“ไม่หรอกค่ะ อยู่นอกวงโคจร”
“สิริน ตรีทอง” บุตรสาวคนเดียวของ ”บุญชู ตรีทอง” นักการเมืองรุ่นเก๋า สังกัดพรรคไทยรักไทย ตอบทันทีเมื่อถูกถามว่า ”สิริน ตรีทอง” ขึ้นแท่นว่าอยู่ในวงการไฮโซหรือเปล่า?
ก็จะไม่ให้คิดว่าเป็นไฮโซได้อย่างไร เพราะ ”สิริน” ในวัย 27 ปี เป็นผู้บริหารในบริษัทที่ครอบครัวก่อตั้งขึ้น พร้อมกับขยายกิจการเฟอร์นิเจอร์จากไม้สักทอง ด้วยการนำร่องผลงานการผลักดันเปิดโชว์รูมหรู “PLATO” ที่ห้างสรรพสินค้าพารากอน ศูนย์การค้าสุดอลังการใจกลางเมือง
ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อของ ”สิริน” ก็ถือว่ายังสดใหม่ เพราะเธอเพิ่งแถลงข่าวเปิดตัว PLATO เมื่อปลายปี 2549 และโดยปกติ ”สิริน” ก็ไม่ได้ไปโชว์ตัวออกงานตามสังคมเท่าไหร่นัก
แต่ตามหลักของการตลาดอย่างหนึ่ง ที่ว่ายิ่งทำให้คนรู้สึกอยากตามหามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งน่าสนใจมากเท่านั้น
กว่า ”สิริน” หรือ ”พลอย” จะมานั่งบริหารธุรกิจให้ครอบครัวเองนั้น เธอได้บ่มเพาะความสามารถจากการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝึกงานที่บริษัทซีเมนส์ ประเทศเยอรมนี ก่อนไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ด้านการบริหารจัดการวิศวกรรม ที่ USCA สหรัฐอเมริกา
“กลับจากอเมริกา ก็มาทำที่นี่เลย ตอนอยู่อเมริกา บางทีกลับมาก็เริ่มเข้ามาดูบ้างนิดหน่อย แต่ยังไม่เต็มตัว เพราะไม่อยากอ้อมไปไกล มาเริ่มทำเลยดีกว่า ตอนแรกก็คิดว่าเราไปเป็นลูกจ้างที่อื่นก่อนดีมั้ย ไปหาประสบการณ์ แต่ทีนี้ลองมาคิดว่า ถ้าพลอยเริ่มทำที่นี่ ก็ต้องเริ่มเรียนรู้งานเหมือนกัน เราไม่สามารถบริหารได้เลย ถ้าเราไม่รู้ว่าที่นี่ทำอะไรบ้างก็เลยคิดว่าให้เป็นประโยชน์กับครอบครัว ทั้งตัวเอง ก็มาเริ่มงานที่นี่เลยดีกว่า ตอนแรกก็ต้องยอมรับว่าต้องมีล้มลุกคลุกคลานไปบ้าง แต่ก็โอเค คิดว่าไม่เป็นไร”
ภาพของธุรกิจครอบครัว ”ตรีทอง” วันนี้ไม่ใช่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แต่ยังคงพื้นฐานเดิมคือการผลิตไม่แปรรูป สร้างสรรค์เป็นเฟอร์นิเจอร์ตามคำสั่งของตัวแทนจำหน่าย (OEM) ที่ทำจากไม้สักทองที่นำเข้าจากประเทศพม่า แต่สิ่งที่เพิ่มเติม คือ ”พลอย” ขยายการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง PLATO พร้อมกับรุกออกสู่ตลาดต่างประเทศ
“ช่วงแรกครอบครัวพลอยขายไม้แปรรูป ที่นี้ไม้ที่มีเราเห็นก็รู้สึกว่าอยากทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มมากกว่านี้ ไม้สักนับวันยิ่งน้อยลง ไม้ก็สวย มีคุณสมบัติที่ดีอะไรทุกอย่าง เราก็เลยคิดว่าเรามาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ตอนแรกก็ทำในลักษณะ OEM คือ ลูกค้าให้แบบมา เราก็ผลิตให้เขา เราเป็นผู้ผลิตอย่างเดียว ไม่มีดีไซน์ของตัวเอง จนพลอยกลับมาจากต่างประเทศ ประมาณ 2 ปีที่แล้ว”
ก่อนหน้านี้ กิจการถูกพักไปช่วงหนึ่ง เมื่อบุญชูลงเล่นการเมือง กลับมาอีกทีตลาดก็เปลี่ยน เพราะได้รับอิทธิพลจากจีน เวียดนาม จีนเปิดเสรีการค้า ซึ่งมีข้อได้เปรียบเรื่องค่าแรงเขาต่ำ เป็นจุดเปลี่ยนทำให้ พลอยและพ่อ ผันตัวเองจากการเป็นผู้ผลิตเพียงอย่างเดียว หันมามุ่งเรื่องการออกแบบ และสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง
ภาระหน้าที่ของ ”พลอย” เพื่อรับบริหารธุรกิจจึงดูเหมือนไม่ใช่การใส่พานให้เธอรับอย่างง่ายๆ แต่คือสิ่งที่ท้าทาย ซึ่งเธอพร้อมรับสภาพที่เกิดขึ้น
“ก็รู้ว่าต้องหนัก แต่ว่าก็ต้องทำ”
กว่าผลงานของเธอจึงใช้เวลากว่า 1 ปีทั้งการติดต่อประสานงานหาคนออกแบบ การสร้างเฟอร์นิเจอร์ต้นแบบ และการผลิต แนะนำลงสู่ตลาด จนเห็นเป็น PLATO ที่ยืนอยู่ในตลาดเฟอร์นิเจอร์
นอกเหนือจากทักษะการบริหารจัดการ และการออกแบบที่เธอค่อนข้างคุ้นเคย เพราะความชอบส่วนตัวในงานออกแบบ และความช่วยเหลือจากเพื่อนพ้อง เธอยังสามารถวางตำแหน่งทางการตลาดของ PLATO ไว้อย่างชัดเจนว่า มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นลูกค้าระดับไฮเอนด์ จุดนี้ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะทำอย่างไรให้สินค้าออกมาราคาถูก มุ่งให้ PLATO ได้รับดีไซน์ที่ดีที่สุด และผลิตจากวัตถุดิบที่ดีที่สุด เหมือนกับว่าเราเป็นลูกค้าเอง และเราหวังอะไรจากสินค้าตัวนั้นบ้าง
ยิ่งไปกว่านั้นเฟอร์นิเจอร์ของ PLATO นั้น ”พลอย”ภูมิใจนำเสนอให้เห็นความเป็นไม้สักทองอย่างแท้จริง ให้เห็นตาของไม้ และลายไม้ และรูปลักษณ์เป็นแบบ Contemporary ผสมผสาน ร่วมสมัย ต่างจากผลผลิตจากเอเชียส่วนใหญ่ที่เน้นให้เห็นถึงความเป็นตะวันออก ซึ่ง ”พลอย” มองว่าเริ่มอยู่ในจุดลูกค้าต่างชาติคุ้นเคยหมดแล้ว
การพยายามวางตลาดในจุดที่แตกต่าง ”พลอย” บอกว่านอกจากดูสไตล์การทำงานจากที่ได้ฝึกงานที่บริษัทซีเมนส์ ในสูตรของความจริงจังและมีระบบในการทำงานแล้ว เธอยังต้องศึกษาตลาดด้วยตัวเอง ทั้งการเดินดูตลาด ดูนิทรรศการเฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงเฝ้าบูธออกงานด้วยตัวเอง เพื่อพบปะ พูดคุยกับลูกค้า เพื่อให้ได้ข้อมูลความต้องการที่แท้จริงของตลาด
แม้เธอจะมีคุณสมบัติข้อหนึ่ง “เป็นลูกนักการเมือง” แต่เธอก็บอกว่าไม่ได้ทำให้ทำธุรกิจง่ายหรือยากขึ้นกว่าเดิม
“ความยากง่ายของธุรกิจอยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว นี่เป็นธุรกิจของครอบครัว พลอยไม่ได้สร้างเอง แต่เป็นการสานต่อ พลอยเป็นคนดูว่าถึงจุดไหนควรปรับเปลี่ยน ในลักษณะใด เพราะฉะนั้นเชื่อว่าสถานะทางสังคมของคุณพ่อ พลอยมองไม่ค่อยมีผลกระทบเท่าไหร่ เพราะงานที่ทำตรงนี้ไม่ได้เชื่อมโยงกับสถานะทางสังคมของคุณพ่อ ลูกค้าไม่รู้หรอกว่าเราเป็นใคร ยิ่งลูกค้าต่างประเทศแล้วเขาไม่สนใจ เขาสนใจโปรดักส์เราว่าเป็นยังไง สนใจกำลังการผลิตว่าได้ตามที่เขาต้องการ โรงงานมีคุณภาพจริงหรือไม่ และแม้ว่าคนไทยสนใจบ้าง แต่คือท้ายสุด เขาจะเลือกสินค้าเราหรือไม่ ก็เป็นความพอใจของเขา อาจมีลูกค้าบางคนเดินมาดูโชว์รูม เพราะอาจเห็นว่าร้านลงข่าว แต่สุดท้ายลูกค้าต้องตัดสินใจเอง”
สำหรับความเป็นทายาทนักการเมืองแล้ว “พลอย”บอกว่าให้ความสนใจการเมืองเท่าๆ กับคนทั่วไปเท่านั้น อ่านหนังสือพิมพ์ ดูข่าวสารข้อมูล ไม่ได้สนใจเป็นพิเศษ มีหนังสือที่เธออ่านประจำอย่างมติชนสุดสัปดาห์ และนิตยสารเกี่ยวกับตกแต่งบ้าน
“รู้ตัวตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่มีความสามารถด้านการเมือง คิดว่าคงไม่มีความสามารถด้านนี้ มองว่าเป็นอะไรที่ต้องรับผิดชอบเยอะ ไม่ใช่อย่างที่พลอยทำงานาที่นี่ ดูแลคนงานของเรา พนักงานของเรา แต่งานการเมือง เหมือนกับว่าดูแลนโยบาย ดูแลคนทั้งประเทศ ถ้าทำตรงนั้นได้ไม่ดีขนาดนั้นก็อย่าไปยุ่งดีกว่า เป็นประชาชนทั่วไปธรรมดาดีกว่า หากมองเรื่องความท้าทาย มันมีผลกระทบต่อคนเยอะมาก เราไม่ทำตรงนั้นดีกว่า เพราะไม่ใช่เป็นความท้าทายเกี่ยวกับอนาคตของตัวเราเองคนเดียว ถ้าเป็นอนาคตเราเอง เราพลาดเราก็เริ่มใหม่ได้ แต่ถ้ากระทบต่อคนโดยมาก ถ้าเราตัดสินใจผิด ผลกระทบกว้างมาก”
ส่วนอนาคตจะเห็น ”พลอย” ลงเล่นการเมืองหรือไม่นั้น เธอบอกว่า ”ต้องสมมติก่อนว่าคุณพ่อชวน เพราะจริงๆ คุณพ่อไม่เคยชวน”
ตอบอย่างนี้มีลุ้น ว่าวันหนึ่งอาจเห็นเธอที่สนามการเมือง
Profile
Name : สิริน ตรีทอง
Education :
– วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาไฟฟ้า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
– วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการงานวิศวกรรม มหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา (USCA)
Career Highlights :
กรกฎาคม 2543 – มกราคม 2544
– ฝึกงานทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้ากับ Siemens Business Services GmbH.&Co.OHG เมือง Nuremberg ประเทศ Germany
มีนาคม – มิถุนายน 2544
– ฝึกงานในโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน ประเทศไทย
กุมภาพันธ์ 2547 – ปัจจุบัน
– กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.พี.เอส.มิลคอม จำกัด กรรมการ บริษัท ศิลาสามยอด จำกัด
2548 – ปัจจุบัน
– กรรมการ บริษัท ห้างฉัตรคอนสตรัคชั่น จำกัด
– กรรมการ บริษัท ห้างฉัตรแรนช์ จำกัด