Retro Story from SHOWBIZ DIRECTOR

เราไปคุยกับ “ธเนส สุขวัฒน์” นักดนตรีผู้คร่ำวอดในวงการดนตรีมาเป็นเวลานาน กับธุรกิจใหม่ “Mister ShowBiz” ที่ได้พาร์ทเนอร์ใหญ่อย่าง บริษัท RS promotion โดนมีบิ๊กบอสใหญ่“สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” หนุนหลัง

ธเนส ถือได้ว่าเป็น Music Director ให้กับงานคอนเสิร์ตและโชว์จำนวนมาก กับประสบการณ์ที่ผ่านมาในโลกดนตรีกว่าสิบปี ถือว่าเป็นคนดีมีฝีมือคนหนึ่งในวงการ เขาเปิดตัวธุรกิจ “Mister ShowBiz” เพื่อรุกตลาด “ไนท์มาร์เก็ต” ที่มองว่ามี 2-3 แสนนักเที่ยวราตรีในตลาด และยังไม่มีใครเข้ามาทำอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

หากยังไม่ทราบก่อนหน้านี้ซัก 3-4 ปี เขาจัดโชว์เพลงเก่าอย่าง Beatles Eagles Santana หรือ Carpenters ที่ว่ากันว่ามีคนแน่นจนไม่พอหอประชุมศูนย์วัฒนธรรม รวมถึงการกลับมาครั้งแรกของ “The Impossibles” ที่ถือว่าเป็นตัวจุดกระแสให้วงเก่าๆกับมารวมตัวกันอีกครั้ง ก็มาจากประกายความคิดของเขา

The Impossibles กลับมาเมื่อ 3 ปีที่แล้วกับคอนเสิร์ตที่ชื่อว่า Legend of The Impossibles ราวเดือนพฤษภาคม 2544 จากการจัดของ บริษัทบรอดคาสติ้ง เน็ทเวอร์ค ไทยแลนด์ กับคลื่น 94.5 FM ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

ถือว่าเป็นคอนเสิร์ตในการเอาวงดนตรีในระดับตำนาน ที่ห่างหายไปมาขึ้นเวทีคอนเสิร์ตครั้งแรก นับเป็นครั้งแรกที่เป็นการนำเอาวงนักร้องชื่อดังในอดีตกลับมาสร้างกระแสให้มีการคลั่งไคล้ หรือหวนรำลึกกันในคนรุ่นปัจจุบัน

หากไม่นับกิจกรรมของวงสุนทราภรณ์ หรือนักร้องอย่าง Elvis ที่มีอยู่ทุกปีอยู่แล้ว

“ตอนที่เราทำ ดิอิมพอสซิเบิ้ล เหมือนเราโยนหินถามทาง 15 รอบที่ขายได้เรื่อยๆไม่มีหยุด ปรากฏว่ามีคนตอบรับเยอะมาก จนเมื่อมีคนคิดทำแกรนเอ็กซ์ก็รู้ว่าควรขยายไปที่อิมแพ็ค”

ธเนสเห็นว่า กระแสของดิอิมพอสซิเบิ้ลทำให้เกิดกระแสการรวมตัวของวงนักร้องมีชื่อของยุคต่างๆกลับมาทำคอนเสิร์ตของตัวเองกันอีกครั้ง ปีถัดมา ราวเดือน มีนาคม 2545 แกรนด์เอ็กซ์ก็กลับมารวมตัวกันเฉพาะกิจภายใต้ชื่อ Grand Exhibition Concert กับสถานที่จัดคอนเสิร์ตที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศอย่างอิมแพ็คอารีน่าเมืองทองธานี ที่จุผู้ชมได้ราว 12,000 คน

กระแสเพลงเก่าบูมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ทำให้เกิดการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่เป็นแฟนของวงดนตรีเหล่านี้ยังอย่างจริงจัง รวมถึงการสร้างคอมมูนิตี้ มีเว็บไซต์ของวงเก่าๆเหล่านี้เกิดขึ้นมากมาย เรียกได้ว่าเป็นการ “หวนคืนของแฟนพันธุ์แท้”

สิ่งเหล่านี้เป็นอิทธิพล ให้เกิดการรวมตัวกันของวงต่างๆที่มีชื่อในอดีตมากมายอย่าง นูโว อินคา และเพิ่งผ่านพ้นมาอย่างไมโครและคาราบาว

หากนับเวลา 2 ปีให้หลังจากคอนเสิร์ตของดิอิมพอสซิเบิ้ล บรรยากาศที่สร้างให้เกิดกลิ่นหรือกระแสที่ตลบอบอวลกับหนังดังแห่งปี 46 เดือนตุลาคม “แฟนฉัน” ได้ฤกษ์ฉาย จากหนังที่เคยถูกมองข้าม แม้แต่กับผู้ผลิตเอง ก็ทำรายได้แบบถล่มถลายฉีกตำราทางการตลาดสำหรับหนังทิ้ง จากเดิมที่เมืองไทย หนังเด็กถูกมองเป็นหนังอันตราย ที่ไม่มีทางทำเงิน กับยอดรายได้แบบที่ไม่มีทางนึกถึง คือเกือบ 150 ล้านบาท

หลังจากกระแสบ้าหนังแฟนฉัน ที่กินเวลาไม่ถึง 6 เดือนเป็นอย่างมากกับกระแสโรง ผ่านไป ก็ถือเป็นการเริ่มต้นอย่างจริงจังของบรรยากาศ Retro ทั้งในแง่ไลฟ์สไตล์ และธุรกิจ

“มันมาพร้อมกันทั้งภาพและเสียง” เขาเห็นว่าพลังของหนังเป็นสื่อกลางที่ส่งผ่าน อารมณ์ ความรู้สึกร่วมที่ดูเป็นจริงเป็นจังได้มากที่สุด

ผลพวงจากปรากฏการณ์ “แฟนฉัน effect” ก็ทำให้ดาราเด็กที่นำแสดงมีผลงานต่อเนื่องเป็นที่นิยม รวมถึงการกลับมาใหม่ของวงศกร รัศมิทัต หรือที่รู้จักกันใน ชื่อ “ต้น-แมคอินทอช” ดาราที่อยู่ในเรื่อง ก็กลับเอามีเพลงฮิตของตัวเองมาร้องอีกครั้ง อย่าง “วันวานยังหวานอยู่” ที่มีชื่อสอดคล้องกับกระแส RETRO เข้าอย่างจัง

นี่ยังไม่นับ นักร้องในอดีตอีกหลายคน ที่ได้เกิด (ครั้ง) ใหม่ก็กับ ความแรงของกระแสนี้เช่นกันแต่ “กระแส” บางครั้งก็เป็นแค่แฟชั่น ที่ผ่านมาและผ่านไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งถ้ามีมากๆเข้าก็จะลดความสนใจลงอย่างรวดเร็ว

“ผมว่า RETRO จริงๆ มันก็เป็นแค่แฟชั่น มันมีเกิด ก็ต้องมีดับ” ธเนสกล่าว “ของทุกอย่างถ้ามันมีเกร่อมากมันก็มีลง”

ในขณะที่เขายังมีโปรเจ็กต์การกลับมาของแจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ กับ สุรสีห์ อิทธิกุล เพื่อให้ธุรกิจของเขาเอง มีที่เล่นอยู่บนกระแสนี้ ได้เช่นกัน

“สิ่งที่เราทำตรงนี้คือพยายามตรงนี้คือ Keep Going กับสิ่งนี้ต่อไปช่วงหนึ่ง” ธเนสกล่าว