“คิกออฟ” หนังสือพิมพ์กีฬาเบอร์ 2 ด้วยส่วนแบ่งการตลาดผู้อ่านจำนวน 30% รองจากสยามกีฬาที่มีส่วนแบ่งเกือบ 70% ก็ไม่เคยหยุดนิ่ง ทุกครั้งที่มีอีเวนต์กีฬาระดับโลก “คิกออฟ” ต้องหาช่องทางเพื่อโยกย้ายตัวเองจากแผงหนังสือไปอยู่ตามจุดชุมชน เพื่อจัดกิจกรรมในลานกว้าง On Ground กันแบบมันส์ๆ และฟุตบอลโลก 2006 ครั้งนี้ก็ไม่พลาด
“ วุฒิชัย ศรีวุฒิชาญ“ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ซีอีโอ บริษัทฐานเศรษฐกิจ ในฐานะต้นสังกัดของ ”คิกออฟ” บอกว่าคิกออฟจัด On Ground Event มาตลอด ในกีฬาฟุตบอลดังๆ ทั้งพรีเมียร์ ลีก บอลยูโร และฟุตบอลโลกที่ผ่านมา จนปัจจุบัน ”คิกออฟ” มีอายุ 9 ปีแล้ว และมียอดพิมพ์วันละ 80,000 ฉบับ และในฟุตบอลโลกครั้งนี้ คาดว่าจะมียอดพิมพ์เพิ่มขึ้นอีก 20%
“แม้ว่าเราจะอยู่ในธุรกิจสิ่งพิมพ์ นอกจากเสนอเนื้อหาเพื่อให้คนอ่านแล้ว แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้กับกิจกรรมระดับโลก เราต้องขยายกิจกรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งผลที่ได้รับชัดเจนคือภาพการร่วมกระแสระดับโลก ในแง่ของรายได้อาจไม่มาก แต่ระยะยาวคือยอดขายชื่อเสียงของหนังสือพิมพ์ในกลุ่มคนอ่านที่เพิ่มขึ้น”
แต่ใช่ว่า ”คิกออฟ” จะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์เดียวที่ใช้ปรากฏการณ์นี้ให้เป็นประโยชน์ แต่ยังมีคู่แข่งอีกมากมาย เพราะฉะนั้นลานของ ”คิกออฟ” จะดึงดูดแฟนๆ ได้จำนวนมากหรือไม่จึงเป็นสิ่งที่ท้าทาย
“วุฒิชัย” เผยว่าโครงการนี้ใช้ชื่อโครงการว่า “Chang Kickoff World Football Festival“ ภายในสวนลุมไนท์บาซาร์ สร้างเป็นโดมยักษ์ติดแอร์ ชื่อ ”ช้างสเตเดียม” จุผู้ชมได้กว่า 2,000 คน ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน-9 กรกฎาคม 2549 โดยคิกออฟร่วมกับบริษัทไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ในฐานะเจ้าของผลิตภัณฑ์เบียร์ช้าง บริษัททศภาค จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก และกลุ่มพันธมิตรเจ้าของสินค้าต่างๆ ที่ให้การสนับสนุน เช่น ฮานามิ กาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ ไวไว เป็นต้น โดยใช้กลยุทธ์สำคัญว่าจะถ่ายทอดสดทุกแมตช์รวม 64 แมตช์
การจัด Event จึงเป็นสิ่งที่ทุกค่ายรวมทั้งคิกออฟจะต้องนำมาใช้ เพื่อแย่งชิงผู้เข้าชมงาน และนี่คือที่มาของการแสดงมากมาย และการจับคูปองในรอบชิงชนะเลิศ มีรางวัลใหญ่ คือรถยนต์ “นิสสัน ซันนี่ นีโอ” นอกเหนือจากแฟนผู้อ่านคิกออฟจะได้ลุ้นส่งชิ้นส่วนจากหนังสือพิมพ์ชิงโชครางวัลใหญ่ เป็นบ้านเดี่ยว
“บรรยากาศภายใน”ช้างสเตเดียม” จะให้ความรู้สึกสนุกสนาน การได้มีโอกาสมาดูฟุตบอลพร้อมกันในกลุ่มเพื่อน มีอาหาร มีเบียร์เย็นๆ และมีความบันเทิงอื่นเสริม ประกวดมิสคิกออฟ ประกวด Coyote Dance จะช่วยให้การชมฟุตบอลดูสนุกยิ่งขึ้น และภาพขนาดใหญ่ผ่านจอยักษ์ ทำให้ได้อารมณ์คล้ายกับจำลองสนามแข่งขันมาอยู่ตรงหน้า บรรยากาศนี้ชัดเจนว่าต่างจากการดูที่บ้านผ่านจอทีวีเพียงคนเดียวอย่างแน่นอน”
นอกจากจัดที่สวนลุมไนท์บาซาร์แล้ว ผู้ที่เดินตามห้างสรรพสินค้าจะเห็นคิกออฟและพันธมิตรได้อีก ที่เอ็มซีซี ฮอลล์ ห้างเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน วันที่ 10-14 มิถุนายน 2549 และที่เดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ วันที่ 15-23 มิถุนายน 2549 แต่อยู่ภายในเวลาห้างปิดคือถึง 4 ทุ่มเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการจัดงานระดับยักษ์ ที่รวมค่าจัดงาน ค่าเงินรางวัลที่ ”วุฒิชัย” บอกว่าใช้งบไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาทครั้งนี้ จำเป็นต้องมีสปอนเซอร์ ซึ่งการจัดในช่วง 4-5 ปีที่แล้วมีรายได้ไม่คุ้มลงทุน แต่ในช่วงปีนี้ถือว่าคุ้มทุน เพราะสปอนเซอร์ให้การยอมรับมากขึ้น เพราะมีการสร้างสรรค์กิจกรรมมากขึ้น
ไม้เด็ดสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้สปอนเซอร์มาอยู่ในเครือคิกออฟได้จนคุ้มทุนนั้น “วุฒิชัย” เผยว่า เพราะสื่อในเครือฐานเศรษฐกิจมีหลากหลาย ดังนั้นสปอนเซอร์ที่มาในกิจกรรมนี้จะได้ทางเลือกมากขึ้น
“เรามีรายการวิทยุ คลื่น 98.0 เวลา 4 ทุ่มครึ่ง ถึงตีห้าทุกวัน มีรายการ After Kick off อังคาร เที่ยงคืน สายตรงกีฬา วันพฤหัส 5 ทุ่มครึ่ง ในไอทีวี มีรายการ 2b2s ในช่อง 11/5 เสาร์-อาทิตย์ 4 โมง และยังมีเว็บไซต์ www.kickoff.in.th และยังมีหนังสือในเครืออีกหลายฉบับ เพราะฉะนั้นเวลาขายสปอนเซอร์ก็สามารถเสนอได้ทั้งแพ็กเกจ รวมถึงในสื่อเฉพาะกิจอย่าง “ช้างสเตเดียม” ด้วย”
เมื่อรวมกับสถานการณ์ที่ผ่านมา ที่เศรษฐกิจชะลอตัว จากปัจจัยต่างๆ ทั้งการเมือง และปัญหาราคาน้ำมัน จนทำให้เกิดการชะลอตัวการใช้จ่ายที่ผ่านมา เหตุนี้เองทำให้ ”คิกออฟ” ยิ่งมองเห็นโอกาส เพราะสปอนเซอร์จำนวนมากอั้นมานาน พอมีโอกาส ก็ใช้กันอย่างเต็มที่
ลีลาแบบนี้ “คิกออฟ” จึงหวังเต็มที่ ได้ยิงเข้า Goal อย่างสวยงาม
ลักษณะหนังสือพิมพ์ “คิกออฟ”
– อายุหนังสือพิมพ์ 9 ปี
– ส่วนแบ่งการตลาด 30 %
– ยอดพิมพ์ต่อวัน 80000 ฉบับ (กรอบเดียว)
– กระดาษปอนด์ ทำให้ตีพิมพ์หน้าโฆษณาได้สวยงาม
– จับกลุ่มผู้อ่านนักเรียน นักศึกษา ไม่รับโฆษณาสถานอาบอบนวด