แค่เขียนประวัติการทำงานของ ”จั๊ก” หรือ “สุภณวิชญ์ สมสมาน” ก็แทบจะหมดพื้นที่ที่เขียนเรื่องราวของเขาแล้ว เพราะประสบการณ์เยอะมาก ซึ่งแน่นอนด้วยตำแหน่งหน้าที่ Supervisor-Sequence/Lighting/Composite บริษัท Rhythm & Hues Studios จำกัด สหรัฐอเมริกา ย่อมไม่ใช่ประสบการณ์ธรรมดา
บริษัท Rhythm & Hues Studios จำกัด เป็นหนึ่งใน 4 บริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานกว่า 500 คน รับทำคอมพิวเตอร์กราฟิก และแอนิเมชั่นให้กับหนังฮอลลีวู้ดที่ผ่านสายตาผู้ชมทั่วโลก นอกเหนือจากมีบริษัท Industrial Light & Magic ของจอร์จ ลูคัส, Digital Domain, Dreamworks และ Pixar Animation studios ที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันนี้
แต่ ”จั๊ก”อยู่กับที่นี่มานานถึง 15 ปี ด้วยผลตอบแทนที่เงินไม่อาจประเมินค่าได้ คือผลงานที่เขาภาคภูมิใจ และสิทธิในการพักร้อนปีละ 4 เดือน นั่นหมายถึงเขาทำงานปีละ 8 เดือน แม้จะมีที่อื่นเสนอผลตอบแทนในแง่ตัวเลขของเงินเดือนให้สูงกว่า แต่เขาก็ปฏิเสธ
การใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกาหลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนถึงขณะนี้นานถึง 18 ปี ทำให้เขาเป็นคนที่ใครๆ รู้จักในวงการ
“จบมาทำงานเป็น Freelance ช่างภาพพักหนึ่ง แล้วอยากไปเรียนฟิล์ม อยากทำหนัง ไปแล้วปรากฏว่าคอมพิวเตอร์กราฟิกเป็นสาขาใหม่ ก็เข้าไปเรียนตอนปี 1989 เข้าไปเรียนก็สนุกดี ได้ใช้ทั้งด้านถ่ายรูป ศิลปะ ปนเรื่องโปรแกรมมิ่งด้วย รวมกับศาสตร์ที่เราใช้มาก่อน”
แม้ว่าการไปเรียนในเทอมแรก ในระดับปริญญาโท ที่ School of Visual Arts นิวยอร์ก ตามเขาไม่ทัน แต่โชคดีที่มีอาจารย์ช่วยผลักดัน ซึ่งตั้งแต่กว่า 10 ปีที่แล้ว เขาก็ได้เห็นงาน CG หรือ Computer Graphic บ้างแล้ว
“เมื่อก่อนเห็นเฉพาะในงานโฆษณา ก็เข้าไปดูๆ ว่าทำอย่างไร ก็สนุก ก็ใช้คอมพิวเตอร์ทำ Fine Arts ตามสายที่เราเรียนมา และกลายพันธุ์มาเป็น Animation สมัยนั้นบางคนจบออกมาทำอย่างอื่นก็มี เป็นโปรแกรมมิ่งก็มี ซึ่งในยุคนั้นก็ยังไม่มีนิยามคำนี้ visual effect”
ความสามารถฉายแววตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ จากผลงานหนังสั้น ที่เป็น thesis บริษัท Rhythm & Hues Studios จำกัด ก็มาเรียกตัวเขาทำงานที่นี่เป็นที่แรก ในสายงานนี้ และก็ไม่เคยไปไหนเลย
“คนถามเยอะมากว่าทำไม ตอนเราเข้าไปเป็นพนักงานคนที่ 26 ผ่านไปประมาณ 15 ปี ตอนนี้มี 600 กว่าคน”
ช่วงแรกที่เขาทุ่มเทให้กับบริษัทนี้ เขาต้องทำทุกอย่างตั้งแต่เขียน Background Paint ต่อมาก็ทำ Lighting แล้วก็เริ่มทำ Animation ทำทุกอย่างอยู่ 4-5 ปี จนเริ่มทำงานชิ้นแรกที่เป็นงานเฉพาะทาง คือ เรื่อง Babe1 ก็เริ่มเจาะ ทำ Lighting อย่างเดียว แทนที่จะทำทุกอย่าง เริ่มจากตรงนั้นแล้วขึ้นมาเป็นหัวหน้า ช่วงปี 1993-1994
หากถามถึงงานที่ประทับใจ “จั๊ก” ตอบอย่างไม่ลังเล มีเรื่อง Garfield และ Scooby-Doo ที่โชว์ฝีมือการแปลงจากภาพวาดเป็นภาพ 3 มิติ
นอกเหนือจากนี้ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เขามีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ หากนักจำนวนเรื่องแล้ว เขาบอกว่าที่ขึ้นชื่อให้เครดิตเขาหลังหนังจบตอนนี้ก็มีกว่า 30 เรื่อง และที่ไม่ได้ขึ้นเครดิตให้ก็ 10 กว่าเรื่อง
ทุกวันนี้หากใครได้มีโอกาสตีตั๋วเข้าไปดูหนัง ก็คงไม่ต้องแปลกใจที่จะพบชื่อของ ”Juck Somsaman” ในเครดิตหลังหนังจบ
ความสำเร็จมีให้ชื่นชมในปัจจุบันของ ”จั๊ก” อาจแตกต่างจากคนอื่นๆ ที่เมื่อถามถึงอุปสรรคมักร่ายยาวเหยียด แต่สำหรับเขาบอกว่า “โชคดีอย่างหนึ่งคือเราเริ่มงานนี้ ตั้งแต่คนยังไม่เยอะ ฝ่าฟันเรื่องนี้ยังน้อย แต่ว่าสิ่งสำคัญของบริษัทที่อเมริกา คนทำงานจะทำงานแบบ specialize มาก เขาศึกษาอย่างลึกซึ้ง ทำให้ตัวเองโดดเข้าไป จึงไม่ได้หมายความว่าเราไปอยู่อเมริกา เราถึงรุ่ง ผมว่าไม่เกี่ยว มันขึ้นอยู่กับตัวบุคคล เราเข้าไป เราได้เรียนจากคนที่เก่ง เราก็ศึกษาลึกซึ้งลงไปมาก ซึ่งข้อดีของอเมริกา คือเป็นแนวหน้าเทคนิค การคิดค้นอะไรใหม่ๆ เกิดที่นั่น ทำให้กระตือรือร้นวิ่งตามตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนการที่จะทำให้คนยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด จึงอยู่ที่ตัวบุคคล ความสามารถมากกว่า”
ผลตอบแทนในวันนี้ นอกจากวันหยุดพักร้อนนานแล้ว จนไม่สามารถดึงเขาออกจากบริษัทนี้ได้แล้ว แม้จะมีโอกาสมาหาตลอดเวลาก็ตาม เงินเดือนที่รับอยู่วันนี้ก็สูงกว่าวันแรกที่ทำงาน 6 เท่า และมากกว่าหากทำงานที่เมืองไทยเป็น 10 เท่า
สำหรับเด็กไทยรุ่นใหม่หรือใครที่สนใจวงการนี้ “จั๊ก” ให้คนแนะนำว่า “จะเรียน จะศึกษาอะไรก็ให้เป็นอย่างๆ รู้ให้ลึกตรงนั้น ต้องหาก่อนว่าตัวเองชอบอะไร ก็แบ่งไป แล้วศึกษาให้ลึกซึ้ง”
Profile
Name : สุภณวิชญ์ สมสมาน
Age : 39 ปี
Education :
ปริญญาตรี ครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปริญญาโท School of Visual Arts นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
Career Hightkights :
Visual Effects-Filmoraphy :
2006 Superman Return
2005 Elektra
2004 Garfield
2003 The cat in the Hat, ELF, Daredevil
2002 Scooby-Doo
2001 Cats&Dogs
2000 Dracular 2000, Little Nicky, The 6th Day, Hollow Man, Battlefield Earth : A Saga of the Year 3000, Here on Earth
1999 Mystry Men, Entropy, The Out-of-Towners
1998 Soldier
1996 Kazaam, The Nutty Professor
1995 Ace Ventura : When Nature Calls, Babe, Waterworld, Batman Forever
1993 Hocus Pocus, Star trek: Deep Space Nine