รายการแบบ “The Star ค้นฟ้าคว้าดาว”, “First Stage Show” และ “Academy Fantasia” เกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนที่มีความฝันอยากเป็น ดารา และนักร้อง และเป็นได้จริง
สินค้าที่รายการโทรทัศน์เหล่านี้ขายให้กับคนดูก็คือ คำว่า “Drama” ที่เห็นความฝัน จนได้รู้สึกถึงการตะเกียกตะกาย วิ่งหา ไขว่คว้าหา สิ่งที่ต้องการนั้น แต่แน่นอนว่าเป้าหมายของรายการจึงต้องอยู่ที่รางวัลสุดท้าย ไม่ว่าการออกเทป หรือการเซ็นต์สัญญาเป็นดาราในสังกัด
“ละครชีวิตที่ไม่มีบท ของคนมีฝัน” เป็นคำขวัญของ The Star
รูปแบบรายการจึงต้องมีคำถามในช่วงต่างๆ ต่อผู้เข้าแข่งขัน ก่อนแข่งขัน “ความฝันสูงสุดของน้องคืออะไร” “มีอะไรอยากพูดกับแม่ที่บ้าน” เมื่อแข่งขัน “คิดว่าตัวเองจะเข้ารอบไหม” “เพื่อนๆ เก่งกันมากไหม” หลังจบการแข่งขัน “แล้วรู้สึกอย่างไรเมื่อตกรอบ” หรือ “ชีวิตเปลี่ยนไปบ้างไหม” รวมไปถึงการพยายามให้คนป่วยที่นอนอยู่บนเตียงร้องเพลงก็เคยมีมาแล้วในรายการ “The Star ปีที่ 2” เพื่อให้เห็น “อารมณ์ต่างๆ” ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่การแสดง แต่เป็นความจริง และ “ความจริง” นี้ก็เป็นจุดขายที่ทุกคนอยากดู
ครูฝึก กรรมการตัดสิน หรือ Commentator ที่บางครั้งจำเป็นต้องมีการใช้คำพูดที่ดูรุนแรงต่อความรู้สึก (แม้เป็นความจริง) ก็เพื่อสร้างอารมณ์ร่วม หรือแม้แต่น้ำตาของผู้เข้าแข่งขันให้เกิดขึ้น โดยเป้าหมายสุดท้ายก็คือ ให้คนดูได้รู้สึกถึงอารมณ์ที่ได้สร้างจากสารคดีชีวิต ที่ไม่ต่างจากรายการละครเพื่อความบันเทิงชั้นดี
“มันเป็นของใหม่ที่คนไทยไม่เคยเจอมาก่อน มีคณะกรรมการมานั่งวิจารณ์ให้คนอื่นได้รู้ด้วย รายการมีจุดยืนของมันอยู่แล้ว คือเราอยากให้ทุกอย่างมันออกมาจากความรู้สึก คิดยังไงก็พูดออกมาแบบนั้นไม่ต้องมาอ้อมค้อม” ศศิภา กฤดากร Producer รายการเดอะ สตาร์ฯ
* The Star ค้นฟ้า คว้าดาว
โดย บริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) โดยตอนนี้ออกอากาศเป็นปีที่ 2
– ประเภทของรายการ
รายการ Reality TV เกี่ยวกับการแข่งขันร้องเพลง โดยมีคนไทยทั้งประเทศเป็นผู้ตัดสิน
– เวลาออกอากาศ
ทุกคืนวันพุธ เวลา 22.00น. ทางโมเดิร์นไนน์
– รูปแบบของรายการ
The star ค้นฟ้าคว้าดาว จะเน้นเรื่องราวของผู้สมัคร นับตั้งแต่ย่างก้าวแรก ของการสมัครจนไปถึงการเป็นสตาร์ ทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้นของผู้เข้าแข่งขัน ทั้งสุข เศร้า เสียใจ ผิดหวัง ประหม่า น้ำตา และมิตรภาพของผู้เข้าแข่งขัน ทุกอย่างเกิดขึ้นคือเรื่องจริง ที่จะถูกบันทึกไว้ และนำมาเรียงร้อยถ่ายทอด ออกมาให้ได้ชมกันในรายการรูปแบบ Reality TV ที่ชื่อว่า “The Star ค้นฟ้าคว้าดาว”
ภาพการแข่งขันจะเริ่มต้นที่คณะกรรมการจะคัดเลือกผู้แข่งขันจาก 4 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และ ภาคใต้ จนได้ตัวแทนแต่ละภาค และคัดเลือกกันอีกครั้งจนเหลือผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้งหมด 8 คน จากนั้นผู้แข่งขันทั้ง 8 คนจะต้องแข่งขันกัน และจะถูกคัดออก สัปดาห์ละ 1 คน
ผู้ชมทางบ้านทั้งประเทศจะเป็นผู้ตัดสินผ่านการลงคะแนนทางโทรศัพท์ จนได้ผู้ชนะเลิศ และรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศคือ การเซ็นสัญญาออกเทปเป็นศิลปิน ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
– คณะกรรมการ (ฝีปากคมที่เป็นหนึ่งในจุดขายของรายการ)
พิทรี่ วิคเตอร์ เอดวาร์ด (เพชร) มาร์ หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินดัง อาทิ ธงไชย แมคอินไตย์ , อัสนี-วสันต์ โชติกุล, ทาทา ยัง
อรนภา(ม้า) กฤษฏี นักแสดงและนางแบบ เมคอัพอาร์ติสชื่อดัง
สุธีศักดิ์(โจ้) ภักดีเทวา ผู้กำกับลีลาท่าเต้นของนักแสดงละครเวที “บัลลังก์เมฆเดอะมิวสิคัล” กำกับลีลาท่าเต้น การแสดง “แม่น้ำของแผ่นดิน” ออกแบบท่าเต้นให้กับศิลปินและแดนเซอร์ใน “คอนเสิร์ต 10 ปี เอ็กแซ็กท์” กำกับลีลาท่าเต้นของนักแสดงละครเวที “บางกอก 2485”
* First Stage Show
บริษัท แกรมมี่ เทเลวิชั่น จำกัด ได้พัฒนารายการมาจาก “ยอดคนตะลุยฝุ่น” ที่เกี่ยวกับเกมมอบอาชีพให้คนทางบ้านเพราะถึงจุดอิ่มตัว โดยเปลี่ยนมาเป็นการแข่งขันเพื่อเป็นอาชีพนักร้อง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ชมทางบ้านสมัครเข้าร่วมแข่งขัน
– ประเภทของรายการ
รายการ วาไรตี้เกมส์โชว์ ที่ประกอบด้วยโชว์ของนักร้อง และการแข่งขันของผู้เข้าขัน
– เวลาออกอากาศ
ได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.05 – 13.55 น. ทางททบ.5
– รูปแบบของรายการ
เมื่อปรากฏว่า “รายการ ยอดคนตะลุยฝุ่น” รายการนี้มีรูปแบบที่จำกัดไม่ได้รับความนิยม สายทิพย์ (ฉอด) มนตรีกุล ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ จึงตัดสินใจปรับรูปแบบรายการใหม่เป็น “First Stage Show” ซึ่งเน้นคอนเซ็ปต์การให้โอกาสคนเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนมาให้โอกาสผู้เข้าแข่งขันในเรื่องอาชีพนักร้อง ซึ่งแต่ละสัปดาห์จะมีศิลปินต้นแบบมาแสดง เพื่อใช้เพลงของเขาในประกวด
คัดเลือกผู้เข้าแข่งขันที่ส่งภาพและเทปเดโมมาร่วมรายการ… จนเหลือ 5 คน แล้วเข้าอบรมเตรียมตัวเพื่อเตรียมตัวแสดงในกระบวนการต่างๆ จนคัดเหลือเพียง 3 คนเพื่อมาออกรายการ ตัดสินโดยได้ตำแหน่ง Champ of the Week และแข่งครั้งสุดท้ายในรอบปีเพื่อหา Champ of the Year มีเงินรางวัล 30,000 บาทในสัปดาห์ รวมถึงคอร์สเรียนร้องเพลงและพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อเตรียมตัวก้าวสู่การเป็นนักร้องมืออาชีพ
และมีอัลบั้ม “FIRST STAGE PROJECT” เป็นเครื่องการันตีความฝันระดับหนึ่ง
* Panasonic Star Challenge
ในด้าน RS promotion แม้ไม่มีรายการโทรทัศน์เป็นเรื่องเป็นราว แต่ในช่วงเดียวกันนี้ (เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม) ก็มีโปรแกรมการ “ล่าฝัน” ให้ในการประกวด “Panasonic Star Challenge 2004” ซึ่งเป็นปีที่ 4 เพื่อค้นหาและผลักดันให้เป็นดาราและนักร้องในสังกัด อาร์.เอส. โปรโมชั่น โดยเดินสายคัดเลือกกันตามภูมิภาคเช่นกัน อย่าง สงขลา ชลบุรี เชียงใหม่ และ นครราชสีมา ที่มีการฝึกอบรมเพื่อดูแววก่อนเกือบเดือน จนถึงการประกวดรอบสุดท้ายในวันที่ 9 ตุลาคม เป็นรูปแบบการใช้การจูงใจของศิลปินที่ออกเทปมาก่อน (ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ชนะเลิศ) เป็นตัวดึงเยาวชนให้เข้ามาร่วมประกวด โดยมีพานาโซนิคเป็นสปอนเซอร์หลัก
จากโครงการที่ผ่านมาก็มีศิลปิน นักร้อง นักดนตรี ที่ก้าวเข้าสู่วงการก็อย่าง D2B, OUT, MOTIF, ไอน้ำ, Bogie-Dodge, ฯลฯ รวมถึงนางเอกในสังกัดอาร์เอสบางคน
Link
http://www.mcot.net/thestar2/
http://www.panasonicstarchallenge.com/index.php
