“Cheeze” เปิดฉากลุยมหา’ลัย

“Cheeze” นิตยสาร ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเดินมาถูกทางในการเจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่น ที่หากไม่ใช่เพียงแค่ยอดเคลมที่ประกาศตัวเลขยอดขาย 80,000 เล่ม แต่ถ้าเป็นยอดขายจริง ก็ถือว่าตัวเลขนี้สูงมาก และประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง สำหรับการผลิตนิตยสารสักเล่ม ท่ามกลางแผงหนังสือที่เบียดกันแน่น

และนับจากนี้ Cheeze Magazine กำลังจะไปต่อ ด้วยแผนการเข้าไปเจาะตลาดในกลุ่มนิสิต นักศึกษาทั่วประเทศ ซึ่ง “สมชาย ชีวสุทธานนท์” หรือ ”ตี๋ แม็ทชิ่ง” ซีอีโอของบริษัทแม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ของบริษัทคนทำหนังสือ จำกัด ผู้สร้างสรรค์นิตยสาร Cheeze บอกว่ามีแผนชัดเจนว่าปี 2549 Cheeze จะเข้าไปเจาะกลุ่มนักศึกษา เพื่อให้มาเป็นสมาชิกของ Cheeze มากขึ้น

แนวทางนี้อาจดูไม่แตกต่างจากสิ่งที่ Cheeze กำลังเดินอยู่ เพราะกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มคนอ่านหลักของ Cheeze ซึ่งเป็นกลุ่มที่ ”ตี๋ แม็ทชิ่ง” บอกว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ดี และมีสังกัดของตัวเอง เพราะอยู่ในวัยเรียน แต่ในแง่ของการขยายฐานกลุ่มคนอ่าน การเข้าไปในมหาวิทยาลัยเป็นแผนที่ต้องทำ

“ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่มีกำลังการจับจ่ายใช้สอยมากที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนที่มีเงินมากที่สุด แต่การ Spending ของเขามีความคงที่ มีความสม่ำเสมอ อยู่ใน Segment คงที่มากที่สุด”

เป็นคำอธิบายของ ”ตี๋” ที่ชัดเจนว่ากลุ่มนี้คือกลุ่มที่เขาต้องการ

ด้วยความที่คลุกคลีกับพฤติกรรมของวัยรุ่นมานาน ผ่าน Cheeze ที่วางอยู่บนแผงมานานกว่า 2 ปี ทำให้ ”ตี๋” สามารถบอกได้ว่าสินค้าอุปโภคบริโภค แม้แต่เครื่องดื่ม หรือพวกสแน็ก วัยรุ่นคือกลุ่มแรกที่เป็นหัวหอกที่นำพาโปรดักส์ให้เป็นที่ยอมรับได้เร็วหรือช้า ถ้าจับกระแสนี้ได้ หรือจับจุดนี้ได้ ก็จะทำให้สินค้านี้เข้าไปตลาดได้ค่อนข้างเร็ว

สังเกตได้ว่ากระแสที่ดำเนินอยู่ อะไรก็ตามที่เวลาเกิดขึ้น ก็เกิดจากกระแสวัยรุ่นเป็นหลัก อย่าง Cheeze จับวัยรุ่นที่เราเรียกว่า ”สตรีท แฟชั่น (Street Fashion)” คือวัยรุ่น ที่เป็นชนชั้นกลางที่พร้อมจะขยับขึ้นไปข้างบนก็ได้ พร้อมที่จะใช้แบรนด์เนม หรือพร้อมกลับมาอยู่ใน Position เดิม มีเงินก็พร้อมจะขยับขึ้นไปข้างบน ไปจับจ่ายอะไรที่เป็นแบรนด์มากขึ้น กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่กว้างมาก และแข็งแรงมาก มีจำนวนมาก ซึ่งการจับจุดที่ Street Fashion เพราะเดี๋ยวนี้เวลาคนแต่งตัว ใช้จ่าย หรือซื้อของ ส่วนใหญ่จะมีความคิดของตัวเองเป็นหลัก เรียกว่ามี Unique ของตัวเองค่อนข้างสูง พบเห็นได้ทั่วไป

ขณะเดียวกันสินค้าที่โดนใจวัยรุ่น จะง่ายอย่างยิ่งที่จะได้รับความนิยม เพราะกลยุทธ์ที่เรียกว่า Words of Month เป็นตัวกลางในการโปรโมตสินค้าไปยังคนรอบข้าง และอีกไม่นานวัยรุ่นจะเติบโตเป็นคนทำงาน (First Jobber) ถ้าสินค้าและบริการสามารถสร้าง Brand Royalty ได้ ก็มีโอกาสสำหรับกลุ่มลูกค้านี้อีกยาวนาน

จุดเด่นของ Cheeze ที่เกิดจากกระแส Words of Mouth เพราะคนที่ขึ้นปกหนังสือ หรือได้ลงในหนังสือไม่ใช่คนดังเท่านั้น แต่เป็นวัยรุ่นที่มีอยู่ทั่วไป และมีจุดเด่นในการแต่งตัวรูปแบบที่เรียกว่า Mix & Match เมื่อมีเพื่อนคนหนึ่งได้ลง ก็มีการพูดต่อๆ ไป ซึ่งจุดนี้ด้วยความเชื่อของ ”ตี๋” ที่ว่าคนไทยเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น จึงเกิดกระแสซื้อมาเพื่อติดตามดู

เทคนิคที่ทำให้ Cheeze สำเร็จนั้น ”ตี๋” บอกว่า ทำยังไงให้เขารู้สึกเป็นกันเองกับเรา เป็นเหมือนเป็นเพื่อนเขา ตราบใดสามารถทำตัวได้ว่าคุณเป็นเหมือนกับเขา เป็นคาแร็กเตอร์เดียวกับเขา มีความรู้สึกที่มองกันก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่ พยายามยืนอยู่ที่เอาตัวเราเข้าไปอยู่ในใจเขา เอาตัวเขาเข้ามาอยู่ในใจเราให้ได้ พยายามผสมผสานความรู้สึกไปด้วยกัน

ส่วนวิธีการที่เข้าไปนั้น “ตี๋” อธิบายว่า โฟกัส เข้าไปในกลุ่มเป้าหมาย ไม่ได้โฟกัสเหมือนกับบริษัทรีเสิร์ช แต่เข้าไปคลุกคลีจริง ส่งคนเข้าไปจริง ไปดูว่าเขาเป็นอย่างไร มีพฤติกรรมอย่างไร พูดจากันอย่างไร คิดกันอย่างไร ซึ่งกลุ่มนี้อยู่สถาบันการศึกษา มีสถานะที่ชัดเจน

สำหรับแผนการตลาดในปีนี้ ที่เริ่มมุ่งมาในกลุ่มนักศึกษานั้น”ตี๋” บอกว่า จะจับที่มีตัวตนของตัวเอง มีคาแร็กเตอร์ของตัวเอง รู้จัก Mix & Matchให้ตัวเองดูดี กลุ่มนี้รู้จักคิด รู้จัก

วิธีการที่จะเข้าไปในกลุ่มสถาบันการศึกษา ”ตี๋” เตรียมใช้แผนการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้นักศึกษามาเป็นสมาชิก โดยพร้อมเริ่มเต็มที่ในช่วงเปิดเทอมกลางปีนี้ ด้วยรูปแบบเข้าไปเฟ้นหาดาวมหาลัย คนที่มีความเด่น มีไอเดีย แฟชั่นดีไซน์ ที่มีคาแร็กเตอร์เด่น มีจุดอะไรที่แปลกๆ เพื่อกระจายให้เด็กในมหาวิทยาลัยรู้จัก Cheeze มากขึ้น มีส่วนร่วมกับแมกกาซีนมากขึ้น เพื่อให้ได้ดาต้าเบสของคนกลุ่มนี้ มาเป็นลูกค้าของมแมกกาซีน หรืออาจเป็นนายแบบ หรือนางแบบของหนังสือ

แน่นอนว่าความคาดหวังหลังทำตลาดในสถาบันการศึกษา “ตี๋” คิดว่ายอดขาย Cheeze น่าจะเพิ่ม เพราะCheeze เข้าใจกลุ่มวัยรุ่นมากสุดตอนนี้ เข้าถึงตัวเขาจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นการได้ฐานข้อมูลของกลุ่มนี้มากขึ้น ยังสามารถต่อยอดธุรกิจหลักของแม็ทชิ่ง ที่กำลังเติบโตในการธุรกิจผลิตภาพยนตร์โฆษณา เพราะยิ่งมีฐานข้อมูลบรรดานายแบบ นางแบบมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้แม็ทชิ่งสะดวกมากยิ่งขึ้น

นี่แหละคือความชัดเจนและตรงไปตรงมากับอีกก้าวหนึ่ง Cheeze Magazine กับก้าวเดินต่อไป…