Autumn in my heart…My sassy girl, Wild Stuck ยัยตัวร้ายกับนายจุ้น ล่าสุดเพิ่งลาโรงหนังไปเมื่อเร็วๆ นี้ กับ April Snow ตัวอย่างหนังเกาหลีร่วมสมัยที่ผ่านสายตา และสร้างความประทับใจแก่คนดูเมืองไทย ในกลุ่มหนังเอเชี่ยนด้วยกันแล้ว หนังเกาหลีเวลานี้จัดดาวรุ่งที่กำลังเตรียมพุ่งแซงหนังรุ่นพี่ ยุ่นที่เคยครองตลอดมานาน
แรงส่งสำคัญ ส่วนหนึ่งมาจากกระแสเกาหลีที่ถูกปูในเมืองไทยมานาน จนมาถึงจุด peak เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่ายจัดจำหน่ายนำเข้าลิขสิทธิ์หนังจากต่างประเทศ โรส วีดีโอ – เจ-บิ๊คส์ ฟิล์ม ต่างพร้อมใจกันขานรับกระแสนำหนังเกาหลีอิมพอร์ตตรงมาเจาะตลาดเมืองไทยอย่างจริงจังในปีนี้
“จิรัฐ บวรวัฒนะ” รองประธานกรรมการ ค่ายดับบลิว พีเอ็ม ฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนลในเครือโรส วีดีโอ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายหนังไทยและเทศ ซึ่งได้คลุกคลีซื้อลิขสิทธิ์หนังเกาหลี “Shiri” แนวแอ็กชั่น มาฉายครั้งแรกราว 4 ปีก่อนได้รับการตอบรับจากคนดูพอประมาณไม่โดดเด่นมากนัก อาจเป็นเพราะช่วงเวลานั้นกระแสหนังเกาหลียังไม่มา และเป็นเพียงหนังเสริมกลุ่มหนังเอเชี่ยน
หนังเกาหลีที่เครือโรสนำมาเข้า มีทั้งที่ออกฉายตามโรงภาพยนตร์ก่อน และซื้อลิขสิทธิ์ไว้สำหรับทำแผ่นวีซีดี โดยภาพยนตร์ที่ฉายตามโรงภาพยนตร์มักเป็นแนวแอ็กชั่น ฟอร์มใหม่ แต่สำหรับลงแผ่นมักเป็นแนวหลากหลายทั้งชีวิต แอ็กชั่น และตลกขบขัน ซึ่งปีที่ผ่านมารวมจำนวนหนังเกาหลีทั้งฉายตามโรงภาพยนตร์และลงแผ่นวีซีดีรวม 15 เรื่อง ซึ่งเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
จิรัฐให้มุมมองถึงหนังเกาหลีในเมืองไทยที่ผ่านมา ไม่ค่อยประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้อย มีเพียงไม่กี่เรื่องที่สามารถทำเงินได้สูง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะขาดความต่อเนื่อง อีกทั้งปริมาณหนังฮอลลีวู้ด และหนังไทยแข่งขันสูงจนไม่ค่อยมีช่องให้หนังเกาหลีแทรกตัวได้มากนัก
“หนังกลุ่มเอเชี่ยน โดยเฉพาะหนังจีนฮ่องกงเองที่เคยนิยมก็ตกต่ำลง ขณะที่หนังเกาหลีเองได้ทยอยออกซื้อขายผ่านงานเทศกาลหนังใหญ่ระดับโลกอย่างแพร่หลายทั้งในเอเชียและยุโรปมากขึ้น รวมทั้งไทย ซึ่งในช่วงนั้นยังไม่แรงมากนัก”
ซีรี่ส์ฟีเวอร์อานิสงส์ หนังใหญ่
แต่ล่าสุด 2-3 ปี กระแสเกาหลีได้รับการยอมรับมากขึ้น ส่วนสำคัญมาจากบรรดาสถานีโทรทัศน์ไทยได้นำซีรี่ส์ละครทางทีวีอย่างต่อเนื่อง และมีเรื่องที่โดนใจคนดู ส่งผลให้หนังเกาหลีได้รับอานิสงส์เช่นกัน แต่ก็ยังไม่กว้างขวางนัก
จนปลายปีที่ผ่านมา ถึงตอนนี้เห็นได้ชัดเจนกับปรากฏการณ์รับกระแส “แดจังกึมฟีเวอร์” ปริมาณหนังเกาหลีจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะผู้นำเข้าหนังเริ่มสนใจเช่นเดียวกับ ค่าย “โรสวีดีโอ” ได้ซื้อลิขสิทธิ์หนังฟอร์มใหญ่เกาหลี 3 เรื่องเข้ามาบุกตลาดโรงภาพยนตร์เต็มตัว
“กระแส Asian Popในช่วง 2-3 ปีมาแรงเรื่อยๆ โดยเฉพาะเกาหลีสินค้าอย่างโค้กก็ใช้ศิลปินเกาหลีเป็นพรีเซ็นเตอร์, เรน นักร้องชื่อดังก็มาเล่นซีรี่ส์ทีวี ฟูลเฮาส์ ที่ช่อง 7 เอามาฉายจนฮิตเต็มบ้านเต็มเมือง ล่าสุดที่ทำให้ซีรี่ส์เกาหลี peak สุดคือ แดจังกึม ด้านเกมออนไลน์ แร็กน่าร็อค , ปังย่า สำนักพิมพ์พ็อกเกตบุ๊กแจ่มใสยังทำซีรี่ส์เอเชี่ยนซีรี่ส์ เหล่านี้ ล้วนเป็นกระแสเกาหลีที่ล้วนส่งผลต่อหนังเกาหลีด้วยเช่นกัน”
เพื่อรับกระแสเกาหลีฟีเวอร์ โรส วีดีโอในนาม ดับบลิว พี เอ็ม ฟิล์มฯได้เตรียมเอาหนังเกาหลี 3 เรื่อง ได้แก่ Duelist นำแสดง โดยคัง ดอง วอน, Daisy นำโดยจวน จี ฮุน นางเอกชื่อดังจากเรื่อง Wild Stuck และ Typhoon นำแสดงโดยแจง ดองกัน ซึ่งทั้ง 3 เรื่อง จะเน้นการทำตลาดอย่างเต็มที่และคาดว่าจะทำเงินรายได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
“เป็นครั้งแรกที่เชิญสื่อมวลชนไปทัวร์เกาหลี เพราะเราอยากให้มีประสบการณ์โดยตรง สัมผัสวัฒนธรรมเกาหลี ที่สำคัญที่มีโอกาสพบปะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหนังเกาหลี” นอกจากนี้ ยังได้เตรียมจัดอีเวนต์โปรโมตหนังเกาหลี โดยใช้ชื่อ “Korea Big Bonus” ร่วมกับโรงภาพยนตร์เอสเอฟ จัดเป็นแคมเปญปลุกกระแสคนดูหนังเกาหลีมีจูงใจ ชิงตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เกาหลี จำนวน 50 ที่นั่ง พร้อมบัตรรับประทานอาหารที่ร้านอาหารเกาหลีจำนวน 300 ใบ
เจ-บิ๊คส์ ส่งหนังบิ๊กชนโรง
ทางด้าน เจ-บิ๊คส์ ฟิล์ม ค่ายจำหน่ายหนังแผ่นวีซีดี และดีวีดี ที่หันมาซื้อลิขสิทธิ์หนังจากต่างประเทศโดยตรง ก็เล็งเห็นโอกาสทองจากกระแสเกาหลีเช่นกัน “นพชัย ศรีสุวนันท์” ประธานบริษัทบอสใหญ่ บอกว่า มันเป็นช่วงที่ผู้บริโภคมีดีมานด์ ดังนั้นหนังเกาหลีจึงน่าจะเป็นที่ต้องการเช่นกัน เนื่องจากหนังมีคุณภาพดีขึ้น การลงทุนที่พร้อม ซึ่งในปีเจ-บิ๊คส์ ได้เตรียมซื้อลิขสิทธิ์หนังเกาหลีทำเงินหลายเรื่องเข้ามาฉาย ที่โดดเด่นทำเงินสูงสุด 2,000 ล้าน และกว่า 1,400 ล้านบาท ตามลำดับ ในเกาหลี เรื่องแรก Welcome to Dongmakgol และเรื่อง Marrying the Mafia 2
“เมื่อก่อนหนังเกาหลีมีไม่มาก แต่หลังจากนี้หนังเกาหลีจะเห็นมากขึ้น เราได้ซื้อลิขสิทธิ์นำเข้ามาฉายประจำทุกเดือนต่อเนื่องด้วยเสียง original soundtrack และมี subtitle เพื่อเอาใจคนแฟนหนังเกาหลีที่คาดว่ามีจำนวนไม่น้อยทั้งคนไทย วัยทำงาน วัยรุ่น และคนเกาหลีที่อยู่ในเมืองไทย โดยเจ-บิ๊คส์ได้ร่วมมือกับค่ายเมเจอร์ซีเนพิคเจอร์ส และมีโรงภาพยนตร์ที่จะฉายเฉพาะหนังกลุ่มนี้”
นพชัย บอกว่า ขั้นตอนคัดเลือกหนังเกาหลีนั้นก็เหมือนกับหนังทั่วไป คือดูแนวที่คาดว่าคนดูสนใจ ซึ่งที่ผ่านมาหนังเกาหลีแนวแอ็กชั่น ดราม่ามักเป็นที่นิยม จากนั้นต้องดูค่ายจัดจำหน่ายใหญ่หรือไม่ เพราะหมายถึงความพร้อมเงินลงทุนในการผลิตหนัง ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่จะบอกถึง production จะออกมาสมจริง ตามด้วยดาราแสดง สำหรับเมืองไทยต้องมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักระดับหนึ่ง มีผลงานผ่านตามาบ้างหรือไม่ก็ต้องบุคลิกหน้าตาดี
สำหรับราคาหนังเกาหลีนั้น หากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ถือว่าค่อนข้างถูก ราคาเฉลี่ย 1 ล้านบาท สูงสุดอยู่ประมาณ 4-5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับฟอร์มหนังและการเจรจา ส่วนหนึ่งที่ให้ราคาหนังไม่สูงนัก เนื่องจากหนังเกาหลีที่ออกมาฉายในต่างประเทศมักทำเงินคุ้มทุนตั้งแต่ยังฉายในเกาหลี อีกทั้งรัฐบาลได้สนับสนุนหนังในประเทศ คนดูก็นิยมดูหนังเกาหลีมากกว่าหนังจากต่างประเทศ
“ทำให้ผู้ซื้อไทยได้รับผลพลอยได้ ซื้อหนังไม่แพง แต่ได้หนังคุณภาพ ดังนั้นหนังเกาหลีจึงมีโอกาสบูมมากขึ้นในไทย” นพชัยกล่าวในตอนท้าย
Did you know?
เจ-บิ๊คส์ ฟิล์ม เป็นบริษัทน้องใหม่ในเครือ เจ-บิ๊คส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ศูนย์ขายส่งและค้าปลีกแผ่นวีซีดีและดีวีดีรายใหญ่ย่านคลองถม จัดตั้งขึ้นราวปี 2547 จากนั้นได้ขยายกิจการจากผู้จำหน่ายมาเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ลิขสิทธิ์จากค่ายสหมงคลฟิล์ม และมงคลเมเจอร์ ต่อเนื่องมาจนถึงปีที่ผ่านมา ก่อนล่าสุดปี 2548 ได้รับสิทธิ์จากค่าย เมเจอร์ซีเนพิคเจอร์ และค่ายบ๊อกซ์ ออฟฟิศ