Major Cash Card CRM เคลียร์ใจ

เมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์ หวังลบคำครหาผู้บริโภค สร้างปรากฏการณ์เคลียร์ใจด้วย Forward CRM ใหม่ “Major Cash Card” โดยโละบัตร M-Club หลังเปิดตัวมาได้ไม่นาน หวังกระตุ้นให้นักดูหนังเพิ่มความถี่ในการชมภาพยนตร์ให้มากขึ้นจากเดิม 1-2 เรื่อง/เดือน เป็น 2-4 เรื่อง/เดือน ด้วยงบโปรโมต 30 ล้านบาท คาดยอดขายบัตรปีแรกนี้ 300 ล้านบาท

“นี่คือ Service ไม่ใช่ Promotion” อนวัช องค์วาสิฏฐ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ Chief Cinema Business เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และอีจีวี พร่ำบอกกับผู้สื่อข่าว เขาถึงกับใช้คำว่า New Era of Service เลยทีเดียว

“Major Cash Card มาเพื่อแก้โจทย์ Service ไม่ใช่เรื่องของการจ่ายก่อนจ่ายหลัง แต่เราถือเป็นนวัตกรรมบริการบันเทิงที่ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็น Forward CRM โดยการเสนอบริการในรูปแบบที่เขาสามารถเลือกซื้อได้ตามรูปแบบที่เรานำเสนอและได้ value added โดยทันที ไม่ใช่การสะสมแต้มไปเรื่อยๆ แล้วค่อยแลก โดยที่เราไม่รู้ความต้องการของลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมา M-Club ก็เป็น Backward CRM”

ทั้งนี้รูปแบบของบัตรจะมีความหลากหลายเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคแต่ละคนให้มากที่สุด โดยเบื้องแรกจะแบ่งตามมูลค่าบัตร คือ 500 800 1,000 1,500 และ 2,000 บาท และมี Bundled Pack อาทิ บัตรฟรีสำหรับโยนโบว์ลิ่ง ป๊อปคอร์นฟรี เป๊ปซี่ฟรี เป็นต้น ยังเตรียมเสนอบริการแบบเฉพาะเจาะจง เช่น บัตรสำหรับกลางคืน กลางวัน สำหรับเด็ก ผู้ใหญ่ เป็นต้น

อนวัชบอกว่า ผลที่คาดว่าจะได้รับจากนวัตกรรมครั้งนี้ คือ Brand Loyalty จะสูงขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงไปโดยมีความถี่ในการชมภาพยนตร์มากขึ้น รวมถึงการซื้อตั๋วหนังที่มีช่องทางหลากหลาย ทั้งระบบ Interactive Voice Response Movie Line 0-2515-5555 หรือทางอินเทอร์เน็ตที่รองรับ Internet User ที่มีกว่า 10 ล้านคน www.majorcineplex.com โดยสามารถระบุที่นั่งได้ด้วยตัวเอง และตู้ Kiosk ทั้งนี้ความสะดวกจะทำให้ลดทราฟฟิกบริเวณ Box Office ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้สามารถเลือกซื้อบัตรได้ทั้งที่ Box Office ของเมเจอร์และอีจีวี รวมถึงจะขยายไปยังคอนวีเนียนสโตร์ และโรงเรียนต่อไป

ผลประการสำคัญที่จะตามมาคือ เรื่องปัญหาการใช้บัตรส่วนลดที่มีข้อแม้และข้อจำกัดมากมายจะหมดไป ขจัดข้อกังหาที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกไม่เคลียร์ใจกับแบรนด์ (เพราะรับรู้อยู่ก่อนแล้วว่านี่ไม่ใช่บัตรส่วนลด)

เป้าหมายที่ยั่งยืนในอนาคตคือ M-Cash Card จะเป็นรากฐานธุรกิจที่จะรองรับ Segmentation ของโรงหนังที่จะเห็นเป็นรูปธรรมในไม่ช้า วิชา พูลวรลักษณ์ ผู้เป็น Chairman เอ่ยปากว่า อยากทำโรงหนังที่ฉายหนังแต่ละประเภทโดยเฉพาะ เช่น European Film Theater ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์แบบ Segmentation ด้วย

ปัจจุบันเครือเมเจอร์มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 75% คาดหวังว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 80% แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้เป็นไปตามเป้าก็คือ M-Cash Card นั่นเอง