ถ้า “องค์บาก” คือหนังเรื่องแรกที่สร้างตำนานความสำเร็จของ “จา พนม” คงต้องบอกว่า หนังฟอร์มเล็กเมื่อปี 2514 หรือปี 1971 ในเรื่อง The Big Boss หรือ ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง ก็คือหนังบู๊เรื่องแรกที่สร้างชื่อให้กับเจ้าตำนานกังฟูอย่าง บรูซ ลี เช่นกัน
หากถามคนรุ่นนี้ว่า หนังที่บรูซ ลี แจ้งเกิดครั้งแรกนี้ ถ่ายที่ไหน ส่วนใหญ่คงตอบว่า ฮ่องกง หรือไม่ก็อเมริกา แต่หลายคนคงลืมไปแล้วว่า หนังฮ่องกงเรื่องนี้ใช้โลเกชั่นถ่ายทำในเมืองไทยทั้งเรื่อง ! ไม่นับรวมดาราประกอบคนไทยอีกมากมาย
ก่อนหน้าที่จะโด่งดังในวงการจากหนังเรื่องนี้ บรูซ ลีที่มีพื้นเพเดิมจากแถวฮ่องกง ได้อพยพไปอเมริกา ศึกษาต่อและทำงานที่นั่นหลายปี ถึงแม้เขาจะพยายามเข้าวงการบันเทิงหลายครั้ง เทสต์หน้ากล้องหลายหน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเสียที ยกเว้นได้แสดงบทเล็กๆ ในซีรี่ส์ทีวีที่ไม่โด่งดังอะไรมากนัก ในที่สุดก็ย้ายครอบครัวกลับมามองหาลู่ทางใหม่ในฮ่องกง และได้รับโอกาสแสดงหนังเรื่องแรกที่สร้างจากทีมงานฮ่องกงในที่สุด
ถึงแม้จะเป็นหนังต้นทุนต่ำ พล็อตเรื่องล้างแค้นที่ไม่ซับซ้อน แต่เปิดโอกาสให้บรูซ ลีได้แสดงบนเด่นในฉากการต่อสู้มากกว่าครึ่งเรื่อง จนกลายเป็นเครื่องหมายการค้าประจำตัวของเขาไปในที่สุด
หนังเรื่องแรกนี้เดินเรื่องในไทย ใช้ฉากในกรุงเทพฯ และแถวสระบุรี ปากช่อง โดย บรูซ ลี รับบทเป็นหนุ่มน้อยจากแดนมังกร ที่มาทำงานกับญาติที่โรงน้ำแข็งในไทย ถึงแม้จะเป็นคนฝีมือหมัดมวยดี แต่ไม่เคยมีเรื่องกับใครเพราะรับปากแม่ที่เมืองจีนว่าจะไม่ชกต่อยกับใคร ต่อมาเหตุการณ์กลับคับขันจนต้องออกแรงหมัด เหตุเพราะเถ้าแก่โรงน้ำแข็งนอกจากจะกดขี่แล้ว ยังเปิดกิจการบังหน้าการค้าเฮโรอีน เมื่อเพื่อนร่วมงานที่รู้ความลับกลับถูกสังหารโหด สุดท้ายก็ถึงวันที่หนุ่มบรูซ ลีต้องออกแรงทวงความยุติธรรมคืนมาด้วยกำปั้นและลูกเตะในฉากบู๊ที่ไม่เคยเห็นในภาพยนตร์เรื่องไหนมาก่อน
ที่คล้ายกันกับ “องค์บาก” คือ ฉากการต่อสู้อันดุเดือด เร้าใจ ได้สร้างชื่อให้กับหนังแนวบู๊ทั้งสองเรื่องอย่างรวดเร็ว ในสมัยนั้นหนัง The Big Boss ติดอันดับนำในฮ่องกงและที่อื่นในเอเชียอย่างรวดเร็ว และได้ไปฉายในโลกตะวันตก ในชื่อว่า Fists of Fury (อย่าสับสนกับเรื่อง Fist of Fury)
คราวนี้คงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า จะบังเอิญหรือไม่ก็ตาม สองดาวดังของหนังศิลปะการต่อสู้อย่าง บรูซ ลี และ จา พนม ได้เริ่มก้าวแรกในเมืองไทย เหมือนกัน



