ในยุคที่เน็ตไอดอลสามารถแจ้งเกิดได้ง่ายพอๆ กับการหาเซเว่นฯ ตามริมถนน ทำให้มีเน็ตไอดอลตั้งแต่วัยมัธยมไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะเกิดเพราะหน้าตาดี และมีไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น พอมีแฟนคลับติดตามจำนวนมากก็เลยยกตำแหน่งเน็ตไอดอลให้ไปโดยปริยาย
เน็ตไอดอลที่มาแรงสำหรับชั่วโมงนี้ ก็ต้อง “พิมฐา” หรือ ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล ขวัญใจฮิปสเตอร์ที่มีไลฟ์สไตล์โดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพ ภาพในอินสตาแกรมของเธอจะมีมู้ดแอนด์โทนในทิศทางเดียวกัน ทำให้เธอเป็นที่รู้จัก และเป็นขวัญใจของสาวๆ ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ และพิมฐายังมีลุคที่ดูญี่ปุ่นด้วย เพราะได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Ritsumeikan Asia Pacific University ที่ประเทศญี่ปุ่น
เส้นทางในโลกออนไลน์ พิมฐา ไม่แตกต่างไปจาก “เน็ตไอดอล” คนอื่นๆ ที่โด่งดังมาจากโซเชียลมีเดีย ช่องทางเด่นของเธอ คืออินสตาแกรม ที่ปัจจุบันมีคนติดตาม 2.1 ล้านยูสเซอร์ เป็นที่ชื่นชอบของทั้งผู้ชายและผู้หญิง ที่สำคัญก็คือไม่มีภาพลักษณ์ที่เสียหาย เพราะในปัจจุบันมีเน็ตไอดอลเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์เยอะมากก็จริง แต่บางคนก็เกิดจากพฤติกรรมที่ไม่ค่อนดีนัก อย่างเช่น การโชว์สัดส่วนของตนเอง เป็นต้น
เมื่อทั้งโปรไฟล์และยอดติดตามพุ่งสูง แบรนด์ต่างๆ วิ่งเข้าหาเพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารกับผู้บริโภค พิมฐาเลยกลายเป็นเน็ตไอดอลที่เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้ามากที่สุดคนหนึ่งเช่นกัน โดยมีตั้งแต่การโพสต์สินค้า ลงอินสตาแกรมทั่วไป ไปจนถึงขั้นการขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์ ถือว่าเป็นเน็ตไอดอลที่เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้ามากที่สุดคนหนึ่งเช่นกัน แบรนด์ที่พิมฐาได้เป็นพรีเซ็นเตอร์มาแล้ว ได้แก่ เซ็ปเป้ บิวติดริ้งค์, เดอะพิซซ่าคอมปะนี, ไอศกรีมกูลิโกะ, เย็นเย็น และขาไก่ โลตัส
พงษ์ศักดิ์ เจริญกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท จับของร้อน จำกัด มองว่า เน็ตไอดอลเบอร์หนึ่งที่รู้จักกันมากที่สุดก็ต้องยอมรับว่าคือ พิมฐา มีคนติดตามเยอะ และเป็นที่ชื่นชอบของทั้งผู้ชายและผู้หญิง ไม่มีภาพลักษณ์ที่เสียหาย มีฐานแฟนคลับค่อนข้างมาก ทำให้มีงานพรีเซ็นเตอร์ค่อนข้างมาก แต่ที่เป็นกระแสในตอนนี้ก็ไอศกรีมกูลิโกะ เข้ากับกระแสของไอศกรีมก็เลยยิ่งเสริมกัน เพราะแบรนด์ก็ต้องการสร้างกระแส และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น
ทางด้านเซ็ปเป้ ที่เป็นผู้บุกเบิกในการใช้พิมฐานั้น ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นถึงการเลือกพิมฐา มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ มาจากพฤติกรรมการบริโภคสื่อของผู้บริโภคเปลี่ยนไป หันไปที่สื่ออนไลน์มากขึ้น และมองว่าไหนๆ จะรีเฟรชแบรนด์แล้ว จึงต้องการให้เกิดความแปลกใหม่ไปเลย และยังจับกลุ่มเป้าหมายที่เด็กลง
“ก่อนหน้านี้ เซ็ปเป้เคยใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นเซเลบริตี้ แต่ตอนหลังหลายแบรนด์ก็ใช้กัน เราเลยมองว่าไหนๆ จะรีเฟรชแบรนด์แล้ว ก็ทำให้แปลกใหม่ไปเลย โดยเลือกใช้เน็ตไอดอลที่เป็น Upcoming หรือเป็น New star ดวงใหม่ อย่าง พิมฐา เพื่อต้องการที่จะจับกลุ่มเป้าหมายที่เด็กลงด้วย”
ไอศกรีมกูลลิโกะ เลือกพิมฐาเพราะเป็นเน็ตไอดอลที่คนติดตามเยอะ และต้องการสร้างกระแสในการทำตลาดตอนแรกด้วย จึงอาศัยความแรงของพิมฐามาช่วยโปรโมต รวมถึงต้องการคุยกับกลุ่มเป้าหมายกลุ่มวัยรุ่นด้วย อีกทั้งพิมฐายังได้ลุคของความเป็นญี่ปุ่นอยู่ เพราะเคยเรียนที่ญี่ปุ่นมา คาแรกเตอร์เข้ากับแบรนด์