ขึ้นชื่อว่าเป็นไฮโซที่เปรี้ยวไม่แพ้ใคร คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงสังคมมานานมากกว่า 15 ปี ทำให้ชื่อของ “สมศักดิ์ ชลาชล” เจ้าของร้านตัดผมชลาชล ร้าน Q-cut และ Salon De Bangkok ปรากฏเป็นข่าวครึกโครมอยู่เสมอ และยิ่งมีเพื่อนร่วมก๊วนอย่าง “ดารุณี กฤตบุญญาลัย” ด้วยแล้ว การขยับตัวทำอะไรก็ดูจะเป็นเรื่องฮือฮาไม่น้อย
โดยเฉพาะกับการตอบรับเข้าร่วม “เล่น” ในรายการไฮโซบ้านนอก ที่สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า real or fake
“ร้านเรากำลังไปได้สวย กำลัง peak ไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะต้องไปเล่นรายการนี้ ไม่ได้มองว่ามันจะช่วยเกื้อหนุนธุรกิจอะไร ทำเพราะอยากทำเห็นว่ามีประโยชน์ ไม่ต้องลงทุนอะไรนอกจากเวลา และได้เงินเป็นล้านไปทำการกุศล หลายปีก่อนทำคอนเสิร์ตการกุศลกับคุณดา (ดารุณี กฤตบุญญาลัย) นั่นเหนื่อยมาก ต้องวิ่งทำเองทุกอย่าง ประกอบกับช่วงเดือนกุมภาฯ ก็ว่างด้วย ธุรกิจมั่นคง และการจะมาจัดงานใหญ่โตรื่นเริงถึงแม้จะเพื่อการกุศลก็ไม่เหมาะ เพราะเจ้าป้ากอแก้ว ประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพรักและสนิทสนมกันเพิ่งสิ้น”
หากจะว่าไปแล้วรายการไฮโซบ้านนอก ถือเป็นประตูสู่การมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้างของสมศักดิ์ ชลาชล “การไปอยู่บ้านนอกเดือนหนึ่ง พอเรากลับมา รายการนี้ฉาย จากชื่อเสียงเราที่อยู่ในแวดวงสังคมคนกรุงฯ คนต่างจังหวัดที่รับข่าวสาร อ่านนิตยสารผู้หญิง แฟชั่น ก็อาจรู้จักเราบ้าง แต่รายการนี้ทำให้สมศักดิ์ ชลาชล เป็นที่รู้จักในระดับแมส” และเขาเชื่อว่าโดยมากแล้วผู้ชมรายการนี้จะชอบคาแร็กเตอร์แบบที่เขาเป็น แต่กระนั้นเขาก็ไม่นิยมชมชอบที่จะเป็นดารา และคงไม่ present ตัวเองผ่านรายการรูปแบบนี้อีก
“คนที่ไม่รู้จักหรือไม่ได้ใกล้ชิดเขาจะบอกว่า สมศักดิ์เป็นคนหยิ่ง ถือตัว แต่จริงๆ แล้วคนที่คลุกคลีกับเราจะรู้ว่า เราเป็นคนที่ไม่มีพิธีรีตองอะไรมากมายเลย และเขาจะรู้ว่าเราคุยสนุก เราไม่ fake หลายคนบอกว่าเราเป็นคนมีเสน่ห์ น่าเข้าหา (หัวเราะ)”
“เวลาเราออกงานสังคม ปาร์ตี้ไปเพราะสนุก เราได้โฆษณาตัวเอง โฆษณาแบรนด์ชลาชลฟรีๆ แต่จะไม่ไปงานที่บริษัทพีอาร์หรือคนเชิญที่ไม่สนิทกัน ก็จะไม่ไป และเวลาไปงานจะไม่อยู่นาน เราไปให้เกียรติเขาสักพักประมาณ 30 นาทีก็กลับ เพราะมีนัดกับชมรมแบดมินตัน ต้องเล่นแบดฯ 3 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม วันจันทร์ พุธ ศุกร์ ระยะหลังๆ ไม่ค่อยชอบออกงาน ยกเว้นงานที่สนใจจริงๆ อย่าง iPod เพราะเป็นคนชอบฟังเพลงอยู่แล้ว”
ด้วยสาขาแรกที่ถนนทองหล่อเมื่อ 15 ปีก่อน “ชลาชล” ได้บริการลูกค้าผู้มีอันจะกินในย่านนั้นมาอย่างยาวนาน การปรับปรุงชลาชลเป็น Hip Salon ก็เพื่อ refresh แบรนด์ให้ดูทันสมัยเข้ากับผู้บริโภคที่รุดหน้าทุกวัน ทั้งนี้ด้วยความมีชื่อเสียงของแบรนด์ “ชลาชล” ทำให้ถูกบรรจุเป็น 1 ในบริการพิเศษสำหรับลูกค้า Serenade ของ AIS ด้วย ซึ่งเขามองว่าเป็นการเกื้อหนุนกันและกันได้เป็นอย่างดี
นับได้ว่าสมศักดิ์เป็นคนมีชื่อเสียงในสังคมไม่มากนักที่เมื่อออกงานแล้ว ความเป็นแบรนด์ได้เกาะติดตัวเขาไปอย่างแนบแน่น จนแทบจะแยกไม่ออกเลยว่า “เราไม่เคยไปชักชวนไฮโซคนไหนมาทำผมที่ร้านเรา เพราะเมื่อเราออกงานไม่อยากให้เป็นเรื่องของการพูดคุยธุรกิจ”
แต่เมื่อนึกถึงสมศักดิ์ แล้วจะไม่คิดถึงร้านตัดผมชลาชลได้อย่างไร แม้เขาจะให้เหตุผลเช่นนี้ก็ตามที เฉพาะแค่ธุรกิจร้านทำผมชลาชล 7 สาขา Salon De Bangkok และ Q-cut ร้านทำผมแนวเทรนดี้อีก 5 สาขา พอจะตีมูลค่าได้ว่า ความเป็นแบรนด์ของสมศักดิ์กับสังคมไฮโซ ช่วยต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจของเขาเหล่านี้ได้มากน้อยเพียงใด
เอลตัน จอห์นเมืองไทย
บุคลิกนุ่มนิ่ม บวกกับสีสันที่จัดจ้านเครื่องแต่งกาย และทรงผม ทำให้ สมศักดิ์ ชลาชล ถูกนำไปเปรียบเทียบกับเซอร์ เอลตัน จอห์น เกย์ใหญ่เจ้าของรางวัลแกรมมี่อะวอร์ด จากสหรัฐอเมริกาไม่ได้
