Snake Brand หรือแป้งเย็นตรางู ที่อยู่คู่ตลาดเมืองไทยมานานค่อนกึ่งศตวรรษตัวนี้ ตัดสินใจปรับ positioning ครั้งใหม่ มีโจทย์ใหญ่ 3 ข้อ คือ ทำอย่างไรให้แป้งเย็นที่เป็นแค่สินค้าตามฤดูกาล seasonal product ใช้เฉพาะหน้าร้อน มาเป็นสินค้าที่ไร้ฤดูกาลต้องใช้เป็นประจำทุกวัน จัดว่าไม่ง่ายนักสำหรับภารกิจพลิกความถี่ของลูกค้าชนิดที่นักการตลาดคู่แข่งต้องหันมามอง
ลูกค้าเป้าหมายของแป้งตรางูในครั้งนี้ ต้องเป็นกลุ่มลูกค้าวัยทีน ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่ามี brand loyalty หรือความภักดีต่อสินค้าน้อย แต่จะเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญในอนาคต
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาแป้งตรางูตกอยู่สถานการณ์ตลาดเชิงรับมานาน แต่หากนิ่งเฉยคงแค่เป็นเบอร์รองครอง follower ตลอดกาล ภารกิจบุกตลาด (แบบระมัดระวัง) เริ่มขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน
สิ่งแรกที่แป้งตรางูลงมือทำคือ การแก้ภาพลักษณ์แบรนด์ที่มีรูปลักษณ์เชยๆ กระป๋องเหล็ก และเนื้อแป้งที่ไม่หอมโดนใจขาโจ๋นัก สู่ภาพลักษณ์ใหม่ แบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ ใช้แล้วเย็นกายสบายใจ ที่มีคุณภาพคับกระป๋อง
บอกแค่ messages ตรงๆ อาจไม่ทำให้วัยทีนรุ่นใหม่ยอมรับอย่างหมดใจนัก เลยต้องงัดกลยุทธ์เอาดีไซน์ใหม่เข้าสู้อีกครั้ง หลังจากค้นพบดีมานด์คนซื้อแป้งมักซื้อเพราะความหอม และภาพลักษณ์เป็นตัวดันให้ควักตังค์ซื้อ งานนี้จึงเห็นการสร้างสีสันแบรนด์และเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยคงกระป๋องเหล็กที่มีดีไซน์เท่ๆ ทันสมัยที่จ้างนักออกแบบชื่อดัง ม.ล.อภิชิต วุฒิชัย มาลงมือตอบโจทย์เอง (อ่านต่อ power of design)
ที่ขาดไม่ได้ แคมเปญโรดโชว์ ที่ใช้ Mobile Unit Advertising รถโฆษณาเคลื่อนที่ พริตตี้สาวสวย พร้อมแนะนำสินค้าชุดคอลเลกชั่นพิเศษ Extream Cool Collection ตระเวนสร้างประสบการณ์โดยตรงต่อลูกค้าเป้าหมายที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ทำเลที่ทำโรดโชว์นี้ เน้นไปยังแหล่งช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์พอยท์ จตุจักร ถนข้าวสาร สวนลุมไนท์บาซาร์ และมหาวิทยาลัยชั้นนำ ธรรมศาสตร์ เอแบค ศิลปากร ที่ถือเป็นไฮไลต์ไม่เหมือนใครคือ เคาะประตูเข้าไปเยือนครอบครัวดารา เพื่อมอบสินค้าแบบเข้าถึงเนื้อตัวลูกค้าทีเดียว
ลงมือบุกตลาดแบบถึงลูกถึงคนขนาดตรางู แป้งเย็นคงเย็นกาย สบายใจไปอีกระยะหนึ่งแน่!!
ตลาดรวมแป้งมูลค่าราว 3,600 ล้านบาท ปี 2548
เซ็นเมนต์ตลาดแป้งแบ่งเป็น
แป้งเด็ก 51 เปอร์เซ็นต์
แป้งเย็น 35 เปอร์เซ็นต์
แป้งหอม 13 เปอร์เซ็นต์
แป้งน้ำ 1 เปอร์เซ็นต์
ส่วนแบ่งตลาดแป้งเย็นปี 2548
โพรเท็กซ์ 26 เปอร์เซ็นต์
ตรางู 22 เปอร์เซ็นต์
ทเวลพลัส 18เปอร์เซ็นต์
ชาวเวอร์ 11 เปอร์เซ็นต์
อื่นๆ 8 เปอร์เซ็นต์
