โซฟี มาเป็นคู่

ด้วยความคิดที่ว่า ตลาดแผ่นอนามัยในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยมีผู้ใช้แค่ 40% ของผู้หญิงทั่วประเทศ แถมกว่าครึ่งยังใช้แค่วันละแผ่น ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่นและไต้หวัน ที่มีอัตราการใช้โดยเฉลี่ยสูงถึง 3 แผ่นต่อคนต่อวัน

ยูนิ-ชาร์ม จึงส่ง “โซฟี ดับเบิ้ลเฟรช” หรือแผ่นอนามัยสองชั้นออกมาวางตลาด หวังเพิ่มความถี่ในการเปลี่ยนใช้แผ่นใหม่ ด้วยแพ็กเกจใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขาย จากกลยุทธการขายเป็นคู่

มร.ทาดาชิ นาคาอิ กรรมการผู้จัดการ ยูนิ-ชาร์ม (ประเทศไทย) บอกด้วยความมั่นใจว่า แผนการตลาดในครั้งนี้ จะทำให้โซฟีล้มแชมป์อย่างแคร์ฟรีได้ภายหนึ่งปีข้างหน้า ด้วยเป้ามาร์เก็ตแชร์ 44% จากที่มีอยู่ 30% ของมูลค่าตลาดรวม 442 ล้านบาท

แม้จะสร้าง awareness ต่อผลิตภัณฑ์ว่า เป็นนวัตกรรมใหม่เซอร์ไพรส์วงการ และเปิดตัวเมืองไทยเป็นที่แรกในเอเชียแปซิฟิก แต่เอาเข้าจริงแล้วมันเป็นกลยุทธ์ “ง่ายๆ” กระตุ้นการใช้งานแบบง่าย ซึ่งสินค้าอย่าง โอวัลตินก็เคยใช้มาแล้วก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านี้ “โอวัลติน” ก็ใช้กลยุทธ์การตลาดในลักษณะเดียวกัน ด้วยการนำ “น้องพลับ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ พร้อมกับประโยคไฮไลต์ที่ว่า “ของพลับขอสอง” เชิญชวนให้ดื่ม “ทุกเช้า…ก่อนนอน” ตั้งใจสื่อกันตรงๆ ให้ดื่มเพิ่มอีกแก้ว จากมื้อเช้าอย่างเดียว เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ดื่มมากขึ้น ผลที่ตามมาก็คือ ยอดขายเพิ่มขึ้น แบบไม่ต้องลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ขายได้มากขึ้น

ทริกเดียวกันนี้ โซฟีที่อาศัยวิธีจับแผ่นอนามัยซ้อน 2 ชั้น ให้ลูกค้าเปลี่ยนใหม่ได้สะดวกเพียงแค่ลอกแผ่นบนออก จึงไม่ใช่การอินโนเวทโปรดักส์ใหม่อย่างที่โฆษณา แต่ตั้งใจดันยอดขายด้วยการสร้างพฤติกรรมผู้บริโภคใหม่ให้ใช้เพิ่มอีกเท่าตัวนั่นเอง

Sofy Double Fresh

Company: บริษัทยูนิ-ชาร์ม (ประเทศไทย) จำกัด
Product Detail: เป็นการซ้อนแผ่นอนามัย 2 แผ่นเข้าด้วยกัน แบ่งออกเป็น 3 แบบ ได้แก่ แบบมีกลิ่นหอม และ
& Price Range: ไม่มีน้ำหอม ในบรรจุภัณฑ์ขนาด 26 ชิ้น และ 52 ชิ้น ราคา 32 บาท และ 55 บาท ส่วนแบบมีคาเตชินจากใบชาเขียว ประกอบด้วยบรรจุภัณฑ์ขนาด 10 ชิ้น, 24 ชิ้น และ 48 ชิ้น ราคา 12 บาท, 32 บาท และ 55 บาท
Target: กลุ่มผู้หญิงทำงานและนักศึกษา
Strategy:
-ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโฆษณาทางทีวี
-จัดแคมเปญ “โซฟี ดับเบิ้ลเฟรช ท้าให้คุณทึ่ง” ตามย่านการค้า ออฟฟิศ และสถาบันการศึกษา
-แจกสินค้าตัวอย่างจำนวน 1 ล้านชิ้น
-จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ณ จุดขาย
โดยตั้งงบการตลาดทั้งหมดไว้ที่ 10% จากยอดขาย

ส่วนแบ่งตลาดแผ่นอนามัย จากมูลค่า 442 ล้านบาท

โซฟี 30%
แคร์ฟรีและแบรนด์อื่นๆ 70%