Maxwell Live in Bangkok

กลายเป็นตลาดสำคัญของกูรูต่างประเทศไปแล้ว ที่ต้องเลือกมาบรรยายกรุงเทพฯ และถือเป็นจุดหนึ่งในโปรแกรมทัวร์เอเชีย ล่าสุด ดร.จอห์น ซี. แม็กซ์เวลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทักษะการเป็นผู้นำ และเป็นผู้เขียนหนังสือกว่า 30 เล่ม อาทิ The 21 Irrefutable Laws of Leadership ที่ติดอันดับขายดีมียอดพิมพ์กว่าล้านเล่ม, Thinking for a Change, Falling Forward (ล้มไปข้างหน้า) และหนังสือชุด 101 Series ว่าด้วยเรื่อง Ethics, Attitude, Equipping, Leadership, Relationship มาเปิดบรรยายครั้งแรกในไทย ที่บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

หลังเข้าพบนายกรัฐมนตรีในวันก่อนหน้า ได้จัดบรรยายแบบเต็มวันในหัวข้อ How to be a REAL Success ซึ่งมีนักธุรกิจชาวไทยและต่างประเทศร่วมฟังกว่า 800 คน งานนี้ถูกจัดขึ้นโดย Bridge Communications ตัวแทนของดร.แม็กซ์เวลล์ในเมืองไทย และสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี ที่เพิ่งตีพิมพ์ Winning With People ของดร.แม็กซ์เวลล์ ออกมาเป็นฉบับภาษาไทยในชื่อ “กลยุทธ์รู้ใจคน”

โดยในหัวข้อสัมมนา How to be a REAL Success “กลยุทธ์สู่ความสำเร็จที่แท้จริง” คำว่า REAL ในที่นี้คือ Relationship หรือสัมพันธภาพ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญสูงสุดที่จะนำคนไปสู่ความสำเร็จ, Equipping หรือแรงหนุน หมายถึงทีมงานและคนรอบตัวที่จะเป็นส่วนช่วยผลักดันให้งานบรรลุเป้าหมาย, Attitude หรือทัศนคติ ความคิดเห็นและมุมมอง อันเป็นปัจจัยกำหนดแนวทางการดำเนินชีวิต, Leadership หรือความเป็นผู้นำ ที่มีผลสำคัญต่อความสำเร็จส่วนบุคคล และมีอิทธิพลต่อทิศทางการเติบโตขององค์กรด้วย

ในส่วนของสัมพันธภาพ มีความสำคัญเป็นอันดับแรก เพราะมีผลโดยตรงต่อความสำเร็จส่วนตัวและในแง่ของทีมงาน ซึ่งภาวะผู้นำหมายถึงความสามารถโน้มน้าวใจคนอื่นได้ ซึ่งจะทำได้ก็ต้องเริ่มจากการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นๆ ก่อน การตรวจสอบความสัมพันธ์ที่มีว่าเหนียวแน่นหรือไม่ ให้พิจารณาจากคุณลักษณะต่อไปนี้คือ ความยอมรับนับถือ การมีประสบการณ์ร่วม ความไว้วางใจ การแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน และการชื่นชมยินดีร่วมกัน

ประเด็นของแรงหนุนหรือการเสริมสร้าง สำคัญที่การสร้างทีม เพราะทางเดียวที่จะประสบความสำเร็จได้คือการร่วมงานกับคนอื่น แนวคิดสำคัญด้านการบริหารจัดการในศตวรรษที่ 20 เองก็เป็นเทรนด์ของ Team of Leader เน้นการพัฒนาทีมผู้นำ และผู้นำไม่เพียงต้องมีวิสัยทัศน์เท่านั้น แต่ยังต้องสร้างทีมที่มีความสามารถขึ้นมาด้วย ขั้นตอนง่ายๆ ของการสร้างคนคือ 1. เราทำเป็นตัวอย่าง 2. เราทำพร้อมกับให้อีกคนมาเรียนรู้ 3. ปล่อยให้คนๆ นั้นลงมือทำ แล้วเราคอยให้คำแนะนำ 4. ปล่อยให้เขาทำด้วยตัวเอง 5. ให้คนๆ นั้นลงมือทำ พร้อมกับมีอีกคนมาเรียนรู้ต่อไป

สำหรับทัศนคติ แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่มีผลโดยตรงต่อศักยภาพระดับบุคคล คนที่ประสบความสำเร็จมักจะเป็นคนที่มีทัศนคติที่ดีต่อปัญหาหรือความยากลำบาก ทำให้สามารถรับมือกับอุปสรรคในการทำงานได้ด้วยความคิดที่แตกต่าง คนที่มีทัศนคติที่ดีจึงเป็นที่ต้องการขององค์กร นอกจากนั้นคนประเภทนี้จะไม่ใช่คนที่กลัวหรือไม่ยอมรับความล้มเหลว แต่เลือกที่จะเรียนรู้และแก้ไข เพื่อที่จะไม่ผิดพลาดซ้ำอีก

ประการสุดท้าย ความเป็นผู้นำ แม็กซ์เวลล์เชื่อว่า “ความสำเร็จส่วนบุคคลโดยปราศจากความสามารถในการเป็นผู้นำเท่ากับมีขีดจำกัดทางศักยภาพ เพราะไม่ว่าสิ่งใดที่เราต้องการบรรลุความสำเร็จ มักถูกกำหนดโดยความสามารถของเราในการนำคนอื่น” ทั้งนี้ความเป็นผู้นำเกิดจากการพัฒนาและสั่งสม เป็นกระบวนการที่ไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียว และเกี่ยวข้องกับหลายสิ่ง ทั้งความนับถือ ประสบการณ์ ความเข้มแข็ง ทักษะเกี่ยวกับคน ความมีวินัย วิสัยทัศน์ รวมไปถึงจังหวะเวลา
และ “ผู้นำ” ในสายตาของแมกซ์แวลล์ ถูกแบ่งเป็น 5 ระดับ ดังนี้

1. Position Level – เป็นระดับของผู้นำที่มีคนตามด้วยเพราะ “ตำแหน่ง” ที่เขามี
2. Permission Level – ผู้นำที่คนอยากตามเพราะ “สัมพันธภาพ” ทีมจะมีความยอมรับและทุ่มเทมากขึ้น3. Production Level – ผู้นำที่เกิดจากความสำเร็จของ “ผลงาน” ที่เป็นยอมรับ มีประสิทธิภาพสูง
4. People Development Level – ผู้นำที่มีคนตามด้วย “ความจงรักภักดี” เพราะเขาอุทิศตนเพื่อคนอื่น
5. Personal Level – ระดับสูงสุดของผู้นำที่ทุกคนต่างให้การยอมรับนับถือและเคารพยกย่อง เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าระดับบุคคล

นิยามความสำเร็จของแม็กซ์เวลล์

1. การมีจุดมุ่งหมายในชีวิต เป็นการค้นพบตนเองว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร และตั้งความพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายนั้นให้ได้
2. การพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อที่จะพัฒนาขีดความสามารถไปสู่ศักยภาพสูงสุด ต้อง repair หรือแก้ไขความผิดพลาดในอดีต และ prepare คือเตรียมพร้อมเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่
3. การแบ่งปันให้คนรอบข้าง เพราะแรงจูงใจสำคัญของการเป็นผู้นำ ก็คือได้ช่วยเหลือคนอื่นๆ และเพิ่มคุณค่าให้กับผู้คนรอบตัว