นิตยสารแพรวเกิดขึ้นในเมืองไทยมากว่า 25 ปีแล้ว และเป็นที่รู้จักกันอย่างดี อะไรที่ทำให้นิตยสารเล่มนี้ ครองใจผู้อ่านได้อย่างยาวนาน อะไรที่ทำให้แพรวเป็นนิตยสารผู้หญิงหัวในยืนอยู่ในอันดับต้นๆ ถ้าอยากรู้ละก็ ลองมาอ่านบทสัมภาษณ์ของ ฉันทนา ยุทธภูมิ บรรณาธิการบริหารแพรวคนปัจจุบัน จากประสบการณ์บนเส้นทางน้ำหมึก ตั้งแต่ช่างภาพ นักเขียน และ 12 ปีในแพรว เป็นเครื่องการันตี ฝีไม้ลายมือของเธอได้ระดับหนึ่ง
– ประวัติของแพรว
แพรวเพิ่งครบรอบ 25 ปีไปเมื่อกันยาปีที่แล้ว ตอนนี้ขึ้นปีที่ 26 ก่อตั้งมาจากบริษัทอมรินทร์ เริ่มต้นด้วยคุณชูเกียรติ อุทกะพันธุ์ ท่านประธานใหญ่ ท่านเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เริ่มแรกจริงๆ ทำหนังสือบ้านและสวน พอได้ทีมเพิ่มขึ้นมาคือ คุณสุภาวดี โกมารทัต ซึ่งมีความรู้เรื่องหนังสือผู้หญิงก็เลยเปิดขึ้นมาเป็นนิตยสารแพรว เป็นนิตยสารผู้หญิงเล่มแรกของอมรินทร์ มีบก. มาทั้งหมด 3 คน เริ่มแรกก็คือคุณสุภาวดี ต่อมาก็เป็นคุณนวลจันทร์ แล้วก็มาเป็นพี่ เพิ่งเริ่มเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว
– ก่อนจะมาเป็น บก. แพรว
พอเรียนจบคณะเทคโนโลยีการศึกษาจากศิลปากร ก็เริ่มทำงานในสายของหนังสือเลย ตอนแรกเป็นช่างภาพก่อน ทำมาระยะหนึ่งก็รู้สึกว่าอุปกรณ์กล้องมันหนักขึ้นทุกวัน และเวลาที่เราทำงาน คนข้างๆ เราเขาถือเทปอัดแค่อันเดียว และสิ่งที่เขาถามก็เป็นสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราน่าจะทำได้ ก็เลยบอกกับบรรณาธิการว่า อยากลองทำงานนี้ด้วย ทำสองอย่างควบกันไป ก็รู้สึกว่าตัวเองก็เขียนได้ หลังจากนั้นก็ย้ายไปที่เปรียวทำอยู่ 2 ปี ก็มาทำที่แพรว จนถึงตอนนี้ 12 ปีแล้ว เน้นทำคอลัมน์สัมภาษณ์
หนังสือ lifestyle มันได้ส่วนดีตรงที่ว่า เราได้พบใครคนหนึ่ง เราได้รู้จักใครคนหนึ่ง สิ่งที่เขาเล่า สิ่งที่เขาบอก มันมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิตเรา สมมุติถ้าเราไปคุยกับเขา ประสบการณ์ในชีวิต ประสบการณ์รุนแรง สิ่งที่เขารับมือกับปัญหา มันอาจจะไม่เกิดขึ้นกับเรา แต่ทำให้เรารู้วิธีที่จะรับมือกับปัญหาถ้ามันเกิดขึ้น ทุกคนให้อะไรเราจริงๆ การเข้าพบบุคคลแต่ละท่าน มุมมอง และประสบการณ์ของแต่ละท่าน ถ้าเรารู้จักนำมาหยิบยกเลือกใช้ มันเข้าตัวเราหมด มันเป็นเสน่ห์ของงานนี้จริงๆ
โชคดีตรงที่ว่า เข้ามาในยุคที่แพรวมีความเป็นปึกแผ่น มีชื่อ มีความเข้าใจในระบบทำงานหนังสือ และมีพี่งานที่ดี อยู่ที่นี่ก็เลยแฮปปี้ ทำงานอย่างสบายมีทุกอย่างพร้อม
– ทำไมถึงต้องชื่อแพรว
อันนี้เขาเล่ากันมาขำๆ ตอนที่เริ่มทำหนังสือผู้หญิงก็เลยอยากได้ชื่อที่เป็นผู้หญิง ดูมีความพลิ้วไหวอยู่ในตัว พอดีลูกท่านประธานชื่อแพร แต่จะตั้งชื่อว่า แพร ก็จะเห็นว่าดึงกันมาโต้งๆ เกินไป เติมอะไรสักนิดมั้ย และความเป็นแพรวก็ดูนุ่มดี บอกความเป็นผู้หญิงได้
– หน้าที่ความรับผิดชอบ และเมื่อเข้ามารับตำแหน่งบรรณาธิการได้ปรับเปลี่ยนอะไรบ้างหรือเปล่า
ดูกองบรรณาธิการ ภาพ อาร์ต ทุกส่วน ถึงแม้ว่าพี่มาเป็น บก. แต่ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นผู้ช่วยพี่นวลจันทร์ ศุภนิมิตร มาตั้งแต่ปี 2000 ในการปรับอะไรแต่ละอย่าง แพรวเราปรับมาเรื่อยๆ ถึงแม้โดยตัวคอลัมน์หรืออะไรต่างๆ มันจะค่อนข้างเหมือนเดิมอยู่ แต่ถ้าเป็นรูปภาพหรืออาร์ต เราจะปรับมาเป็นระยะๆ อยากปรับก็ปรับ พอมาถึงพี่ทำ จะปรับเปลี่ยนอะไรจากเดิมหรือเปล่า ก็คงไม่ แพรวเป็นนิตยสารที่ขายด้านเนื้อหาเป็นหลัก สิ่งที่ได้ feedback มาจากผู้อ่าน เขาชื่นชมเราที่ว่าเราทำเนื้อหาได้โดนใจ เนื้อหาในตรงนี้หมายถึงว่า เราไม่ได้เสนอในเชิงให้ร้ายใคร เราเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ถ้าเราเป็นผู้หญิง อยากรู้เรื่องอะไรบ้าง อย่างแรกก็คือ อยากรู้เรื่องตัวเอง สอง เราอยากรู้เรื่องข้างนอก เราอยากเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบพร้อม คอลัมน์ทุกคอลัมน์ในหนังสือมันจะ support ตรงนี้ คุณทั้งรู้จักตัวเองและรู้จักโลกภายนอกด้วย มันคงจะไม่ดีถ้าผู้หญิงคนหนึ่งจะรู้จักแต่ตัวเอง เล่าเรื่องของตัวเองได้ แต่มีคนอื่นเข้ามาคุยเรื่องอื่นๆ และเราไม่รู้เรื่อง มันคงไม่ดี ที่ผ่านมาก็รู้สึกว่าเดินมาถูกทาง จากเสียงตอบรับ เราทำด้วยความหวังที่ว่า อยากจะเป็นผู้หญิงที่พร้อมในทุกๆ ด้าน ให้คนถือแพรวแล้ว ถือได้อย่างเชิดหน้าชูตา
– Target Group
จะอยู่ที่ผู้หญิงวัย 25-35 ปี แต่อาจจะเกินไปถึง 45 บ้าง แต่ทุกวันนี้ บางทีรู้สึกดีใจ จากจดหมาย เราพบว่ามีแฟนแพรวที่เด็กกว่า 25 หรือแม้แต่ผู้ชาย บางครั้งเราพบว่าในหนึ่งปักษ์ มีจดหมายผู้ชายเข้ามาเยอะมาก เวลาที่มีแบบนี้เข้ามา ก็จะน้อมรับไว้ทั้งหมดค่ะ ชอบ
– คอลัมน์ Business เกิดขึ้นได้อย่างไร
section นี้เพิ่งทำตอนวันเกิดครบ 25 ที่ผ่านมา เรารู้สึกว่าผู้หญิงเราไม่ควรที่จะรู้เรื่องอะไรแค่แคบๆ และปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยมีความกระเตื้องอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่ได้รับรู้จากหนังสือพิมพ์ มันมีทั้งปัจจัยภายนอก คือต่างประเทศมองว่าเราเป็นประเทศที่น่าลงทุน ปัจจัยภายในคือ เราเน้นทางด้านเนื้อหาและบทสัมภาษณ์ พบว่าข้อมูลต่างๆ ที่ได้พบเจอ ผู้หญิงหลายคนเก่งมาก แต่ที่ผ่านมาแพรวไม่มีเนื้อที่ตรงนี้ ก็เลยเปิด เพราะทุกอย่างมันเอื้อให้ และไม่ได้เสนอในแง่ของธุรกิจแบบหนักมากนัก เราคงความเป็นธุรกิจที่ผู้หญิงอ่านแล้วสนุกได้ คนอ่านรู้ว่าธุรกิจควรเริ่มต้นอย่างไร เดินไปในทิศทางไหน ก็เพิ่มส่วนนี้เข้ามา และก็ประสบความสำเร็จ อย่าง Business Woman เมืองไทยมีผู้หญิงเก่งเยอะมาก ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้เก่งแค่เรื่องที่บ้าน เรื่องการใช้ชีวิต แต่เก่งเรื่องการทำงานด้วย Business Hub เป็นธุรกิจเล็ก ขนาดย่อม ทำแล้วประสบความสำเร็จ เป็นแนวทางให้กับผู้อ่านที่อยากลงทุนแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ตรงนี้น่าจะเป็นส่วนช่วยได้
– อย่างนี้แพรวก็มีเรื่องทุกด้านให้กับผู้หญิง และมีด้านอื่นอีกหรือเปล่าที่อยากเสนอ
พี่ว่าครบแล้ว แต่ครบในที่นี้ก็รู้สึกว่ายังมีบ้างด้านที่เราต้องปรับปรุงเรื่อยๆ อย่างเช่น ภาพแฟชั่นต่างๆ เล่มอื่นๆ ก็หวือหวาขึ้นมาเรื่อยๆ บางครั้งแพรวก็อยากจะเป็นผู้หญิงสวยที่เปรี้ยวบ้าง
– ปัจจัยที่จะช่วยให้หนังสือขายดี อย่างปก คำโปรย
เรื่องปก จะช่วยกันคิด เริ่มต้นจากประชุมแฟชั่นก่อน หลังจากนั้นก็จะมีการคุยคอนเซ็ปต์แฟชั่น วางแผนกันไปเลยครึ่งปี ก็จะวางตัวนางแบบคร่าวๆ หลังจากนั้นก็จะเป็น production ของทางสไตลิสต์และช่างภาพ ทำงานกันมาและนำภาพมาเสนอ มีปกมาให้เลือก 3-4 แบบ ให้ทีมมาช่วยกันมองมาแล้ว แพรวโชคดีที่ได้ celebrity หลายท่านที่ไม่เคยขึ้นปกที่ไหน แต่มาเป็นแบบให้แพรว อย่างเชื้อพระวงศ์หลายพระองค์ คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา
คำโปรยจะช่วยการขายเยอะ แต่นางแบบปกก็ทำให้คนซื้อเยอะเหมือนกัน จากการทำ research การมีโปรยปกมันช่วย เพราะบางเล่มจะห่อพลาสติก อ่านดูข้างในไม่ได้ มันเป็นแรงจูงใจอย่างหนึ่งที่จะทำให้คนซื้อ
อีกส่วนหนึ่งก็คือแฟนประจำ เขารู้แล้วว่าแพรวทำอะไร ก็จะซื้อทุกฉบับ
– จุดขายของแพรว กับความสำเร็จ ณ จุดนี้
เนื้อหา เราขายทางด้านเนื้อหาเป็นหลัก แฟนที่อ่านบอกว่าเรามีเสน่ห์ในแง่ของการนำเสนอในเชิง positive ถ้ามองเป็นภาพก็จะเป็นผู้หญิงที่ positive ไม่มองอะไรร้าย อ่านแล้วก็จะได้มุมมองในแง่ดีเช่นกัน นี่คือจุดเด่นของเรา เราตั้งใจทำ และเมื่อมีคนรักและสื่อสารกลับมาว่าสิ่งที่เราทำลงไปเขารับได้
– ทุกเล่มจะมี Theme หรือเปล่า
ไม่ค่อย เรายึดหลักความเป็น variety ยึดอะไรที่มันอัพเดตมากกว่าด้วยซ้ำไป อะไรที่มันเป็นกระแส เรายอมทำงานหนักเพิ่มขึ้นเพื่อให้แฟนได้อ่านอะไรที่อัพเดต บางครั้งเราก็ต้องทำแทรกขึ้นมา
– เป็นบุคลิกของนิตยสารไทยหรือเปล่าที่ต้องมีนิยายหรือเรื่องสั้น
ใช่ ของแพรวเราไม่ได้ยึดอะไรไว้เป็นหลัก เราดูว่ามันเหมาะกับยุคสมัย มีเรื่องแปลกับเรื่องสั้นสลับกัน
– การคัดเลือกทีมงาน
แพรวมีทีมงาน 12 คน เวลาที่คัดเลือกคนเข้ามา เราจะมีฝ่ายบุคคล และก็มีบุคคลอยู่ท่านหนึ่งคือ คุณสุภาวดี (บก. คนแรก) ที่จะคัดคนให้ ซึ่งแต่ละคนที่คัดเข้ามาให้ไม่ผิดหวังเลย ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัวสำหรับคัดเลือกคนเข้ามา
– แพรวมีมานาน และเป็นที่รู้จักอย่างดี การตลาดจะยากหรือง่ายกว่าเล่มอื่นหรือเปล่า
พี่คิดว่ายาก เพราะการที่จะอยู่ให้ดีและนาน มันเป็นเรื่องที่ต้องทำการบ้านตลอดเวลา เราหยุดไม่ได้ พูดได้เลยว่าทั้งยอดขายและโฆษณา แพรวเป็นอันดับหนึ่ง และด้วยตำแหน่งที่ได้มา ทำให้เราต้องรักษาตรงนี้เอาไว้ สมมุติว่าเราอยู่ที่อันดับอื่นที่ไม่ใช่หนึ่ง คุณมีเป้าว่าจะต้องขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งให้ได้ แต่การที่คุณอยู่อันดับหนึ่ง ไม่ให้ตก ต้องอยู่ที่เดิม มันยากกว่า แพรวพยายามคิดรักษาลูกค้าเก่า สร้างลูกค้าใหม่ทุกวันๆ
– การแข่งขันระหว่างหัวนอกและหัวใน
แข่งกันประมาณหนึ่ง หัวนอกที่เข้ามาใหม่ เขาได้กระแสในแง่ของความหวือหวา มันง่ายที่จะหยิบขึ้นมาดูเวลาออกใหม่ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า เล่มนั้นๆ มีเสน่ห์พอที่จะให้เขาหยิบกลับบ้าน หรือซื้อเล่มต่อไปหรือเปล่า โจทย์ของเราก็คือว่า ทำยังไง ถึงแม้ว่าผู้อ่านจะมีความสนใจนอกเหนือไปกับอย่างอื่น แต่ก็มีใจรักเหนียวแน่นกับเรา
– สมมุติอีก 5 ปี แพรวจะเปลี่ยนอะไรหรือเปล่า
ก็คงเปลี่ยนตามยุคสมัย ที่เราอยู่มาได้และอยู่ได้ดี เพราะไม่ได้อยู่กับที่ เราไม่อยากเป็นผู้หญิงที่ตกยุคตกสมัย อีก 5 ปีเราก็ยังเป็นผู้หญิงที่ in trend ตลอดเวลา
– ส่วนตัวอยากทำอย่างอื่นอีกหรือเปล่า
เคยอยากเป็นคนเขียนบท แต่ไม่มีเวลาไปทำตรงนั้น แพรวตอบโจทย์ตัวเราได้ ถ้าสมมุติว่าผู้หญิงคนหนึ่งควรจะมีอะไร แพรวมี ที่ผ่านมา การทำงาน อยากทำอะก็ได้ทำ มันเหมือนตอบความต้องการของเราได้
– ถ้าเปรียบแพรวเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง จะเป็นผู้หญิงแบบไหน
เราอยากเป็นผู้หญิงที่สวยรอบด้าน หน้าตาดี แต่ไม่เปรี้ยวฉูดฉาด คือเป็นผู้หญิงธรรมดาที่มีความเป็นตัวของตัวเอง สวย มีสมอง แต่อาจจะเปรี้ยวบ้างบางครั้ง
คุณเป็นผู้หญิงแบบแพรวหรือเปล่า
Profile
Name : ฉันทนา ยุทธนาภูมิ
Age : 39 ปี
Education :
ปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
Career Highlights :
– หนังสือพิมพ์ Made in Thailand
– เคยอยู่กอง บก. นิตยสารเปรียว
– ปัจจุบัน เป็นบรรณาธิการนิตยสารแพรว
