eTicket ขายตั๋วหนังผ่าน PDA

โรงภาพยนตร์เป็นธุรกิจที่ได้ชื่อว่าลงทุนหวือหวามากที่สุด ทั้งในแง่ดีไซน์และไอทีวี และนี่เองที่ทำให้บรรดา “แฟนภาพยนตร์” นอกจากซื้อและจองตั๋วผ่านมือถือและอินเทอร์เน็ตได้แล้ว การซื้อตั๋วหนังผ่านอุปกรณ์ PDA เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในสังคมออนไลน์ และกำลังพัฒนาไปถึงขั้นที่พิมพ์ตั๋วหนังจากบ้านได้ทันที

โรงหนัง SFX Cinema ใช้เครื่อง PDA ขายบัตรชมภาพยนตร์ ตั้งแต่เปิดสาขาที่เอ็มโพเรียมในเดือนกุมภาพันธ์ 2546 เป็นแห่งแรก เพื่อสร้างการให้บริการที่แตกต่าง ในแบบฉบับของตัวเอง

PDA ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ เนื่องจาก SFX ได้เล็งเห็นศักยภาพในการใช้งานของเครื่อง PDA ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ และต้องการสร้าง Concept การให้บริการในแบบของตัวเองขึ้นมา จึงได้เริ่มนำ iPaq รุ่น 5450 ซึ่งเป็น pocket PC รุ่นแรกที่ติดตั้ง Wireless ในตัว เข้ามาตอบโจทย์ของการให้บริการ

ปัจจุบันคนเข้ามาชมภาพยนตร์ที่ SFX ประมาณ 10 ล้านคนต่อปี ซึ่งปัจจุบัน SFX มีทั้งหมด 8 สาขา ได้แก่ ที่เดอะมอลล์ 3 สาขา, เซ็นทรัลลาดพร้าว, มาบุญครอง, เอ็มโพเรียม, พัทยา และภูเก็ต โดยสาขาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในแง่ของผู้เข้าชมแต่ละรอบคือที่มาบุญครอง และเดอะมอลล์ บางกะปิ

แนวคิดของการให้บริการของโรงภาพยนตร์ SFX สาขา Emporium คือ ต้องการให้บริการในระดับ Premium เพื่อให้เข้ากับสถานที่ที่เปิดให้บริการ ช่วงแรกเปิดให้บริการเฉพาะลูกค้าที่มีความประสงค์จะซื้อบัตรที่นั่งพิเศษในโรงหนัง ซึ่งได้จัดส่วน Garden Lounge ให้ลูกค้ามานั่ง มาพูดคุย จากนั้นก็ให้พนักงานมาเสิร์ฟตั๋วให้ถึงที่โต๊ะด้วยการขายตั๋วหนังผ่านเครื่อง PDA ลูกค้าไม่ต้องไปจองตั๋วหนังที่หน้าเคาน์เตอร์

การใช้ PDA ขายตั๋วพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ จากเดิมที่ขายเฉพาะแถวสุดท้ายในโรงภาพยนตร์ซึ่งเป็นเก้าอี้พิเศษ ราคาสูงกว่าที่นั่งอื่น พัฒนามาขายตั๋วทั้งโรงภาพยนตร์ ซึ่งในขณะนี้ SFX มีเครื่อง PDA สำหรับขายตั๋วหนังให้บริการทุกสาขา ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายบัตรอีกทางหนึ่ง ซึ่งจุดเด่นของการให้บริการจำหน่ายตั๋วผ่าน PDA คือ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเข้าคิว สะดวก รวดเร็ว และมีความยืดหยุ่นในการให้บริการ

นอกจากนี้ลักษณะโครงสร้างของ Emporium ตัวตึกจะเป็นช่องเปิด ตรงกลางโล่ง จึงสามารถติด Access Point เพื่อกระจายสัญญาณ Wirelessได้ครอบคลุมทั่วทั้งตึกได้ง่าย บวกกับ SFX เองก็มีที่จำหน่ายบัตรในชั้น 3 จึงทำให้พนักงานมี gimmick ในการขายตั๋วเพิ่มมากขึ้น ด้วยการแต่งตัวเป็นตัวละครในภาพยนตร์ เช่น Harry Porter, Lord of the Ring ฯลฯ ช่วยสร้างสีสันในการขายตั๋วช่วงเสาร์-อาทิตย์ และเป็นการโฆษณาภาพยนตร์ไปด้วยในตัว

การลงทุนให้บริการขายตั๋วด้วยเครื่อง PDA ในช่วงแรกใช้เงินลงทุนต่อชุดประมาณ 40,000 บาท (อุปกรณ์ 1 ชุดประกอบด้วย เครื่อง iPaq และ เครื่องพิมพ์ อย่างละ 1 ตัว)

ในช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์ ที่มีผู้เข้าชมภาพยนตร์หนาแน่น ทางโรงหนังสามารถเพิ่มจุดขายตั๋วได้ทันทีโดยการใช้เครื่อง PDA เพิ่มจากหน้าเคาน์เตอร์ที่มีพนักงานให้บริการอยู่แล้วประมาณ 5 คน ทำให้เพิ่มช่องทางการขายตั๋วได้มากขึ้น โดยพนักงาน 1 คน สามารถขายตั๋วผ่านเครื่อง PDA ได้ 30,000-70,000 บาทต่อรอบการทำงาน 1 วัน (ประมาณ 5-8 ชั่วโมง) ทำให้โรงหนังมีรายได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาพยนตร์ที่เข้าฉายด้วย ถ้าหนังได้รับความนิยมสูง ก็จะยิ่งจำหน่ายได้มาก

พนักงานสามารถออกตั๋วได้ทันทีด้วยการสั่งจากเครื่อง PDA ไปยังเครื่องพิมพ์ตั๋วที่ติดกับตัวพนักงานผ่านเทคโนโลยี Bluetooth ในขณะเดียวกันก็สามารถเก็บเงิน คุยกับลูกค้า และแนะนำรอบหนังได้ โดยพนักงานจำหน่ายตั๋วทุกจุดสามารถเห็นข้อมูลได้เหมือนหน้าเคาน์เตอร์ปกติในแบบ real time

ถ้าหนังค่อนข้างได้รับความนิยม การขายตั๋วผ่านช่องทางปกติที่หน้าเคาน์เตอร์ พนักงาน 1 คนสามารถจำหน่ายได้ 1 แสนกว่าบาท ใน 8 ชั่วโมง

ชัยวัฒน์ โตปิตุมาตุคุณ E-Business Manager บริษัท SFX Cinema กล่าวว่า ในขณะนี้ SFX มี PDA ให้บริการสาขาละ 1 เครื่อง เพื่อเป็นตัวเสริมในช่วงที่คนเยอะ และเสาร์-อาทิตย์ แต่มีแผนการว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 เครื่องต่อสาขา ซึ่งศักยภาพที่ใช้จาก PDA คือการขายตั๋ว และให้ข้อมูล ดูรอบฉายปัจจุบันและล่วงหน้า เป็นหลัก

นอกจากนี้ SFX ได้เปิดตัวบริการ Print @ home ให้จองตั๋วผ่านอินเทอร์เน็ต แล้วพิมพ์ตั๋วหนังออกมาได้ทันที โดยที่ตั๋วหนังจะมีบาร์โค้ด เมื่อลูกค้ามาถึงโรงภาพยนตร์ก็ใช้ตั๋วที่พิมพ์มาจากบ้านนั้น สแกนบาร์โค้ดกับเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าชมภาพยนตร์ ซึ่งในช่วงแรกทาง SFX ใช้เครื่อง desktop แล้วติดเครื่องบาร์โค้ดสแกนเนอร์ แต่ในเฟสถัดไปจะนำเครื่องบาร์โค้ดสแกนเนอร์มาต่อกับ PDA แล้วทำหน้าที่สแกนตั๋วหนังในจุดฉีกบัตรเพื่อเข้าชมภาพยนตร์ เพิ่มความคล่องตัวในการให้บริการอีกทางหนึ่ง

บริการขายตั๋วผ่านอินเทอร์เน็ต ทาง SFX เปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546 โดยเอ็มโพเรียมเป็นสาขาที่มียอดการซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตสูงติด 1 ใน 3 มาตลอด ซึ่งบริการนี้ได้รับความนิยมทั้งจากลูกค้าคนไทย และต่างชาติ

ชัยวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเทคโนโลยีตัวไหนที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น ก็จะพยายามนำมาใช้เพื่อขยายช่องทางการขายบัตรให้เพิ่มขึ้น ทั้งผ่านหน้าเคาน์เตอร์, ผ่านเครื่อง PDA, ผ่านอินเทอร์เน็ต และตู้คีย์ออส ที่จะมีให้บริการในปีหน้า แนวคิดของการให้บริการจะให้ความสำคัญกับ Integration มากที่สุด บริการต้องมีความเชื่อมโยง สอดคล้องกัน ฐานข้อมูลกับทุกจุดที่ให้บริการเชื่อมโยงกันแบบ real time เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่นั่งชนกัน ไม่ว่าจะขายตั๋วผ่านช่องทางใดก็ตาม

ในต่างประเทศยังไม่มีโรงภาพยนตร์ที่ไหนใช้ PDA ในการขายตั๋ว ในขั้นต่อไป SFX มีแผนจะใช้ tablet PC มาขายตั๋ว เพราะสามารถตอบโจทย์ในเรื่องของหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้

การให้บริการต้องประกอบกันไปทั้งฮาร์ดแวร์ และ application ให้ความรู้สึกเสมือนจริง เห็นผังที่นั่งเหมือนกับจองหน้าเคาน์เตอร์ให้บริการ ไม่ว่าจะใช้บริการจองตั๋วผ่านช่องทางไหนก็ตาม สร้างความสะดวก ความง่ายให้ผู้ใช้บริการ

Did you know?

ปัจจุบันมีผู้ใช้ PDA ประมาณ 2-3 แสนคน ซึ่งในแง่ของ commercial แล้วธุรกิจการขายและร้านอาหาร มีการนำ PDA ไปใช้ในธุรกิจมากที่สุดในแง่ของปริมาณ ซึ่งการนำ IT ไปใช้ในธุรกิจ ทำให้เพิ่มลูกค้า มีพัฒนาการบริการให้รวดเร็ว เพิ่มยอดขาย และลดค่าใช้จ่ายได้ อีกทั้งยังสร้างภาพพจน์ (image) ให้กับตัวบริษัทให้ดูน่าเชื่อถือไปในตัว โดย mobility solution สามารถสร้างประโยชน์ที่เอื้อได้ทุกอุตสาหกรรม

ตั๋วหนังออนไลน์

ปัจจุบันการจองตั๋วออนไลน์เริ่มได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เมื่อต้นทางอย่างเว็บไทยทิกเก็ตมาสเตอร์ (www.thaiticketmaster.com) เริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี 2543 ของกลุ่มบีอีซี-เทโร ก่อนที่ค่ายหนังอย่างเมเจอร์ซีเนเพล็กซ์จะได้เริ่มทำระบบ “ซื้อบัตร” ออนไลน์ต่อมาได้อย่างสมบูรณ์โดยผ่าน Online Ticket ผ่านเว็บ www.majorcineplex.com หรือของ SF ในระบบ I-Ticket www.sfcinemacity.com โดยสามารถเลือกรอบ และที่นั่งจากโรงภาพยนตร์ตามสาขาทั้งหมดที่แสดง

ที่นั่งของ Online Ticket จะเป็นที่นั่งแถวที่ดีที่สุด (ไกลจอที่สุด) ในโรงภาพยนตร์ สำหรับที่นั่งราคาปกติ หรือสามารถทำจะเลือกที่นั่งเองได้อย่างเสรี แต่ขั้นตอนก็คือ ต้องสมัครสมาชิกแล้วจะได้รับพาสเวิร์ดกรอกรายละเอียดส่วนตัว และทำตามขั้นตอนประมาณ 7-8 ขั้น ระยะเวลาไม่เกิน 5 นาที โดยเมื่อได้ทำการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตแล้วระบบก็ส่งอีเมลมาให้โดยต้องสั่งพรินต์และไปรับบัตรที่บ็อกซ์ออฟฟิศหน้าสาขาที่ซื้อ

นอกจากนั้นวิธีการ “จองบัตร” ที่นั่งแล้วไปรับบัตรหน้าโรงก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการ แต่ผู้ชมจะไม่สามารถเลือกที่นั่งที่ต้องการโดยตรงได้ โดยจะรับหมายเลขรหัสทั้งจากของ Movie line ของเมเจอร์ หมายเลย 02-515-5555 หรือ ของ SF ตามแต่ละสาขาเช่น MBK 02-611-6444 หรือแม้แต่ Bug Life 1113 ก็เปิดให้รับจองบัตรภาพยนตร์ผ่านช่องทางนี้

กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ของโรงภาพยนตร์ที่ใช้การออนไลน์ซื้อหรือจองบัตรก็มักจะเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่ใช้อินเทอร์เน็ตในการดูข้อมูลข่าวสารภาพยนตร์บนเว็บไซต์เป็นประจำ รวมไปถึงกลุ่มคนทำงานแล้วที่มีบัตรเครดิตสามารถเชื่อมต่อซื้อหรือจองได้ผ่านมือถือ หรืออินเทอร์เน็ตในออฟฟิศ

Website

www.sfxcinema.com