หนังยิ่งดัง ท่องเที่ยวยิ่งบูม!

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี หรือที่รู้จักกันในนาม “อสท. เกาหลี” เป็นหน่วยงานหนึ่งภายใต้สังกัดของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในการส่งเสริมและสนับสนุนกระแส “K-pop” หรือ “Korean Wave” ที่กำลังแพร่สะพัดไปทั่วโลกให้ไปได้ไกลขึ้น ทวีความแรงขึ้น และรักษากระแสนี้ให้คงอยู่นานที่สุด

อสท. เกาหลีในเมืองไทยตั้งมากว่า 20 ปี นอกจากบทบาทในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีในเมืองไทย หน่วยงานนี้ยังมีหน้าที่สร้างความเข้าใจและโปรโมตวัฒนธรรมเกาหลีสู่คนไทย เช่น การจัดงานวันนัดดวลกิมจิ-ส้มตำ จัดมาร่วม 10 ปี ให้คนไทยมาแข่งทำกิมจิโดยกรรมการเกาหลี และให้ชาวเกาหลีตำส้มตำให้คนไทยตัดสิน “ปีนี้เรากะจะจัดร่วมกับช่อง 3 ใช้ธีม “แดจังกึมปะทะราชินีหมอลำ” แต่เผอิญละครไทยจบไปก่อน” พันธุ์เมธ ณ ระนอง ในฐานะผู้จัดการของ อสท.เกาหลี บ่นเสียดาย

อสท. ยังมีส่วนส่งเสริมคนไทยให้หันมาเรียนภาษาเกาหลีมากขึ้นด้วยวิธีต่างๆ เช่น การประกวดร้องเพลงเกาหลี หรือการประกวดพูดภาษาเกาหลี เป็นต้น รวมถึงการโปรโมตวัฒนธรรมและภาษาผ่านนิทรรศการหนังเกาหลี ซึ่ง อสท. เคยจัดมาเมื่อ 10 ปีก่อน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ “ตอนนั้นไม่ค่อยมีคนดูก็เลยเลิกจัด กลับมาจัดอีกทีเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งกระแสหนังเกาหลีบูมขึ้นมาจึงเริ่มมาจัดร่วมกับเมเจอร์และอีจีวี”

นอกจากนี้ อสท. เกาหลียังต้องรับเอาแคมเปญที่ต่างๆ จาก head office ที่เกาหลีมาดำเนินงานในประเทศไทย ซึ่ง Big Project ล่าสุดซึ่งดำเนินการมาแล้วกว่า 6 ปี นั่นคือ การโปรโมตกระแส “Hallyu” หรือ K-pop ที่เป็นคลื่นลูกใหม่ของอุตสาหกรรมบันเทิงในเกาหลี เช่น การสร้างกระแสหนัง The Classic เมื่อ 2 ปีก่อนโดยการจัดให้แฟนละครเกาหลีชาวไทยได้มาพบปะพูดคุยกับ ซอง เย-จิน นางเอกของหนัง หรือการแจก CD พิเศษที่กระทรวงวัฒนธรรมฯ ทำขึ้นมาเพื่อโปรโมตนักร้องหน้าใหม่ให้ดังทั่วโลก เป็นต้น

ล่าสุด การมีส่วนร่วมสนับสนุนของรางวัลที่ระลึกจากประเทศเกาหลีในละครแดจังกึม หรือการแจกหนังสือชื่อ The Wonderful World of Korean Food เหล่านี้ล้วนแต่เป็นโอกาสที่พันธุ์เมธไม่อาจพลาดที่จะฉวยกระแสความแรง ในการโปรโมตวัฒนธรรมเกาหลีให้ยิ่งกว้างขวางและเป็นที่เข้าใจกันมากขึ้น “ความแรงของแดจังกึมทำให้หนังสือเล่มนี้ซึ่งไม่ค่อยมีคนขอ หมดในเวลารวดเร็ว จนเราต้องขอทางเกาหลีมาใหม่ พอเราประกาศผ่านช่อง 3 ว่าหนังสือมาแล้ว ก็มีคนมารอเป็นร้อยหน้าออฟฟิศ”

ทั้งนี้ พันธุ์เมธให้ความเห็นถึงสาเหตุที่ทำให้ละครแดจังกึมดังว่า “ช่วงแรกอาจเป็นการตลาดที่ช่อง 3 ทำมาดีมาก แต่เรตติ้งจะดีตลอดมันต้องมาจากบท จุดแข็งของหนังและละครเกาหลีก็คือบท เคยได้ยินว่า ละครเกาหลีบางเรื่อง เวลาจะเขียนบทต้องระดมมันสมองจากหลายฝ่ายหลายคน ทั้งนักจิตวิทยา ฝ่ายการตลาด ฝ่ายศิลปวัฒนธรรม ฝ่ายบท และต้องมีการทำวิจัยค้นคว้าอย่างดี ฯลฯ ไม่ใช่อยู่ดีๆ นั่งเขียนคนเดียว และบทก็ไม่ค่อยก๊อบตามกัน”

สำหรับหน้าที่ใหม่ที่มากับกระแสเกาหลีที่แรงมากๆ ก็คือ การดูแลความถูกต้องของข้อมูลในนิยายแต่งที่เกี่ยวกับเกาหลี “บอกว่าเป็นนิยายเกาหลี แต่เป็นคนไทยเขียนเอง และเป็นคนที่ไม่เคยไปเกาหลีด้วย ข้อมูลเลยไม่สมจริง อย่างเขียนว่านางเอกใส่สายเดี่ยวรอพระเอกบนถนนในเดือน พ.ย. มันเป็นไปไม่ได้เพราะหนาวมาก …เป็นเพราะเขาไม่รู้วิถี เราก็ต้องเตือนให้ไปศึกษาข้อมูล เพราะข้อมูลผิดๆ มันก็กระทบกระเทือนกับหลายอย่าง”

กระแสเกาหลีฟีเวอร์ที่มากขึ้นทุกวัน อสท. เกาหลีในประเทศไทยจึงใช้โอกาสนี้โปรโมตการท่องเที่ยวเกาหลี ด้วยการพัฒนาเว็บไซต์ขององค์กรเป็นแหล่งแนะนำสถานท่องเที่ยวตามฤดูกาลนั้นๆ หรือที่กำลังอยู่ในกระแสอันสืบเนื่องมาจากหนังละครเกาหลี พร้อมกับเปิดพื้นที่เว็บบอร์ดให้เหล่าสาวก “เกาหลีฟีเวอร์” มาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องท่องเที่ยวและวัฒนธรรมเกาหลี

“เราอาจจะมีนัดเจอแฟนพันธุ์แท้หรือชาวเว็บบอร์ดของเรามาเจอกัน เป็นการสานความสัมพันธ์และความรู้สึกที่ดีต่อองค์กรและภาพลักษณ์ประเทศเกาหลีได้ด้วย”

นอกจากนี้ อสท. เกาหลียังมีหน้าที่สำคัญในการสนับสนุนและสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับ Tour Agent ซึ่งเป็นหนึ่งกลไกในการผลักดันยอดนักท่องเที่ยวให้โตขึ้น และยังช่วยสานฝันนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรมฯ ของประเทศเกาหลีให้เป็นจริง เช่น แคมเปญโปรโมต Drama Tour หรือตามรอยหนังและละครเกาหลีในปัจจุบัน ทั้งนี้ก็เพื่อยิ่งทำให้คนดู “อิน” และซาบซึ้งกับการสร้างหนังและละครของเกาหลีมากขึ้น

…นี่เป็นเพียงบางส่วนของบทบาท อสท. เกาหลี ในประเทศไทย ผู้ซึ่งมีหน้าที่ผลักดันให้คลื่น “เกาหลี ฟีเวอร์” และ “K-pop” ซัดสาดอยู่ในกระแสความสนใจของคนไทยให้แรงที่สุด และนานที่สุด

Website

เว็บไซต์ อสท. เกาหลีในประเทศไทย www.kto.or.th
เว็บไซต์ Korea National Tourism Organization หรือ อสท. เกาหลี www.tour2korea.com