SMART HOME ชีวิตยุคดิจิตอล สไตล์ซัมซุง

ชีวิตยุคดิจิตอลในแบบของ Samsung คือการใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น convergence product มาช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานที่หลากหลาย ช่วยประหยัดพื้นที่

การดำเนินชีวิตของคนมีอยู่แค่ 3 ที่ด้วยกัน คือ ที่บ้าน ที่ทำงาน และ on the road ซึ่งเครือข่ายในอนาคตที่จะเกิดขึ้น จะมีอยู่ 3 เครือข่ายด้วยกัน คือ home network, office network และ mobile network

ด้วยความเชื่อเช่นนี้จึงเป็นสาเหตุหลักให้ Samsung เลือก focus การสร้างสินค้าที่เป็นกลยุทธ์หลัก 3 ประเภท คือ consumer electronic ซึ่งมีสินค้าทุกอย่างที่ตอบสนองความเป็นบ้านได้, สินค้า IT โดย Samsung มีสินค้าทุกตัวที่ประกอบพ่วงกับ PC ต่อเป็น office network ได้สมบูรณ์แบบ และโทรศัพท์มือถือ

ตั้งแต่ปี 2000 จะเริ่มเห็นสินค้าที่มีการรวมคุณสมบัติของอุปกรณ์อื่นเข้ามาไว้ในตัวจากหลากหลายยี่ห้อมาวางขายในตลาด เช่น โทรศัพท์มือถือจอสีติดกล้อง และเป็นเครื่อง MP3 ในตัว เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมีกล้องในตัว จอมอนิเตอร์ที่เป็นทีวี เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันที่สามารถเป็น digital system ได้ เป็นต้น ซึ่งในยุคนั้นถือเป็นจุดกำเนิดของ convergence product

การสร้างอุปกรณ์ที่เป็น convergence product เป็น trend ที่เกิดขึ้น และกำลังมีอำนาจกับตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นตัวตนของตลาดที่กำลังเคลื่อนที่ไป ซึ่ง Samsung เป็นเพียงหนึ่งในแบรนด์สินค้าที่ต้องเดินไปดักตัวตนของตลาดนั้นไว้ มองตลาดให้ขาดว่าแท้จริงแล้วผู้บริโภคต้องการอะไร แล้วตอบสนองให้ถูกจุด ซึ่งต้องคำนึงถึงความง่าย (comfortable) และสะดวก (convenience) เป็นหลัก

คนในปัจจุบันเลือกที่จะอยู่คอนโดมิเนียมมากขึ้น ครอบครัวมีขนาดเล็กลง มีแค่พ่อ แม่ ลูก ขนาดพื้นที่มีจำกัด และมีราคาแพงมากขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องของ convergence technology ที่ focus ในเรื่องของสินค้าภายในบ้าน

คนที่มีอายุตั้งแต่ 40-60 ปี มีความถนัด คุ้นเคยกับตู้เย็นมากกว่าอุปกรณ์ชิ้นอื่นภายในบ้าน ดังนั้น “ตู้เย็น” จึงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของบ้านในยุคดิจิตอล ตู้เย็นสามารถต่ออินเทอร์เน็ต และเป็นตัวเชื่อมโยงกับอุปกรณ์อื่นภายในบ้าน เช่น ปิด-เปิดแอร์ ตรวจสอบเครื่องซักผ้า โดยการสั่งงานผ่านหน้าจอ Home Pad ที่ติดมากับตู้เย็นได้

โดยความสามารถของตู้เย็นเองในอนาคต คนในบ้านแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่ตั้งค่าเอาไว้ว่าช่องนี้ใส่นม ใส่น้ำผลไม้ ใส่ผัก พออาหารในช่องหมดตู้เย็นก็จะทำการต่ออินเทอร์เน็ตไปยัง supermarket ให้นำอาหารมาส่งในวันที่ต้องการ ซึ่งทำให้ชีวิตเกิดคำว่าสบาย และง่ายขึ้น

ในทางกลับกันคนที่มีอายุ 17-40 ปีขึ้นไป มีความคุ้นเคย เข้าใจในเรื่องของคอมพิวเตอร์พีซี จึงเกิดแนวคิด PC home entertainment ขึ้นมา โดยใช้เครื่อง PC เป็นทีวี สั่งแอร์ให้ทำงาน ฯลฯ เป็นศูนย์กลางของบ้านของคนในรุ่นนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตคนไม่ต้องการ PC home entertainment มากนัก แต่ในส่วนลึกแล้ว คนต้องการ personal entertainment ที่จะเกิดขึ้นได้จริงในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ซึ่ง PC home entertainment จะเป็นสะพานที่ทำให้คนในยุค e-generation เคลื่อนเข้าสู่การเป็น personal entertainment ได้จริงในอนาคต

กรัณฑ์ ร่วมสุข Marketing Manager IT Business บริษัท Thai Samsung Electronics Co.,Ltd. กล่าวว่า ในปี 48 จะเป็นการเปลี่ยนแปลงจากยุค analog ไปสู่ยุค digital ซึ่งจากเดิมคำว่า “experience” ที่เคยเป็น key success factor ของยุค analog นั้น แต่เมื่อเข้าสู่ยุคดิจิตอลแล้ว key success factor คือ technology, speed และ design

3 สิ่งหลักที่เป็นการแสดงตัวตนของมนุษย์ที่กำลังขับเคลื่อนไปซึ่งส่งผลกระทบกับการคิดค้นสินค้าที่เหมาะสมมาทำตลาดในปี 48 คือ differentiation ทุกคนมีความแตกต่าง ต้องยอมรับในความแตกต่างนั้น, peacefully ทุกคนมีมุมสงบของตัวเอง เป็นความชอบส่วนตัวที่มีมาตั้งแต่เด็ก และ more communication พูดกันมากขึ้น คุยกันมากขึ้น

นอกจากนี้ ต่อไปสินค้าทุกตัวจะต้องเป็น convergence product สินค้าตัวเดียวสามารถทำงานแทนอุปกรณ์ได้หลายตัว ซึ่งสิ่งที่จะเป็นตัววัด คือ เทคโนโลยี convergence ของใครจะทำได้ดีกว่ากัน ใครจะรวมสินค้าให้มาอยู่ในตัวเดียวกัน ด้วยขนาดที่สร้าง impact ให้กับตลาด และมีพลังความสามารถมากกว่า จะเป็นผู้ได้เปรียบในการแข่งขันปี 48

ADSL, Internet Broadband และ Wireless จะปัจจัยเสริมที่ตอบสนองประสิทธิภาพของการทำงานในยุคดิจิตอล ทำให้การเคลื่อนที่เข้าสู่ยุคดิจิตอลเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น ซึ่ง Wireless จะมีการเติบโตขึ้น เพราะสามารถตอบโจทย์ในเรื่องความสะดวก และความง่าย ดังจะเห็นได้ว่ามีจุดให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายเกิดขึ้นอย่างมากมาย ทำให้คนใช้เวลานอกสถานที่ในการทำงานง่ายขึ้น อยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้

เมื่อเทคโนโลยีของทุกผู้ผลิตวิ่งไล่ตามกันทัน โครงข่ายพื้นฐานในการใช้งานต่างๆ เริ่มมีความพร้อมมากขึ้น สิ่งที่จะวัดความแตกต่างคือ design ซึ่งเป็นจุดสร้างภาพพจน์ (Image) ให้กับผู้ใช้ ตอบสนองความชอบเฉพาะบุคคล เช่นเดียวกับตลาดโทรศัพท์มือถือ ที่มีความแตกต่างของ design อย่างชัดเจน และเป็นตลาดที่ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลค่อนข้างสมบูรณ์

ในปี 48 lifestyle ของคนจะมีความเป็น mobility มากขึ้น แต่ที่สำคัญจะใช้ประโยชน์จากความเป็น mobility นั้นมาสร้างประโยชน์ให้ตัวเองมากที่สุดได้อย่างไร ซึ่ง Samsung จะยังคงยึดแนวคิดนี้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาเติมเต็มชีวิตในยุคดิจิตอลให้สมบูรณ์มากกว่าเดิม

Did you know?

สมาร์ทโฮม เมื่อบ้านกลายเป็น “ อัจฉริยะ”

กระแสของบ้านอัจฉริยะหรือสมาร์ทโฮมเพิ่งจะได้รับความนิยมมากขึ้น เมื่อไม่นานมานี้ หลังมีการนำเสนอแนวคิดนี้ของค่ายผู้ผลิตสินค้าและโซลูชั่นสำหรับสมาร์ทโฮมผ่านทางบ้านต้นแบบและห้องตัวอย่างหลายครั้ง หลายหน ในงานแสดงเทคโนโลยีต่างๆ หรือแม้แต่การโปรโมตเป็นจริงเป็นจังของบางค่ายในการรุกตลาดกลุ่มนี้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ส่วนสำคัญที่ผลักดันให้สมาร์ทโฮมเกิดขึ้นจริงหรือนำมาใช้ได้จริงหรือไม่ น่าจะเป็นเรื่องของวิถีชีวิตในการดำรงชีวิตภายใต้หลังคาบ้านนั้นเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน หลายคนพิสมัยความสะดวก สบายในการใช้ชีวิตในบ้าน คอนโดมิเนียม หรืออาคารที่พักส่วนตัว โดยมีตัวเทคโนโลยีและสินค้าไอทีเข้ามาผูกติดให้เกิดความสบายเหล่านี้

หากเทียบกับเมื่อช่วงที่ผ่านมา ความสามารถของสินค้าเหล่านี้มักจะมาพร้อมความสามารถเฉพาะตัวเท่านั้น เช่น ตู้เย็นที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เตาอบที่ตั้งเวลาอบได้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และไฟฟ้าที่สามารถปิดได้เองเมื่อไม่มีคนใช้งานแล้ว แต่ทุกวันนี้ระบบต่างๆ ของสินค้าทุกตัวถูกพัฒนาให้เชื่อมโยง และทำงานร่วมกันได้ เป็นโซลูชั่นเดียวกัน ทั้งหมดจะได้รับการควบคุมหรือกำหนดความสามารถล่วงหน้าด้วยเจ้าของบ้าน

อินเทล คืออีกเจ้าหนึ่งที่ประกาศวิสัยทัศน์อย่างชัดเจนในการสนับสนุนแนวความคิดนี้ โดยเรียกชื่อเฉพาะว่า “Intel Digital Home” ภายใต้คอนเซ็ปต์นี้อินเทลเน้นไปยังการตอบสนองความต้องการด้านมัลติมีเดีย และคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงได้ทุกที่ทุกเวลา อินเทลใช้จุดเด่นของตนที่เป็นผู้นำในการผลิตชิพระดับโลก ในการออกแบบชิพเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงต่างๆ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้ โดยผ่านการสื่อสารด้วยเครือข่ายไร้สาย อาทิ การพัฒนาชิพ ใช้ อินเทล เซนทริโน โมบาย สำหรับคอมพิวเตอร์พกพา ให้มีความสามารถในการเชื่อมต่อไร้สายในบ้าน หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ตตามฮอตสปอตต่างๆ

นอกจากนี้อินเทลยังพัฒนาอุปกรณ์ที่เรียกว่า ดิจิตอล มีเดีย อแด็ปเตอร์ (ดีเอ็มเอ) สำหรับใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น โทรทัศน์ และเครื่องเสียงกับเครื่องพีซีที่ตั้งอยู่อีกห้องหนึ่ง เพื่อรับดิจิตอลคอนเทนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เพลง รูปภาพ และวิดีโอ โดยผ่านการเชื่อมต่ออุปกรณ์ดังกล่าวด้วยเครือข่ายไร้สายในบ้าน ผู้ใช้สามารถเลือกคำสั่งจากจอโทรทัศน์โดยใช้รีโมตคอนโทรลเพียงอันเดียวเท่านั้น

ขณะที่ค่ายไมโครซอฟท์เปิดแนวคิดที่คล้ายคลึงกัน คือตอบสนองความบันเทิงแบบดิจิตอลภายในบ้าน และตอบสนองการใช้งานแบบดิจิตอลผ่านระบบปฏิบัติการหลากหลายในอุปกรณ์ที่แตกต่างกันออกไป เพียงแต่ไมโครซอฟท์ลงทุนพัฒนาตัวอุปกรณ์ของตนขึ้นมาด้วยบางอย่าง นอกเหนือจากการป้อนระบบปฏิบัติการให้กับผู้พัฒนาอุปกรณ์เหล่านั้น

ในงานแสดงเทคโนโลยีของไอซีทีที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์เองก็ได้เผยโฉมแนวความคิดนี้ออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยแบ่งแยกตามสัดส่วนของการใช้งานในบ้าน เช่น ห้องนั่งเล่นมีพีซีที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์สเอ็กซ์พี ที่ไมโครซอฟท์เน้นว่าฟีเจอร์โดดเด่นที่การเป็นศูนย์รวมของความบันเทิงภายในบ้าน ระบบปฏิบัติการตัวนี้สามารถช่วยเชื่อมต่อระหว่างพีซีกับทีวี หรือเครื่องเสียงเพื่อรับชมความบันเทิงได้แม้จะอยู่ห่างกัน หรือจะใช้ Pocket Media Player แทนรีโมตในการสั่งการทำงานของทีวีในบ้าน และเชื่อมคนทั้งโลกมาเล่นเกมด้วยกัน ด้วยเครื่องเล่นเกมเอ็กซ์บ็อกซ์

ล่าสุดกับอินเตอร์โซล เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับบ้านอัจฉริยะสัญชาติไทยที่เพิ่งจะประกาศความสำเร็จในการวางระบบให้กับบ้านของ “อานนท์ เรืองจรุงพงศ์” ลูกชายคนที่สามของตระกูลเรืองจรุงพงศ์ เจ้าของผลิตภัณฑ์นกนางนวล บ้านหลังดังกล่าวถือเป็นบ้านอัจฉริยะหลังแรกของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ ที่มาพร้อมกับความเป็นจริง ไม่ใช่เพียงแนวคิดอีกต่อไป เพราะเกิดจากความต้องการของผู้ใช้มากกว่าความต้องการของผู้ผลิต หรือผู้พัฒนาระบบ

นอกจากจะใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือและการ์ดแบบคอนแทคเลสกับประตูหรือรั้วบ้านแล้ว ยังสามารถตั้งการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเพื่อต้อนรับเจ้าของบ้านด้วย ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่เจ้าของเดินไปยังห้องนั่งเล่น ระบบจะสั่งการเปิดไฟ เปิดแอร์ พร้อมปรับอุณหภูมิตามที่ต้องการ ปิดม่านไฟฟ้า เปิดทีวี และปรับไปยังช่องที่ตั้งไว้ ปรับระดับเสียงให้พอเหมาะทันที หรือควบคุมระบบความปลอดภัยในบ้านด้วยการตรวจจับความเคลื่อนไหวของผู้บุกรุก พร้อมแสดงบนหน้าจอที่ใช้ควบคุมทุกส่วนของบ้านด้วยระบบสัมผัส และสามารถสั่งงานผ่านเครือข่ายจีพีอาร์เอสบนมือถือได้ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลกที่เครือข่ายครอบคลุมถึง

Website

www.samsungelectronics.co.th