Hip Hop Vs Lullaby

สามหนุ่มใหญ่แต่หัวใจหนุ่มน้อยจากกรุงนิวยอร์ก กลับมาทวงความทรงจำของคนฟังในฐานะวงต้นแบบ ฮิพ-ฮอพ ผิวขาวของโลก หลังห่างหายไป 6 ปี อัลบั้ม To The 5 Bouroughs เปิดตัว ขายดีเป็นอันดับหนึ่งทันทีในสัปดาห์แรกที่ออกวางจำหน่าย ซึ่งถือว่าเหลือเชื่อที่กลับมาชิงความนิยมของตลาดได้อีกครั้ง ในปี พ.ศ.นี้

บีสตี้ บอย (Beastie Boys) เป็นวงดนตรีต้นแบบ ฮิพ-ฮอพ ผิวขาว ที่ออกจะอาภัพเพราะไม่เคยได้รับความนิยมมากมาย อย่างที่ฮิพ-ฮอพ ผิวขาวรุ่นหลานอย่าง Eminem ได้รับระดับขวัญใจมวลชน ทั้งที่สามหนุ่มนอกจากจะเป็นต้นแบบยังมีฝีมือทำเพลงทำนองคุณภาพ และต่อสู้เพื่อสังคมจริงๆ ไม่ใช่แค่เพื่อชีวิตส่วนตัวของตัวเอง

ที่เซอร์ไพรส์ เหมือนกับย้ำว่า ตอนนี้เธอทั้ง Lucky in Love และ Lucky in Game ที่อังกฤษ ในปลายเดือนมิถุนายนเพลง Every Time ของบริทนี่ย์ สเปียร์ (Britney Spears) จากอัลบั้มใหม่ ที่ออกวางตลาดมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ก็ได้ขึ้นชาร์ตเพลงดังอันดับหนึ่งในตลาดเพลงอังกฤษ ซึ่งปกติเป็นตลาดนักฟังเพลงคุณภาพกว่าฝั่งสหรัฐอเมริกา

เพลงของเธอเพลงนี้เป็นเพลงรักช้าๆ ใช้เสียงร้องใสๆ เล็กๆ แบบเสียงผู้หญิงทั่วไป และมีเสียงดนตรีกรุ๋งกริ๋ง ถ้าตัดเนื้อหารักใคร่ไป ก็เหมือนเพลงกล่อมเด็ก หรือเพลงแบบ Lullaby ที่ฟังง่าย ๆ พอสบายหู ไม่ได้มีคุณค่าให้เป็นอมตะนิรันดร์กาลอะไร แต่คนอังกฤษก็เลือกฟังมากๆ ในสัปดาห์หนึ่งของเดือนที่ผ่านมานี้

ระหว่างความรุนแรงที่กระชากเสียงแบบฮิพ-ฮอพแท้จากช่องคอหอยของบีสตี้ บอยส์ และ เสียงครางใสแบบแค่อ้าปากร้อง ของบริทนี่ย์ สปียร์ เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อัชเชอร์ (Usher) หนุ่มผิวดำ เป็นความพอดีที่อยู่ตรงกลาง หลังยึดชาร์ตความนิยมมานาน 15 สัปดาห์แล้ว โดยวิ่งไล่อยู่ใน 5 อันดับแรก กับอัลบั้มชื่อ Confession ของเขา

อัชเช่อร์ เป็นนักร้องที่ร้องเพลงแบบฮิพ-ฮอพ ได้หวานใสและทำให้น่าฟังไปทั้งเพลง ไม่ว่าเนื้อหาเพลงจะเล่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่มาจากสมุดบันทึกส่วนตัวของเขาเอง เขาเป็นปรากฏการณ์น่าสนใจของนักร้องผิวดำ ที่ปรับการร้องแบบผิวดำสองแบบให้มาลงตัวอยู่ในระดับฟังสบายกำลังดี ระหว่างการสำรากเพลงและร้องด้นเร็วแบบแร็ป และลงลูกคอระรัวอารมณ์แบบริธึ่มแอนด์บลูส์ สองลีลานี้ถูกบรรเทาให้ผ่อนคลายฟังง่ายและน่าฟัง

อัชเช่อร์จึงยืนหยัดขายดีได้อีกเดือน ในเดือนมิถุนายน แสดงความพอดีที่ลงตัว ระหว่างสุดโต่งของบีสตี้ บอยส์ ที่เหมาะกับคอเพลงแร็ปแนวหัวรุนแรง และสุดแผ่วของบริทนี่ย์ สเปียร์ ที่เหมาะแค่เปิดเพลงฟังผ่านๆ

*Beastie Boys

มีชื่อเสียงในหมู่คนรักดนตรีแบบแร็ป ไม่ใช่แค่ในฐานะวงแร็ปผิวขาววงแรกของโลก แต่ยังอยู่ในฐานะวงแร็ปฝีมือดีติดอันดับต้นๆ ระดับหนึ่งในห้าของโลกด้วย

บีสตี้ บอยส์ ยังมีที่มาน่าสนใจกว่านั้น เพราะพวกเขาไม่ใช่เด็กข้างถนน เหมือนที่มาของศิลปินแร็ปทั่วไป ซึ่งกลั่นเพลงจากความลำบากยากแค้น แต่บีสตี้ บอยส์ เป็นลูกๆ ของชาวยิว ในบรูคลีน นครนิวยอร์ก มีการศึกษาดี มีฐานะทางบ้านที่ดี พวกเขายังมีเชื้อชาติยิว ซึ่งปกติต้องเคร่งประเพณี แต่กลับทำตัวหลุดกรอบ และหลุดทัศนะพื้นฐานที่เอาแต่พวกตัวแบบยิว ด้วยการปวารณาตัวช่วยชาวโลก กู่ร้องขอความเป็นธรรมด้วยเสียงเพลงแร็ป

ย้อนหลังไปยาวนาน เมื่อปี 1981 บีสตี้ บอยส์ รวมตัวจากเด็กชายยิวสามคนที่ชอบฟังเพลงพังก์ และเริ่มต้นเป็นวงแบบฮาร์ดคอร์ พังก์ หรือวงดนตรีพังก์ที่ร้องเพลงจังหวะหนัก รุนแรง ซึ่งไปละม้ายคล้ายคลึงกับลีลาของแนวแร็ป กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าพวกเขาละเมิดวัฒนธรรมดนตรีของคนดำ และทำเลียนแบบแต่ไม่เข้าท่า นอกจากนั้นยังถูกประณามจากคนหัวเก่า ที่เพลงของวงเกี่ยวกับเนื้อหาโจ่งแจ้งโจ่งครึ๋ม เรื่องความรุนแรง เรื่องเพศ และมีการใช้ผู้หญิงในกรงขัง หรือบอลลูนรูปเจ้าโลกประกอบการแสดง ในช่วงยังหนุ่มนั้นวงเคยถูกจับกุม หรือฟ้องร้องหลายครั้ง

ด้วยเหตุนี้ถึงแม้จะประสบความสำเร็จจากอัลบั้มแรกของพวกเขา คือ Licensed To Ill ที่ออกมาหลังวงได้ทำเพลงประกอบหนัง และเป็นวงเปิดให้มาดอนน่าใน Virgin Tour ของเธอ ทำให้อัลบั้มนี้กลายเป็นอัลบั้มเพลงแร็ปขายดีที่สุดในยุคทศวรรษนั้นเลยทีเดียว

แต่คำวิจารณ์สับเละทำให้อัลบั้มแรกกลายเป็นเพียงฟองสบู่ฮิต

อัลบั้มต่อมา คือ Paul’s Boutigue ยังมีท่วงทำนองที่แตกต่างออกไป เพราะวงใช้ความตั้งใจในการทำมากขึ้น และให้มีจังหวะจะโคนที่ลงตัวขึ้น กลับไม่ได้รับความสำเร็จทั้งยอดขาย และคำวิจารณ์ แต่เช่นเดียวกันที่ปัจจุบัน ทัศนะของสาธารณชนเปลี่ยน หันมายกย่องกันว่า คือหนึ่งในอัลบั้มที่ดีที่สุดในการผสมระหว่างป๊อปกับแร็ป

นานหลายปีก่อนที่วงจะกลับสู่วงการในปี 1992 ด้วยอัลบั้มชื่อ Check Your Head ในยุคที่วงการเพลงเปลี่ยนแปลง อัลบั้มผสมระหว่างพังก์ และฮิพ-ฮอพ ชุดนี้ กลายเป็นงานขายดี ต่อจากนั้นอีกสักสองปี วงก็ได้รับการพิจารณาจากนักวิจารณ์ใหม่ว่าเป็นวงดนตรีที่ดีที่สุดวงหนึ่งของโลก ทางวงยังได้จัดตั้งสังกัดแผ่นเสียงและออกนิตยสารในนาม Grand Royal ซึ่งมีบทบาทในการพัฒนาวงการดนตรีด้วย

นอกจากนั้นสมาชิกของวงยังมีส่วนในการเคลื่อนไหวทางการเมืองและสิทธิมนุษยชนของทิเบตอย่างมาก ปัจจุบันวงมีอายุสมาชิกระหว่าง 36-40 ปี

*Britney Spears

ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็น “ราชินี” แต่เธอมีตำแหน่งเป็น ”เจ้าหญิงแห่งเพลงป๊อป” และ ”นักร้องหญิงขายความเซ็กซี่” ที่ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งร่วมกันกับ เจนนิเฟอร์ โลเปซ ในขณะที่อายุตอนนี้เพียง 22 ปี บริทนี่ย์ สเปียร์ เริ่มมีชื่อเสียงมาตั้งแต่เมื่อหกปีก่อน ในระยะเดียวกันกับที่วงป๊อปขายรูปร่างอย่าง สไปซ์ เกิร์ล และแบ็ค สตรีท บอยส์ เคยได้รับความนิยม เมื่ออายุ 17 ปี เธอก็เปลือยอก เอามืออำพรางไว้ ขึ้นหน้าปกดังของนิตยสารโรลลิ่ง สโตนส์

เช่นเดียวกับเจนนิเฟอร์ โลเปซ “Sex Appeal” เป็นจุดขายของสเปียร์ที่ดูเหมือนเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด แต่ที่จริงเป็นรูปแบบการใช้ชีวิตจริงของเธอ หลังแยกทางกับจัสติน ทิมเบอร์เลค แฟนนักร้องหนุ่มดัง บริทนี่ย์ มีข่าว “คาว” กับหนุ่มในวงการอย่างน้อยสองคน ก่อนจะแต่งงานเล่นๆ กับเพื่อนสมัยนักเรียน และล่าสุดกำลังแต่งจริงกับหนุ่มแดนเซอร์

สองปีหลังนี้ สเปียร์ยังหันมาเล่นหนังเพื่อขับประกายชื่อเสียงของเธอ เหมือนตามรอย เจนนิเฟอร์ โลเปซ ในอีกด้าน แต่ฝีมือนั้นยังห่างกันมาก ขณะที่เจนนิเฟอร์ โลเปซ ถือว่าเป็นนักแสดงชั้นดีคนหนึ่ง หนังเรื่องแรก Crossroads ของสเปียร์ล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่เธอกำลังมีงานหนังเรื่องใหม่ และเอ่ยปากว่าจะเอาจริงกับการแสดง

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ที่เว้นว่างการออกอัลบั้มไป ชื่อเสียงของ บริทนี่ย์ สเปียร์ ไม่ค่อยดีนัก จากข่าวคาวความสัมพันธ์และความประพฤติของเธอ แต่เธอได้ “มาดอนน่า” ราชินีแห่งวงการป๊อป เข้ามาโอบอุ้มช่วยเหลือ โดยให้คำปรึกษา กล่าวถึงในแง่ดีและเห็นอกเห็นใจต่อหน้าสาธารณชน รวมถึงยังพาขึ้นเวที สร้างความหวือหวาผ่านอากาศ ด้วยการแสดงท่าจูบกัน เมื่อปลายปีที่ผ่านมา นับแต่วันนั้น บริทนี่ย์ สเปียร์ เหมือนได้ลงยันต์ชั้นดีจากเจ้าแม่ เธอกลับมาโลดแล่นและประสบความสำเร็จในทุกด้าน

ถึงแม้เสียงร้องของเธอไม่ได้มีเอกลักษณ์แบบสะท้านทรวงคนฟังเลย แต่ตลาดเพลงคาดการณ์กันไม่ได้ เพราะบริทนี่ย์ สเปียร์ กำลังสร้างสถิติโลก เมื่อรวมอัลบั้มชุดนี้นับเป็นสี่อัลบั้มแล้ว ที่ผลงานขายได้เป็นอันดับหนึ่งในสัปดาห์เปิดตัวทุกอัลบั้ม เริ่มจากต้นปี 1999 ….Baby One More Time ขึ้นอันดับหนึ่งทันที ทั้งที่เธอเป็นนักร้องหน้าใหม่ แต่บริษัทได้ปล่อยเพลงซิงเกิ้ลมาปั่นความนิยมก่อน ท้ายสุดขายได้ถึงสิบล้านแผ่น

ในปี 2000 Opps! I did it Again ขายได้เก้าล้านแผ่น ต่อมา ปี 2001 งานชื่อเดียวกับเธอเอง Britney ที่มีเพลงเอกแสดงตัวเธอชื่อ I’m Not A Girl, Not Yet a Woman ก็ขึ้นอันดับหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ขายดีเท่าชุดก่อน โดยขายได้เพียงห้าล้านแผ่นก็ตาม

*Usher

อัชเช่อร์กำลังเป็นปรากฏการณ์ของวงการเพลง เพราะนานๆ ครั้งที่จะมีศิลปินที่มีพรสวรรค์ครบสูตร คือ ร้องเพลงได้ดี แต่งเพลงได้ดี และที่สำคัญคือเพลงขายได้ดี

เบื้องหลังการฝึกเสียงทองคือเขาเป็นเด็กร้องเพลงในโบสถ์มาก่อน อัชเช่อร์ยังมีโชคเข้าช่วยพรสวรรค์ให้ได้แจ้งเกิดเร็ว เมื่อเขาได้เซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัดเพลงคนดำ La Face ตั้งแต่อายุ 14 ปี ตอนร่วมประกวดร้องเพลงแถวบ้าน อัลบั้มเปิดตัวแรกนั้นออกมาตั้งแต่ปี 1994 โดยมี พี่ใหญ่วงการแร็ปคือ ฌอน พัฟฟี่ โคมบส์ ร่วมเป็นโปรดิวเซอร์พิเศษให้ มียอดขายสูงพอควร ในขณะที่เจ้าตัวยังเรียนไม่จบชั้นมัธยมเสียด้วยซ้ำ

ในปี 1997 ขณะเรียนวิทยาลัยปีแรก เขาได้แสดงความสามารถเขียนเพลงเองส่วนใหญ่ในอัลบั้มชื่อ My Way แต่ก็ได้รุ่นเซียนของวงการอย่าง ฌอน โคมบส์ และเบบี้ เฟซ นักร้องดังราชาแห่งวงการเพลงริธึ่มแอนด์บลูส์มาช่วยโปรดิวซ์ด้วย สามเพลงในอัลบั้มนี้ของเขาติดอันดับหนึ่งเพลงริธึ่มแอนด์บลูส์ และอันดับหนึ่งหรือสองในอันดับเพลงป๊อปทำให้เริ่มเป็นที่กล่าวขวัญถึงนักร้องผู้สร้างกระแสดังข้ามแนว

ผลงานชุดต่อมาได้แก่ All About U ปี 2000, 8701 ปี 2001 มีชื่อในตลาดเพลงริธึ่มแอนด์บลูส์มากกว่า กระทั่งปีนี้ จึงได้ออกเพลงซิงเกิ้ลชื่อ “Yeah!” ที่กลายมาเป็นเพลงยอดนิยมตามบาร์ ก่อนอัลบั้ม Confessions ออกตามมาในเดือนมีนาคม และขายดิบขายดีมาสี่เดือนแล้ว