด์สามารถแบ่งเซ็คเมนต์ย่อยลงมาได้เพื่อการจัดการที่ดี ผู้ติดตามเกือบ 11 ล้านคนของแอคเคาท์หลักก็ได้มาจากการทำงานที่ดีของแอคเคาท์ย่อยนี้เอง หากแบรนด์ของคุณไม่สามารถมีแอคเคาท์ย่อยเช่นเดียวกันได้ คุณก็สามารถเลือกทวีตข้อความสำหรับผู้ติดตามบางพื้นที่ได้ โดยเลือกเวลาทวีตที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ
อย่างไรก็ตามในทวีตของแอคเคาท์ย่อยประเทศต่างๆ ไม่มีข้อความในทำนองที่ว่า “พบกับข้อมูลเพิ่มเติมได้ เพียงติดตามทวิตเตอร์หลักของเรา @SamsungMobile” เพื่อดึงให้คนไปติดตามเพิ่ม แต่ซัมซุงใช้เทคนิคการติดแฮชแทคเดียวกันในทุกแอคเคาท์เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ให้ไปในทิศทางเดียวกัน และเกื้อหนุนกัน ในทวีตของซัมซุงจึงได้เจอแต่แฮชแทคกว้างๆ อย่าง #GalaxyS6 #Galaxy-Note4 หรือ #SamsungLevel
คอนเทนต์คุณภาพเยี่ยมและข้อความสื่อสารการตลาดของ @SamsungMobile
แบรนด์ระดับอินเตอร์หลายแบรนด์ต่างก็มีหลายแอคเคาท์ย่อยและแบ่งเนื้อหาตามท้องถิ่นเช่นกัน แต่ซัมซุงดูจะทำได้ดีที่สุด เพราะหากเนื้อหาทวีตไม่ดีจริง ผู้ใช้คงไม่ติดตามถึงเกือบ 11 ล้านคน เพราะกดคลิกเดียวก็ยกเลิกการติดตามได้แล้ว
@SamsungMobileสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจผู้ติดตาม ด้วยภาพวิช่วลที่สวยงามและรูปแบบการสื่อสารที่หลากหลาย
จากตัวอย่างทวีตด้านบนจะเห็นได้ว่าซัมซุงใช้รูปแบบการทวีตที่หลากหลาย ทั้งภาพถ่าย ภาพ GIF อินโฟกราฟฟิค และวิดีโอ ซึ่งทวีตส่วนใหญ่ของซัมซุงจะมีภาพอาร์ทเวิร์คและงานวิช่วลสวยๆ เช่นนี้เสมอ เห็นได้ชัดว่าทางแบรนด์ทุ่มเทกับการสร้างคอนเทนต์เพื่อสื่อสารผ่านทวิตเตอร์อย่างมาก
ในขณะเดียวกัน @SamsungMobileกลับไม่มีการกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าเท่าใดนัก ในช่วง 83 วันที่เก็บข้อมูล @SamsungMobileมีการทวีตลิงค์ไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์เพียง 13 ครั้ง และมีเพียง 9 ลิงค์เท่านั้นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขาย เนื่องจากทางซัมซุงไม่ได้ใช้ทวิตเตอร์ในการทำการตลาดทางตรง เป้าหมายของแอคเคาท์ @SamsungMobileน่าจะเป็น
– บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ให้กับผู้รับสารในวงกว้างได้รับรู้
– แสดงให้เห็นว่าอุปกรณ์มือถือที่ลูกค้าซื้อไปนั้นมีลูกเล่นอะไรบ้าง
– ปรากฎตัวอยู่ในไทม์ไลน์ของผู้ใช้ทวิตเตอร์ในฐานะโฆษณาอันสนุกสนานที่ฉายซ้ำๆ อย่างต่อเนื่องในทีวี
หากเปรียบทวีตของ @SamsungMobileเป็นโฆษณาโทรทัศน์น่าจะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนที่สุด เพราะเราไม่เคยคิดจะซื้อสินค้าทันทีที่ได้เห็นโฆษณา แต่เมื่อคุณเห็นซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ คุณก็จะรู้สึกอยากได้สินค้าขึ้นมาเอง
และเนื่องจากแอคเคาท์หลักไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการขายเลย แอคเคาท์ย่อยของประเทศต่างๆ จึงทำหน้าที่นี้แทน โดยเน้นการทวีตให้ผู้ติดตามเข้าสู่หน้าแลนดิ้งเพจเพื่อการขายสินค้าเป็นหลัก ทั้งในหน้าเว็บไซต์ของประเทศนั้นๆ เอง หรือเข้าสู่หน้าซื้อขายจากพันธมิตรอย่าง Amazon
บทสรุปกลยุทธ์การตลาดผ่านทวิตเตอร์จากซัมซุง
เมื่อดูข้อมูลทั้งหมดแล้วจะพบว่า ซัมซุงใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ 2 ชั้น ได้แก่
1. ชั้นแรกคือแอคเคาท์หลัก @SamsungMobileซึ่งมีผู้ติดตามเกือบ 11 ล้านคนที่ชื่นชอบเนื้อหาทวีตที่สนุกสนาน คล้ายคลึงกับโฆษณาทางโทรทัศน์ เนื้อหาทวีตมุ่งเน้นการแนะนำให้รู้จักสินค้า โดยใช้คอนเทนต์คุณภาพดี เพื่อดึงเอ็นเกจเมนต์ให้สูง และช่วยให้ยอดการรีทวีตสูงด้วย เพื่อช่วยกระจายเรื่องราวของแบรนด์
2. ชั้นที่สองคือแอคเคาท์ย่อยซึ่งแบ่งตามประเทศและภูมิภาค มีหน้าที่สนับสนุนให้เกิดการติดตามแอคเคาท์หลัก พร้อมทั้งมุ่งเน้นการขายและการตลาดทางตรงกับผู้ใช้ในพื้นที่นั้นๆ โดยเฉพาะ
กลยุทธ์เช่นนี้ช่วยให้ซัมซุงสร้างการมองเห็นสูงสุดในตลาดหลักของตัวเอง ด้วยคอนเทนต์ที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้มุ่งเน้นการขาย เน้นที่การสร้างแบรนด์และการมองเห็นสินค้ามากกว่า ลองปรับกลยุทธ์ของซัมซุงไปใช้กับธุรกิจของคุณดู ทวิตเตอร์ของคุณอาจสร้างการมองเห็นและมีผู้ติดตามมากขึ้นกว่าในปัจจุบันก็เป็นได้
