จาก “การบินไทย รักคุณเท่าฟ้า” ข้อความง่ายๆ เพียงเท่านี้ แต่กินใจเหลือเกิน มาจนถึง “Smooth as Silk” บินได้นุ่มนวลดุจดั่งใยไหม ยังไม่เพียงพอสำหรับการแข่งขันของธุรกิจการบินที่เข้มข้นในปัจจุบัน
“การตลาดแบบไม่ทำตลาด อย่างที่การบินไทยเคยเป็นในอดีต ไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป นับจากนี้ การบินไทยต้องทำตลาดแบบเชิงรุกมากขึ้น ไม่ใช่การตั้งรับ แต่เน้นว่าต้องทำตลาดแบบเชิงรุกมากขึ้น” ไม่เพียงแค่ “วัลลภ พุกกะณะสุต” ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) พูดยืนยันความเปลี่ยนของการบินไทยเท่านั้น แต่ยังได้โหมโปรแกรมใหม่ล่าสุด “THAI Value Plus Card” สำหรับผู้ที่ต้องการบินท่องเที่ยว ติดต่อธุรกิจ และจุดประสงค์อื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 5 ประเทศ 7 เมือง ประกอบด้วย เวียงจันทน์ ประเทศลาว พนมเปญ กัมพูชา ฮานอย โฮจิมินห์ซิตี้ เวียดนาม กัวลาลัมเปอร์ ปีนัง มาเลเซีย และสิงคโปร์
สำหรับลักษณะของโปรแกรมนี้ เป็นบัตรโดยสารพรีเพดการ์ด มีราคาถูกกว่าการซื้อตั๋วครั้งละใบ ประมาณ 1,000 บาท เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักธุรกิจ กรุ๊ปเดินทางกลุ่มย่อย ที่เดินทางบ่อย หรือท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม
THAI Value Plus Card เป็นโครงการต่อเนื่องจาก THAI Value Card ที่การบินไทยเปิดตัวทำตลาดเมื่อปีที่แล้ว สำหรับผู้ที่เดินทางในประเทศ บินทุกเส้นทางในประเทศ ราคาเดียวกันทุกเส้นทาง และประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง ด้วยจำนวนยอดขาย 5,000 ชุด รวมมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท ภายใน 2 เดือนครึ่ง แม้จะไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 250 ล้านบาท แต่ต้องรุกต่อสำหรับเส้นทางในภูมิภาคนี้ โดยการ์ด 1 ใบ มีตั๋วโดยสารไป-กลับ 5 ใบ ที่นั่งในชั้นประหยัด ราคา 30,000 บาท ผลิต 10,000 ชุด และชั้นธุรกิจ ราคา 70,000 บาท โดยใช้ช่องทางจำหน่ายคือเคาน์เตอร์ของการบินไทย
“บอกได้ว่าขณะนี้การบินไทยไม่ได้แก้เกมกับ Low Cost Airline แต่การบินไทยมีคู่แข่งที่เป็นสายการแห่งชาติหลายประเทศ เป็นสายการบินระดับโลก ที่เริ่มลงมาหั่นราคา เพราะกลุ่มผู้โดยสาร Low Cost Airline เป็นคนละกลุ่มเป้าหมายกับการบินไทย”
สิ่งที่การบินไทยแตกต่างจาก Low Cost Airline ไม่เพียงการเสิร์ฟ อาหาร เครื่องดื่มเท่านั้น สิ่งสำคัญ “วัลลภ” ระบุว่าเป็นการดูแลผู้โดยสารให้เกิดความ Loyalty ต่อการบินไทย ด้วยโปรแกรมสะสมไมล์ รอยัลออร์คิดพลัส และโปรแกรมล่าสุดยังจูงใจผู้โดยสารที่ชื่นชอบการสะสมการ์ด เมื่อสะสมได้ครบแล้วยังลุ้นรางวัลได้อีก ขณะที่สายการบินต้นทุนต่ำจะเน้นหั่นราคาถูกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แน่นอนการบินไทยไม่หยุดเพียงเท่านี้ “วัลลภ” วางทุ่นเพิ่มว่าอีกไม่นานเกินรอ การบินไทยจะนำเสนอโปรแกรมใหม่ๆ ให้เห็นนวัตกรรมใหม่ทางการตลาดสไตล์การบินไทย เพื่อให้เผู้โดยสารที่การบินไทยรักเท่าฟ้า ไม่ตีจากไปไหน
Profile
การบินไทย เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2502 โดยบริษัทเดินอากาศไทย จำกัด ร่วมทุนกับสายการบินสแกนดิเนเวีย แอร์ไลน์ ซิสเต็ม (SAS) และจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2503 ในสัดส่วน 70:30 ด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท วันที่ 19 กรกฎาคม 2534 จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยทุนจดทะเบียน 16,000 ล้านบาท
ปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินให้บริการ 87 ลำ บริการบิน 74 เที่ยวบิน ใน 34 ประเทศทั่วโลก เป็นสมาชิกในกลุ่มร่วมมือทางการบิน Star Alliance ที่มีสายการบินสมาชิกรวม 18 สายการบิน