“การเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีจุดยืนที่ชัดเจน“ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ยามที่สังคมแตกแยก มีความคิดเห็นเป็น 2 ฝ่าย หรือความจริงเป็น 3 ฝ่าย คือฝ่ายตะโกน ”ท้าก…ษิณ….ออกไป” ฝ่าย ”เบอร์ 2 ไทยรักไทย” และฝ่าย “เปิดไฟหน้ารถช่วงกลางวัน” เพื่อเรียกร้องให้ทุกคนหันหน้าเข้าคุยกัน แต่สำหรับเธอไม่รีรอที่จะบอกว่าทางเดียวที่เธอคิดคือเลือกเบอร์ 2 เพราะเธอคือ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” น้องสาวคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 10 คน ในครอบครัว ”ชินวัตร”

การทุ่มเทสุดตัวสำหรับครอบครัวชินวัตร ไม่ใช่แค่เรื่องที่ ”ยิ่งลักษณ์” ต้องก้าวออกจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เอไอเอส หลัง เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ จากสิงคโปร์เข้าซื้อหุ้นจากครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทแม่ของเอไอเอสเท่านั้น แต่ ”ยิ่งลักษณ์” ยังเดินหน้าไปปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทเอสซี แอสเซท จำกัด (มหาชน) อีก 1 ธุรกิจของ ”ชินวัตร” อีกด้วย แม้เธอกำลังหลงใหลกับธุรกิจโทรศัพท์มือถือ หลังจากคลุกคลีมานานเกือบ 3 ปี ถึงขั้นที่ว่าพูดถึงความสุขระหว่างอยู่ที่เอไอเอสเมื่อไร เธอถึงกับน้ำตาซึม เพราะรู้สึกถึงความซาบซึ้งและความประทับใจในประสบการณ์ที่ผ่านมาทุกที

แต่เวลานี้เธอต้องละทิ้งสิ่งที่ผ่านไป เพื่อเดินหน้ากับธุรกิจใหม่ของเธอ “อสังหาริมทรัพย์”

“ช่วงนี้ก็ต้องเตรียมตัว ลองดูข่าวอสังหาฯ ว่ามีอะไรบ้าง ดู information ว่ามีอะไรบ้าง และส่วนใหญ่ก็ต้องไปในงานเลย เตรียมศึกษางานว่าธุรกิจนี้ตลาดเป็นอย่างไร จุดสำคัญอยู่ตรงไหน อยู่ในช่วงของการศึกษา”

หากถามว่าคาดหวังกับหน้าที่รับผิดชอบใหม่นี้เพียงใด “ยิ่งลักษณ์” บอกว่า “ความรู้ Background อสังหาริมทรัพย์ ก็ต้อง Capture ให้เร็วที่สุด จากนั้นต้องเข้าไปดูว่าจะมีอะไรที่ Improve มากกว่านี้ หรือว่าทุกอย่างดีแล้ว จากนั้นจะทำอะไรต่อ อีก Step หนึ่งก็จะง่าย ถ้าถามก็คิดว่าใช้เวลาเดือน 2 เดือนก็คงต้องรู้ ตั้งเป้าอย่างไรก็ต้องมานั่งคุยเป็นแผน เพราะอสังหาฯ ต้องคุยกันเป็นแผนระยะยาว จะต่างเทเลคอม ซึ่งแผนวางยาวได้ แต่กลยุทธ์ตั้งปรับเร็ว แต่อสังหาฯ กลยุทธ์จะเป็น Project by Project ต้องมองแผนระยะยาวมาก”

ส่วนในการทำตลาดนั้น เธอเห็นว่าภาพใหญ่ไม่น่าจะต่าง ต้องเริ่มจากทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า และแบ่งเป็น Segment และเราอยู่ใน Segment ไหน ศาสตร์ของตลาดจึงน่าจะใกล้เคียงกับของเดิม เพราะอสังหาฯ ก็มีเรื่องของซีอาร์เอ็ม ในการเข้าไปดูแลลูกค้า ทำกิจกรรม ต่างกันเฉพาะประเภทสินค้าเท่านั้นเอง

“คิดว่าจุดตัดสินใจที่ต่างกันมากกว่า มือถือจะมี Switching Cost ซื้อแล้วไม่ชอบใจก็เปลี่ยน แต่ในแง่อสังหาฯ จุดตัดสินใจ ของลูกค้าใช้เวลามากกว่า และลูกค้าก็ต้องมีการไตร่ตรอง เพราะฉะนั้นการขายตลาดตรงนี้ต้องทำความเข้าใจ จุดขายต้องทำการบ้านละเอียด เพราะคนซื้อไม่ได้ขายของที่ชิ้นหนึ่งราคาที่ไม่ใช่เป็น Mass แล้ว ต้องทำตลาดแบบเจาะ Individual มากกว่า”

แน่นอนด้วยความพร้อมและประสบการณ์ในการบริหาร ทำให้ ”ยิ่งลักษณ์” ไม่กังวลอะไรมากกับงานใหม่
“โดยส่วนตัวใช้ลักษณะ Managemen tและมีมือ Professional อยู่แล้ว จึงคิดว่าไม่ต้องมีอะไรมากังวล”

ยิ่งไปกว่านั้น เธอก็หมดวาระในเก้าอี้ที่เอไอเอส 28 กุมภาพันธ์ 2549 จากนั้นรุ่งขึ้น วันที่ 1 มีนาคม 2549 เธอก็เริ่มงานที่เอสซีแอสเซท โดยทันที

“ถ้าเราเข้าช้าโอกาสก็ช้า ถ้าเราเข้าเร็วโอกาสก็เร็ว ทำไมเราไม่เข้าไปก่อน เข้าไปตรงนั้นใช้เวลาในการศึกษาเริ่มได้ ถ้าเราทิ้งตรงนี้ กว่าจะเริ่มได้ ไปปรับกลางปีก็ช้า เพราะจริง ๆ อสังหาฯ ยิ่งปรับเร็วยิ่งดี เพราะกว่าจะตัดสินใจ โจทย์อสังหาฯ นี้ต่างกัน ตัดสินใจไปแล้ว เวลาแก้ แก้ยาก เช่น ลงทุนโครงการนี้ไปแล้ว จะปรับยังไง ลงไปแล้ว ยังไงมีวิธีแก้อย่างเดียว Launch ด้านเทเลคอม ก็ Launch ไป ถ้าไม่ใช่ก็ออกแพ็กเกจใหม่ แต่นี่ไม่ใช่ ไม่สามารถออกแพ็กเกจใหม่ เพราะออกไปแล้ว เพราะฉะนั้นทำอย่างไรให้ขายได้มากที่สุด เพราะออกไปแล้ว”

ธุรกิจจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากสำหรับเธอในเวลานี้ แต่เรื่องที่อยู่ในความสนใจ ในฐานะสมาชิกครอบครัว ”ชินวัตร” คือต้องถามตรงๆ ไปว่า สนใจการเมืองขนาดไหน

“ยิ่งลักษณ์“ ตอบแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ก็สนใจในฐานะประชาชนคนหนึ่ง”

แล้วจะลงเล่นการเมืองหรือไม่

“ยังหรอกค่ะ อนาคตบอกไม่ได้ แต่ถามวันนี้ก็ prefer อยากทำธุรกิจ คิดว่าอย่างนั้น เพราะว่าก็ต้องมีชั่วโมงบินพอสมควร วันนี้ยังมีอะไรในส่วนของธุรกิจที่ยังมีอะไรน่าสนใจ ถ้าการเมืองต้องใช้เวลาศึกษาอีกสักพัก เพราะด้วยประสบการณ์เราเอง เราก็ยังไม่ชำนาญพอ”

“อนาคตยังไม่รู้เหมือนกัน” เป็นคำตอบที่หลายคนอาจมองว่าเธอกั๊ก แต่บางคนอาจมองว่าอย่างน้อยเธอก็ยังเปิดใจ และกล้าที่จะลงสนามการเมือง

เพราะสนามนี้ไม่ได้น่ากลัวสำหรับเธอเท่าไหร่นัก เนื่องจากจากวัยเด็กจนถึงโต “ยิ่งลักษณ์” มีโอกาสเห็นงานการเมือง ตอนเด็กๆ เคยช่วยหาเสียง มาตลอดตั้งรุ่นคุณพ่อ (เลิศ ชินวัตร) ที่เป็น ส.ส. ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พี่สาวคนโต (เยาวลักษณ์ ชินวัตร) เป็นนายกเทศมนตรี เชียงใหม่ คุณอา (สุรพันธ์ ชินวัตร) ก็เป็น ส.ส. นอกเหนือจากมีธุรกิจของครอบครัว

ทั้งธุรกิจและการเมืองคือสิ่งที่ ”ยิ่งลักษณ์” คุ้นเคย

คลุกคลีขนาดนี้ “ยิ่งลักษณ์” จึงสามารถบอกได้ว่า การเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีจุดยืนที่ชัดเจน ต้องเสียสละ
แต่สิ่งที่เห็นวันนี้ ที่เกิดขึ้นกับพี่ชาย เธอบอกว่า “พี่น้องไม่อยากหรอก เห็นพี่ชายแบบนี้ มันเจ็บ”

สำหรับสิ่งเธอทำได้คือให้กำลังใจ และคิดว่ายังมีคนจำนวนหนึ่งที่ให้กำลังใจเช่นเดียวกับเธอ แม้บางคนจะมองว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ถอยเลยสักนิด แต่ ”ยิ่งลักษณ์” ก็ยืนยันว่าพี่ชายของเธอได้ถอยแล้ว

“ก็ไม่รู้ มองกันคนละส่วน แต่ท่านก็ถอยนะ สุดท้ายแล้วถึงจุดหนึ่งเสียงส่วนใหญ่ ท่านถอย ยุบสภา ท่านก็ยุบ จากเดิมทีท่านบอกไม่ยุบ อันนี้ก็ถือว่าท่านทำดีที่สุด เพื่อระบอบประชาธิปไตย แต่สุดท้ายสังคมไม่ตอบรับ ก็ต้องอยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ ท่านเป็นสไตล์ถ้าไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ท่านก็ไม่ทำเหมือนกัน แต่ถ้าในอีกมุมมองหนึ่งชาวบ้านต่างจังหวัดท่านก็รัก ร้องไห้ อย่าออกไป ท่านก็มีอีกมุมหนึ่งซึ่งมุมนี้ไม่เคยออกมาพูดใน public จริงๆ แล้วไปเห็นมา ชาวนบ้านกอดหน่อย ดีใจน้ำตาไหล”

ดูเหมือนเธอมีข้อมูลและเข้าใจสภาพการณ์ทางการเมืองอย่างดี หากถามว่า ขยาดการเมืองเลยหรือไม่ “ยิ่งลักษณ์” บอกว่า “ขยาดมั้ย ก็ไม่รู้เหมือนกัน เราไม่ชำนาญเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นสิ่งที่อยู่ภาวะที่หนักเหมือนกัน”

หลายปัจจัยแวดล้อมที่เกมการเมืองบางครั้งอยู่นอกเหนือการควบคุม ต่างจากการบริหารธุรกิจ ที่มีตำรานำทาง ทำให้วันนี้ ”ยิ่งลักษณ์” ยืนยันว่าตอนนี้การเมืองไม่ใช่งานที่เธอถนัด ยังมีความสุขกับการทำงาน ทำธุรกิจมากกว่า เพราะเป็นงานที่ทำแล้วมีการกำหนดเป้าหมาย

“บางครั้งบรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ก็ชื่นใจ เหมือนปลูกต้นไม้ ดอกไม้ เห็นผลผลิตแล้วก็ดีใจ การได้ทำงานกับคน มีทีมงานทำด้วยกันแล้วอบอุ่น ถือว่ามีความสุข แต่การเมืองยังไม่รู้ ถ้าถามส่วนตัวจริง ๆ… ยัง คนที่จะลงการเมืองต้องมีความพร้อมทุกอย่าง พร้อมทั้งฐานะการเงิน พร้อมทั้งครอบครัวที่ให้การสนับสนุน ถ้าจะให้ดีต้องมั่นคงในหน้าที่การงาน มั่นคงในครอบครัว ถึงจะสามารถเสียสละให้ส่วนรวมได้ เพราะทุกอย่าง เวลา จะไม่ใช่ของตัวเอง จะเป็นของประชาชน เพราะฉะนั้นถ้าตัวเองไม่พร้อม…อย่าไป ถ้าไปแล้วตัวเองยังไม่มีงานทำ ไปหางานในนั้น มันก็ไม่ใช่ หรือว่าดูครอบครัวไม่ได้ ไม่มีเวลาเลี้ยงลูก ถ้าไป สุดท้ายลูกกลับไปเป็นปัญหาสังคม
อยู่ตรงนี้ดีกว่า

แต่วันหนึ่งข้างหน้า ไม่รู้ ถ้าพอใจกับการทำงานแล้ว ลูกโตแล้ว เป็นเรื่องของอนาคต เพราะเท่าที่เห็น ต้องพร้อม ตอนนั้น เพราะอย่างเมื่อก่อนพ่อไป แม่ก็ต้องดูแลลูกแทน เป็นทั้งพ่อทั้งแม่ เพราะพ่อเป็นคนของประชาชน ท่านนายกรัฐมนตรี เวลาที่เคยได้เจอพี่น้องวันนี้ก็หายไป

ถ้าเราคิดเราทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับสังคมได้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเราไม่ได้สร้าง value added กลับไป ก็ไม่ควรเข้าไป การเมืองก็ไม่ได้ถึงขนาดไม่ดี แต่การเมืองต้องเป็นเรื่องที่ต้องเสียสละ และทำให้ดีที่สุด ตอนนี้ถือว่าไม่ได้รังเกียจ แต่ติดตามสนใจการเมืองในฐานะประชาชน ณ state นี้ เพราะตัวเองไม่ได้ถนัดเท่าไหร่“

เฉพาะหน้าเวลานี้ สิ่งที่เธอต้องทำคือแรงใจเชียร์พี่ชายที่ดูแล และให้คำแนะนำเธอมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเรียน การทำงาน รวมไปถึงการส่งหนังสือที่พี่ชายคนนี้อ่านแล้ว เห็นว่าดีก็จะส่งต่อให้เธอทันทีตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เว้นเมื่อทั้งคู่มีโอกาสไปเรียนที่สหรัฐอเมริกา แต่อยู่คนละรัฐ

“ยิ่งลักษณ์” เล่าว่า จริงๆ เธอจบคณะรัฐศาสตร์ (มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) สาขารัฐประศาสนศาสตร์ บริหารรัฐกิจ บริหารบุคคล เน้นปกครอง จริงๆ ต้องไปเป็นปลัดอำเภอ ซึ่งตรงกับงานการเมือง “แต่จริงๆ ตอนนั้นอยากไปเป็นทูต แต่ตอนเรียนเห็นว่าเป็นทูตต้องไปอยู่ต่างประเทศ เห็นทูตเป็นผู้ชายหมดเลย แม่ก็บอกว่าอยากให้ลูกอยู่เมืองไทย อยู่ด้วยกัน ก็เปลี่ยนเป็นรัฐประศาสนศาสตร์ ไปเรียนปริญญาโทที่อเมริกา เรียน MIS ตอนแรกอยากเรียนคอมพิวเตอร์ ตอนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์คอมพิวเตอร์ กรมตำรวจ ก็แลยอยากเรียน แต่มีคนบอกว่าอย่าเลย เป็นโปรแกรมเมอร์ ต้องอยู่หามรุ่งหามค่ำ ก็แนะว่าไปเรียน MIS ดีกว่า บริหารพวกนี้อีกที ท่านก็บอกว่าเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก็ดีนะ”

ความสนิทสนม และความไว้เนื้อเชื่อใจกันและกันสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณพ้นวิกฤตในเวลานี้ไปได้ หรือหากไม่พ้น แต่มีโอกาสกลับมาอีกครั้งในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า “ยิ่งลักษณ์” อาจเป็นน้องสาวอีกคนหนึ่งที่เคียงข้าง พ.ต.ท.ทักษิณในสนามการเมือง

Profile

Name: นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
Age: 39 ปี (วันเดือนปีเกิด 21 มิถุนายน 2510)
Education:
– ปี 2531 ปริญญาตรี รัฐศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
– ปี 2533 ปริญญาโท Master of Public Admin Kentucky State University
Career Highlights:
– ปี 2534, สิงหาคม Sales & Marketing Trainee บริษัท ชินวัตรไดเร็กทอรี่ส์ (SDY)
– ปี 2534, กันยายน Purchasing Manager บริษัท SDY
– ปี 2536, มิถุนายน Acting Production Director บริษัท SDY
– ปี 2536, สิงหาคม Production Director บริษัท SDY
– ปี 2537 General Manager Rainbow Media บริษัท RM
– ปี 2538 GM – Shinawatra Directories Production บริษัท SDY
– ปี 2540 VP – Shinawatra Directories Prodution บริษัท SDY
– ปี 2542, กุมภาพันธ์ EVP – Service Operation เอไอเอส
– ปี 2544, ตุลาคม Senior Executive Vice President เอไอเอส
– ปี 2545, พฤษภาคม Senior Executive Vice President – Wireless เอไอเอส Corporate Planningปี
– 2545, ธันวาคม President เอไอเอส (กรรมการผู้อำนวยการ)
– ปัจจุบัน กรรมการผู้อำนวยการ เอสซีแอสเซท