นนทลิกานต์ สุริยวัฒน์ แห่ง WE

งานแต่งงานหรือคนที่จะแต่งงานสมัยนี้ ไม่เหมือนกับสมัยก่อน ที่จะต้องจัดตามคอนเซ็ปต์ที่ทางโรงแรมมีให้ คนสมัยใหม่ชอบอะไรที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แต่ด้วยไม่มีสิ่งมาสนับสนุนความต้องการตรงนี้มากนัก อมรินทร์มองเห็นช่องว่างทางการตลาด จึงทำให้เกิด WE นิตยสาร wedding & relationship เพราะการแต่งงานไม่ได้จบที่งานแต่งงาน POSITIONING ได้มีโอกาสพูดคุยกับนนทลิกานต์ สุริยวัฒน์ บก. อารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี ที่ช่วยนำนิตยสาร WE ครองใจคนมีความรักทั้งหลาย

– ก่อนจะมาเป็นเรา (WE)

จบนิเทศ จุฬาฯ เอกวารสารและสนเทศน์ เป็นช่วงที่เศรษฐกิจฟุบ ประมาณว่าหางานด้านของนิเทศ พวกโฆษณาฟุบมาก ตอนนั้นก็คิดว่าถ้าจับงานหนังสือคงยาก ก็เริ่มทำละคร ธุรกิจกองถ่าย ทำอยู่ที่กันตนา มีปัญหาตรงที่ไม่ค่อยรู้จักดาราเท่าไหร่ ก็เปลี่ยนมาที่สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ทำวารสารสำหรับเด็ก ชื่อผลิใบ รวมทั้งช่วยฝ่ายอื่นด้วย เช่นพวก PR ต่างๆ ทำได้สักพักก็มาทำงานที่แพรว เป็นกองบรรณาธิการทั่วไป พอดีแพรวขยาย section beauty ก็เลยไปทำเป็น Beauty Editor ประมาณ 2 -3 ปี เขาเปิดหนังสือใหม่ ก็ย้ายมาทำเล่มนี้ พอดีว่าทางผู้ใหญ่คงเห็นว่าเราเป็นคนรุ่นใหม่ มีศักยภาพ น่าจะทำได้ เค้าก็เลยให้มาทำ

– Concept ของ We

มันจะเป็นหนังสือลักษณะคล้ายกับหนังสือ wedding หนังสือแต่งงาน และมีพ่วงเรื่องของ relationship เข้ามาเกี่ยวด้วย ซึ่งในความรู้สึกของคนทั่วไปจะคิดว่า หนังสือแต่งงานออกรายเดือนจะมีอะไรให้อ่านเหรอ เพราะทั้งโลกไม่มีใครออกเป็นรายเดือน เราเลยคิดว่าถ้าเกี่ยวกับการแต่งงานอย่างเดียว มันแบน จะกลายเป็นหนังสือที่ไม่มีมิติ ก็เลยจับในเรื่อง wedding & relationship มันจะครอบคลุมกว่ามั้ย เพราะชีวิตแต่งงานมันไม่ได้จบแค่วันเดียว ชีวิตมันจะต้องมีก่อนหน้าที่จะมาแต่งงานกันได้ และหลังจากที่แต่งงานกันแล้วในช่วงต้นมันจะต้องมีการปรับตัวมากๆ ก็เลยจับช่วงนี้มาทำเป็น concept หนังสือก็คือ wedding & relationship

– WE คือ …

WE คือ ภาษาอังกฤษก็คือ เรา สื่อถึงความเป็นคู่กันอยู่แล้ว และก็บางคนอาจจะมองว่า WE ตัดมาจากคำว่า wedding ก็ได้ และ wedding ก็มีความเป็นคู่เข้ามาอยู่ด้วย เพราะจะแต่งงานคนเดียวก็ไม่ได้ มองอีกแง่หนึ่ง ตัว W หมายถึง Women (ผู้หญิง) พอกลับหัวก็เป็นตัว M (ผู้ชาย)

– วาง Positioning ไว้อย่างไร

เราวาง position เอาไว้ ว่ามันเป็นช่องโหว่ของการตลาด ก่อนหน้านี้ก็ยอมรับว่ามันมีหนังสือเกี่ยวกับการแต่งงานอยู่บนท้องตลาด แต่มันไม่ใช่เวอร์ชั่นแบบเรา ในแง่ของการจับ relationship เข้ากับ wedding ยังไม่มีใครทำ ก็มา focus ตรงนี้เยอะ หรือถ้ามันมีอยู่ก็จะอยู่ในหนังสือของผู้หญิง ที่จะทำเป็น special issue เกี่ยวกับ wedding และเรื่อง relationship ก็มีอยู่แล้ว อย่างที่แพรว มีจุดแข็งอยู่ที่การสัมภาษณ์ เราก็ดึงจุดแข็งตรงนี้เข้ามาใส่ในหนังสือ ที่ให้ไอเดียเกี่ยวกับการแต่งงานเข้าไปด้วย

– เนื้อหา หรือว่าแฟชั่นจะเกี่ยวกับแต่งงานตลอด

จะเกี่ยวกับชุดแต่งงานซะส่วนใหญ่ หรือถ้าไม่ใช่ชุดแต่งงานก็จะเป็นชุดสำหรับใส่ไปงานแต่งงาน ชุดราตรี ของเราค่อนข้างเน้น niche market มากกว่า

– ยากหรือเปล่า

ตอนแรกก็มีคนกังวลว่ามันจะตันมั้ย ข้อแรก หลังจากทำมาหนึ่งปีแล้ว ค้นพบว่ามันไม่ตัน เพราะว่ามันคล้ายๆ กับการทำหนังสือเกี่ยวกับมือถือ มันมีมาเรื่อยๆ ในเรื่องของการแต่งงาน คุณไม่ได้จัดงานแบบเดียวกันทุกคน ปัญหาที่คนพบแตกต่างกัน ความต้องการแตกต่างกัน เพื่อให้เข้ากับตัวคุณเอง รายละเอียดมันมีมากมายในเรื่องของ relationship อย่างสมมติว่า เพื่อนมีปัญหาหัวใจมาปรึกษา มันเคยจบหรือเปล่า ค่อนข้าง sensitive มันเป็นอะไรที่เป็นเรื่องที่ทำให้เราได้คุยถึง หยิบมาเล่นได้มากมาย เช่น แค่ผ้าหนึ่งชิ้นที่ใช้ตัดชุดก็นำมาเขียนได้เยอะแล้ว คือคุณต้องรู้มาก ต้องรอบคอบมาก ยิ่งคุณรู้มากรอบคอบมาก มันก็จะดีกับตัวคุณในการที่จะตัดสินใจ

– รวมไปถึงการจัดโต๊ะแต่งงาน

รวมถึงทุกอย่าง แต่งงานอย่าไปนึกถึงเจ้าสาวคนเดียว มันไม่ได้รวมเฉพาะตัว 2 คนอย่างเดียว WE แปลว่า พวกเราได้ คือมันเกี่ยวข้องกับ ตัวฉัน ตัวเธอ และก็พ่อแม่ ญาติ เพื่อนทั้งหลาย งานทั้งหมดทั้งงาน คุณต้องมีไอเดียไป ถ้าคุณไม่อยากให้งานคุณโหล ต้องลงรายละเอียดทุกอย่าง เราก็เลยมาในแง่ของการให้ไอเดีย

– คนสมัยนี้ให้ความสำคัญกับงานแต่งงานมากขึ้นหรือเปล่า

ใช่ ลักษณะงานของคนจัดงานแต่งงานสมัยนี้ จะจัดงานเหมือนด้วยตัวเองมากขึ้น คิดมากขึ้น ลงรายละเอียดมากขึ้น ใส่ความเป็นตัวเองลงไปมากขึ้น คือเหมือนกับว่างานมัน unique ขึ้น ตัวฉันเป็นยังไง เจ้าบ่าวเป็นยังไง ที่มาของความรักเป็นยังไง เขาจะพยายามใส่สิ่งเหล่านี้ลงไปในงานแต่งงานมากขึ้น ต่อให้จัดในโรงแรมก็จะแปลกไป มีตัวตนของบ่าวสาวมากขึ้น หรือจะไปจัดริมทะเลก็ได้ คนมันกล้ามากขึ้น create กันมากขึ้น

– เรียกว่า WE ครอบคลุมทุกอย่างหมด

เราจะแบ่ง section เป็นช่วงก่อนแต่ง การเตรียมตัว ความสวยความงาม และก็ไปถึงช่วงแต่งงาน รายละเอียดต่างๆ ที่ใช้ประกอบกัน เพื่อให้เกิดงานนี้ขึ้นมา จนกระทั่งหลังแต่งงานแล้วจะไปฮันนีมูนที่ไหน หรือบางเล่มก็จะมีแนะนำเกี่ยวกับเรื่องบ้านด้วย จะเลือกซื้อเรือนหอจะเลือกอย่างไร และก็จะมีเรื่องของการปรับตัวสำหรับการใช้ชีวิตคู่ นำมาในรูปสัมภาษณ์คู่แต่งงาน ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง หรือเป็นบทความเกี่ยวกับคุณหมอจิตวิทยา จับประเด็นชีวิตคู่มาคุยให้ฟัง

คือเคยคุยกับหลายๆ คู่มา พบว่า หลังแต่งงานสักประมาณ 3 เดือนแรกเนี้ย ยากมากๆ เพราะว่ามันเป็นช่วงมาเจอความจริง มันหลุดจากการอยู่บ้านฉัน อยู่บ้านเธอ นี่เราไม่ได้พูดถึงคนที่อยู่ก่อนแต่ง มันต้องมาอยู่กับใครอีกคน แทบจะ 100 % เราต้องมาปรับ มันต้องหาทางประนีประนอมอยู่กับคนที่เลือกมาแล้ว ตรงนี้ WE จะช่วย แต่เราไม่ได้พูดถึงว่า 20 ปีคุณจะเป็นยังไง เพราะมันไกลไป เราจะครอบคลุมถึงช่วงหลังแต่งงานแรกๆ ต้องปรับตัวอย่างไร เป็นเพื่อนคอยช่วย

– การทำหน้าปกยากหรือเปล่า

ยากคะ หน้าปกต้องเป็นแนวคู่รัก เราก็จะมีเป็นปกคู่ ที่อาจจะเป็นคู่เทียมหรือว่าคู่จริง หรือว่าจะเป็นเจ้าสาวคนเดียว เป็นเจ้าสาวที่มีความสุข character ของหนังสือเราจะเป็นแบบ happy bride อิ่มกับทุกอย่างที่อยู่ ณ เวลาตรงนี้ มันก็ยาก เพราะนางแบบสมัยนี้ก็ถือไม่อยากใส่ชุดแต่งงานเพราะว่ายังไม่ได้แต่ง ยังไม่ใส่ หรือว่าถ้าเป็นคู่รัก มันก็เสียวๆ เหมือนกัน ตามหลักทางการขาย ก็จำเป็นต้องเป็นดาราหรือนางแบบ เพราะมันมีผลต่อผู้อ่านมากกว่า

– Target Group?

คือคนที่มีความรัก และก็คิดว่ากำลังจะแต่งงาน จะเน้นผู้หญิงมากกว่า เพราะผู้หญิงจะชอบอะไรจุกจิก อายุประมาณ 20 กว่า จนถึงไม่เกิน 35 แต่ผู้ชายจะอ่านก็ไม่ว่าอะไร หลักๆ ไม่ได้เน้นอายุ จะเน้นเรื่องว่า คุณมีความรัก และวางแผนไว้วางจะแต่งงาน อาจจะหนึ่งปีข้างหน้า

– โฆษณาในหนังสือไม่จำกัดเหรอ

มันเป็น Wedding แต่มันเป็นหนังสือผู้หญิง ถามว่าที่ตรง พวก wedding ต่างๆ เขาต้องชอบ แต่ถามว่าในเรื่องสำหรับผู้หญิงที่อยากจะดีที่สุด สวยที่สุด มันก็ทำให้สามารถมีอย่างอื่นมาได้อีก มีโฆษณาอย่างอื่นได้อีก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง บ้าน เสื้อผ้า แฟชั่น มันก็ได้

– กิจกรรมที่ทำกับผู้อ่าน

ช่วงปีที่ผ่านมา เราออก road show พบปะคนอ่าน แนะนำหนังสือ และก็มีคอนเสิร์ต we sing along love song concert เป็นคอนเสิร์ตเพลงรัก ล่าสุดก็จัดงานครบรอบครบหนึ่งปีไปแล้ว ก็บอกว่า เราจะไปในทิศทางไหน เหมือนคนเราอยู่มาหนึ่งปี ก็ต้องมีอะไรฉลองพิเศษบ้าง ก็จะช่วยกันระหว่างกอง บก. กับฝ่ายการตลาด วางแผนว่าในหนึ่งปี เราจะทำอะไรบ้าง ช่วงไหน ต่อไปจะพยายามมี workshop อาจจะเปิดคอร์ส

– แรกๆ มีปัญหาหรือเปล่า

แรกๆ ก็ยาก เพราะมันเป็นช่วงที่หนังสือเปิดตัวกันเยอะมาก ถ้าถามกันความเป็นหนังสือหัวนอกมันก็จะได้เปรียบคือ เขาไม่ต้องมาแนะนำตัว เขาไม่ต้องเสียเวลากับการที่จะทำให้คนรู้ว่าเขาเป็นใคร และหยิบขึ้นมาอ่าน อย่างเรา ต้องแนะนำตัวเองให้เขารู้จัก คนต้องคิดก่อนว่า เราเป็นแบบไหน และใช่สิ่งที่เขาจะหยิบหรือเปล่า เพราะเราเป็น niche market กลุ่มชัดมากและแคบ ข้อได้เปรียบมันก็มีว่า คุณทำการตลาดได้ง่าย ข้อยากคือ ในเมื่อมันชัด คุณต้องตอบโจทย์ผู้อ่านให้ได้ เราต้องได้ใจของกลุ่มผู้อ่านให้ได้จริงๆ ถ้าเราให้สิ่งนี้ไม่ได้ เขาก็ไม่อยู่กับเรา

– พอครบหนึ่งปี เปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง

ถอดแถบสีข้างบนปกออกไป แก้เบื่อ จะได้เห็นรูปได้อิ่มขึ้น ไม่ต้องมีอะไรมาขวางขึ้น ก็มีเพิ่มคอลัมน์ เรา deal กับเมืองนอก เหมือนกับซื้อรูป แต่ไม่ได้ซื้อเนื้อหา มันจะมีบางอย่างที่บ้านเราอาจจะมีน้อย อย่างเมืองนอกเขาจะมีเดินแฟชั่นชุดแต่งงานเป็นฤดูเลย หลายแบรนด์จัด เรามีไม่มากเท่าเขา แบรนด์ดีๆ ก็ต้องสั่งตัด หรือบางทีเค้กแต่งงานเก๋ๆ แปลกๆ บ้านเราอาจจะทำได้ไม่เยอะแบบเท่าเขา ทางเมืองนอกอาจจะมีความกล้ามากกว่า เขาอยู่กับมันมานาน มีส่วนสำคัญในพิธีมากกว่าเรา สิ่งเหล่านี้ที่น่าสนใจ ก็จะเอามาให้คนอ่านได้ดู มันช่วยเป็นการ shortcut ให้ เพราะเจ้าสาวบางคนก็อาจจะดูหนังสือฝรั่งด้วย จะได้ซื้อเล่มเดียวอยู่ แต่อาจจะไม่ได้ลงทุกเล่ม

– ทำไมถึงออกเป็นรายเดือน

หนังสือแต่งงานส่วนใหญ่มักออกเป็นราย 2 เดือน ราย 3 เดือนบ้าง ของต่างประเทศก็เป็นแบบนั้น ยังไม่เห็นมีรายเดือน มันเป็นอะไรที่ไม่ได้ต้องการความ update ขนาดนั้น ชุดแต่งงานแต่ละชุดมันไม่ได้มากันง่ายๆ ถ้าออกราย 3 เดือนมันอาจจะนานเกินไป จะลืมเราหรือเปล่า ออกรายเดือนกำลังดี เพราะยังมีอย่างอื่นอีก ไม่ใช่เฉพาะ wedding ยังมีอะไรให้เล่นได้

– ไอเดียที่เอามาเขียน

ก็ประชุมกันในกอง brainstorm กัน หนังสือก็ต้องช่วยกันคิด ทุกคนต้องทำการบ้านของตนเองมา ต้องการให้คนอ่านได้อะไร เห็นอะไรใหม่ๆ น่าสนใจบ้าง คนทำต้องพยายามมองโลกในแง่ดี คือเราไม่ได้คาดหวังว่าคนทำจะต้องแต่งงานหรือมีแฟนแล้ว ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ ความรักเป็นเรื่องที่มี positive เป็นพื้นฐาน ถึงแม้ว่าคุณอาจจะยังไมได้แต่งงาน แต่ต้องมีความเข้าใจในความรักระดับหนึ่ง ต้องอินเรื่องของ relationship ต้องมองโลกในแง่บวกได้

– เคยมีคนเคยถามหรือเปล่าว่า ทำ WE แล้วแต่งงานหรือยัง

มีเหมือนกันมั้ง มันไม่ได้บังคับ มันเหมือนคนที่จัดงานแต่งงาน เราเป็นคนที่แนะนำคุณในเรื่องของไอเดีย ไม่จำเป็นที่จะแต่งงานถึงจะให้อะไรได้ คุณก็คิดได้ มีไอเดีย create ได้ เราให้คำแนะนำในแง่ของการจัดงาน มันไม่ใช่ปัจจัยจำเป็นที่จะต้องผ่านการแต่งงานมาก่อน เพียงแต่ว่าคุณต้องเห็นมาก อ่านมาก รู้มากกว่า โลกต้องเปิดกว้าง เพื่อที่คุณจะได้เปิดรับข้อมูลต่างๆ มาให้กับคนอ่านได้ หรือในแง่ของ relationship พูดถึงเรื่องนี้ในเรื่องของการสัมภาษณ์ เราดึงเรื่องของเขาออกมามากน้อยแค่ไหน

– ทีมงาน

ชอบคนรุ่นใหม่ มองโลกในแง่ดี มีวิสัยทัศน์ มีความเป็นผู้หญิงอยู่พอสมควร เพราะมันมีแง่มุมในความเป็นผู้หญิง มันเป็นเรื่องของรายละเอียด

– การเป็นบรรณาธิการที่ดี

มันเหมือนเป็นแม่ทัพ และต้องเป็นแม่ทัพสมัยก่อน เป็นคนแรกที่วิ่งออกไป แต่ไม่ใช่ออกไปตาย ในเมื่อเราต้องนำคนอีกหลายคน โดยเฉพาะคนอ่าน คุณสมบัติก็ควรมีอยู่ในแง่นี้ รู้เยอะ ต้องให้ในสิ่งที่เขาไม่รู้ ช่างคิด คอยปลุกระดมคนทำงาน อยู่นิ่งไม่ได้ เราต้องคอยบอกเขาเวลาที่เขาเริ่มแผ่วไป หรือดูเนือยๆ คุยกันด้วยเหตุด้วยผล มันต้องมีลูกเด็ดขาดแต่มันเป็นขั้นถัดไป บก. ต้องมองไปข้างหน้า ต้องรู้ว่าสิ่งนี้ใช่ สิ่งนี้ไม่ใช่ มันต้องชี้ได้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี ต่อไปทิศทางจะเป็นในแบบไหน ต้องคอยกระตุ้นให้คนข้างหลังไปด้วยกัน ไม่ใช่เราไปคนเดียว ที่สำคัญคือเราต้องดึงส่วนดีในแต่ละทีมออกมาให้ได้ เชื่อว่าแต่ละคนที่ทำงานต้องมีข้อดี ใช้ให้ถูกข้อดี หรือส่งเสริมให้ใช้ข้อดีกับงาน เพราะฉะนั้นทุกคนจะได้ดึงส่วนที่ดีของตัวเองออกมาเข้าด้วยกัน มันจะได้ผลที่ดี

– ผลตอบรับดีหรือเปล่า

ก็ดี ยอดสมาชิกก็ดีขึ้นเรื่อยๆ มันค่อยๆ เป็นค่อยๆไป ไปได้เรื่อยๆ เวลาเรามีกิจกรรมก็ได้รับการตอบรับดี เป็นอีกอย่างที่ช่วยการันตีว่า เขาให้ feedback กลับมาดี

– มองเรื่องความรักเป็นยังไง

ความรักมันเป็นเรื่องยาก มันมีความสุข ในขณะเดียวกันมันอาจจะทำให้คนที่มีความสุขมากๆ ให้กลายเป็นคนที่มีความทุกข์มากๆ ได้ มันต้องอาศัยศิลปะ ใช้จิตวิทยามากในการอยู่ด้วยกัน อย่างเวลาที่เรารักอยู่กับตัวเอง ยังต้องพยายามเข้าใจว่าตัวเองชอบอะไร มันเริ่มเป็นเรื่องของคน 2 คน มันมีก้อนความคิดของเขา และของเรา ที่จะทำยังไงให้ก้อน 2 ก้อนเป็นเพื่อนกันและคิดไปด้วยกันได้ มันยาก คนที่มีความรัก อารมณ์อย่างเดียวมันเอาไม่รอด มันต้องมีเหตุผล จิตวิทยา มีการหยุดคิด มีสติ มันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ และมีแต่ความสวยงามอย่างเดียว ไม่ได้ความว่า อย่าไปรักใครเลย ยังเชื่อความรักมันเป็นแรงขับดันให้ชีวิตเป็นในอีกรูปแบบหนึ่ง พอมีความรักแล้ว อะไรหลายๆ อย่างในตัวเรามันจะเปลี่ยนไป แต่พอรักแล้ว ต้องถนอมให้เป็น เลี้ยงดูให้เป็น มันไม่มีสูตรตายตัว ต้องคิดสูตรของตัวเอง โดยที่มี WE บ้างเป็น guideline

Are you in love?

Profile

Name : นนทลิกานต์ สุริยวัฒน์
Age : 27 ปี
Education :
ปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ จุฬาฯ
Career Highlights :
– กองบรรณาธิการ นิตยสารแพรว
– Beauty Editor นิตยสารแพรว
– ปัจจุบันเป็น Editor in Chief ของนิตยสาร WE