Lifestyle & Marketing Trend

POSITIONING จับกระแสเทรนด์ฮอตมานำเสนอกับผู้อ่าน โดยฉบับนี้นำเสนอในเรื่องของเทรนด์เล็กแต่แจ๋ว ของเล็กๆ ใครว่าไม่เจ๋ง และอัพเดตไลฟ์สไตล์กับคลิกเกอร์…Are you being clicked? รวมถึงกระแสม้าใหญ่ Big Logo บนเสื้อโปโล ที่ควบกระหน่ำเมือง!! เทรนด์ไหนโดนใจคุณอัพเดตได้เลย

เทรนด์ “เล็กๆ” แต่แจ๋ว

“Size dose matter” ใครว่าขนาดไม่สำคัญ…สินค้าขายดีปัจจุบันกลับกลายเป็นสินค้าไซส์เล็ก

โดยเฉพาะคอนซูเมอร์ โปรดักส์ เป็นทางเลือกที่เหมาะเจาะกับผู้บริโภค แม้จะเป็นเรื่องที่เห็นกันมานมนานจากปกติจะซื้อเพื่อทดลองและเหมาะกับการพกพาระหว่างวันหรือเดินทางต่างจังหวัด 2-3 วัน แต่ในช่วงเวลาที่สภาวะเศรษฐกิจผันผวนและการเมืองยังไม่คลี่คลายดีนักในขณะนี้ สินค้าไซส์เล็กได้เริ่มทวีความสำคัญกว่าเดิมหลายเท่านัก กลับกลายมาเป็นสินค้าที่ซื้อหามาใช้กันอย่างจริงจังมากกว่าการทดลอง เพราะผู้คนใส่ใจกับการจับจ่ายมากขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อเริ่มอืดนั่นเอง

จะเห็นได้ว่าบางครั้งสินค้าไซส์เล็กอาจทำให้เราแทบแยกไม่ออกว่าชิ้นใดเป็นสินค้าตัวอย่างหรือสินค้าบนเชลฟ์ที่วางขายกันอย่างจริงจัง โดยปัจจุบันมีสินค้าไซส์เล็กมากมาย อาทิ พอนด์สแบบซอง, แพนทีน ลิฟท์ ออน ขนาดพกพา ลิสเตอรีนและซิสเท็มมา ขนาด 80 มล. เป็นต้น

กรณีนี้ส่วนหนึ่งเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นด้วยความจำเป็นโดยแท้ (ไม่นับรวมการลดขนาดสินค้าแต่ขายในราคาเท่าเดิม ซึ่งเป็นกลยุทธ์สีดำของนักการตลาดที่เอาเปรียบผู้บริโภคอย่างน่าละอาย)

ด้านของเล็กราคาสูงอย่างสินค้าไอที เป็นสิ่งเสริมค่าเสริมราคาให้กับคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ผันแปรไป สถานภาพทางสังคมไม่จำเป็นต้องบ่งบอกด้วยวัตถุชิ้นใหญ่โตเสมอไป เพราะสินค้าขนาดเล็กบ่งบอกถึงความทันสมัยและเทคโนโลยีที่เหนือชั้น เช่น ตำนานรถยนต์คลาสสิกอย่าง “MINI” ที่สร้างจุดขายในเรื่องของขนาดเป็นธงนำก่อนใครเพื่อน และที่โดดเด่นที่สุดสำหรับสินค้าไอที คงหนีไม่พ้น “Mini iPod” ซึ่งสร้างกระแส ilife ตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากไอพ็อดได้เป็นอย่างดี

นั่นเป็นตัวอย่างเล็กๆ ของสินค้าเล็กๆ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง

เล็ก…สร้างความต่างจากคู่แข่ง
เล็ก…บอกถึงความทันสมัย
เล็ก..บอกถึงเทคโนโลยีที่เหนือชั้น
เล็ก…บอกถึงความสะดวกสบายในการพกพาและใช้งาน

ไอศกรีมจิ๋ว

สำหรับคอนซูเมอร์โปรดักส์ POSITIONING เลือกกรณีศึกษาสดใหม่อย่าง “WALL’S Mini Cornetto” (วอลล์ มินิ คอร์นเนตโต) มานำเสนอ นอกจากจะเป็นการเปิดตัวผลิตใหม่แล้ว “วอลล์ มินิ” ยังเป็นซับแบรนด์ใหม่ของวอลล์อีกด้วย ซึ่งเป็นการนำ “ขนาด” มาเป็นจุดขายโดยแท้

โดยนวัตกรรมในรูปแบบของไอศกรีมขนาดเล็กนี้มีความยาว 9.8 ซม. และความกว้าง 3.7 ซม. ครั้งนี้ เพื่อรุกตลาดสำหรับซื้อกลับบ้าน (In-home) ที่แม้จะมีมูลค่าเพียง 460 ล้านบาท แต่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ล่าสุดเติบโตจากปีที่ผ่านมา 18 % และวอลล์เป็นผู้นำมีส่วนแบ่งการตลาด 57%

เป็นโอกาสทางการตลาดที่เกิดจากผลการวิจัยของยูนิลีเวอร์กับกลุ่มตัวอย่าง 2,000 คน ซึ่งพบว่า ผู้หญิงสมัยใหม่อายุ 25-40 ปี จะนิยมทานของว่างระหว่างดูละครช่วง Prime Time ดังนั้นวอลล์ไซส์จิ๋วจึงเกิดขึ้นเพื่อสอดแทรกโอกาสที่มีด้วยการ “ปั้นไอศกรีมให้เป็นขนม” เน้นสนองความต้องการแบบ Individual Serve เป็นหลัก

“ขนาดเล็กควบคุมปริมาณการทานต่อครั้งได้ เหมาะสำหรับผู้หญิงทำงานสมัยใหม่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ทั้งทำงานและเลี้ยงลูก จึงมีเวลาไม่มากนัก ต้องการทานของว่างในช่วงพักสั้นๆ และวอลล์ มินิ คอร์นเนตโตที่มีขนาดเล็กจะทำให้เกิดการทดลองทานสำหรับผู้ที่ไม่นิยมทานไอศกรีมเนื่องจากปริมาณปกติที่มากเกินไป” ชัญญา รอดรักขวัญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการตลาดผลิตภัณฑ์ไอศกรีม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด บอก

ครั้งนี้วอลล์เทงบการตลาด 100 ล้านบาท โดยกว่า 30 ล้านบาททุ่มลงไปกับการแจกสินค้าตัวอย่าง

ชีวิตต้องคลิก!

เครื่องกดนับจำนวน หาได้มีฟังก์ชันที่เพริศหรูไม่ รูปแบบเดิมๆ เป็นสีเงินอาจดูคลาสสิคแต่กระแสที่มาแรงผสานดีไซน์ที่หลากหลาย กลับได้รับความนิยมในหมู่เมโทร “คลิกเกอร์” (Clicker) เป็นการนำความเรียบง่ายของการใช้งานมาผสานกับดีไซน์ก่อเกิดเป็นลูกเล่น กลายมาเป็นแอคเซสซอรีประจำตัวของใครหลายคน บ้างใช้งานจริง บ้างใช้เพื่อความเพลิดเพลิน…เป็นอีกครั้งที่ดีไซน์ส่งอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์

แต่จะมีคนกี่มากน้อยที่ทราบว่าคลิกเกอร์โดยแท้จริงแล้วเขาใช้ฝึกสัตว์จำพวกสุนัข นกพิราบ มาเนิ่นนานแล้ว โดยเสียงจากคลิกเกอร์จะเป็นเงื่อนไขในการให้รางวัลเมื่อสัตว์นั้นๆ ทำดีหรือถูกต้อง นอกจากนี้ยังใช้ในงานสารพัดประโยชน์มานมนาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้นับจำนวนผู้โดยสารขึ้นลงบนเครื่องบินของสจ๊วตและแอร์ โฮสเตสที่เรียกว่า Head Count ใช้นับจำนวนเม็ดเลือดขาวหรือเม็ดเลือดแดงในแล็ป นับเงิน นับจำนวนคนเข้าห้องสมุด เข้าศูนย์การค้า สำหรับการใช้ส่วนบุคคลมีผู้นิยมนำมาใช้ในการฝึกสมาธินับจำนวนรอบในการสวดมนต์ นับจำนวนวัน สิ่งที่ทำในแต่ละและหาซื้อได้ตามแผนกเครื่องเขียนในห้างสรรพสินค้าทั่วไป

เซเลบบริตี้และดาราต่างพาเหรดกันอินเทรนด์นี้กันถ้วนหน้า ทั้งห้อยสายโทรศัพท์ ห้อยคอ ใส่พวงกุญแจ อาทิ กิ๊ก-ธนิศ โอสถานุเคราะห์ จิ๊บ-อติกานต์ หนุนภักดี ท็อป-ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี ตือ-สมบัษร ถิระสาโรช ร.ต.อ.วัชริศ พงษ์พานิช เป็นต้น

ส่วนสินค้าที่เด่นชัดที่สุด คือ ยูนิลีเวอร์ที่ร่วมเป็นหนึ่งในกระแสคลิกนี้ ด้วยการส่งพระเอกหนุ่มฮอลลีวู้ด Ben Affleck ที่ปรากฏจอในรูปแบบของพรีเซ็นเตอร์ “Axe Click” ที่ใช้คลิกเกอร์เป็นมาตรวัดเสน่ห์แต่กลับแพ้หนุ่มน้อยเฝ้าลิฟต์ไปอย่างขาดลอย ด้วยแนวคิด “คลิก…เมื่อไหร่ได้เรื่อง” เป็นการเน้นย้ำถึง Brand Concept เกี่ยวกับ Axe Effect ด้านเว็บไซต์ของ eBay ไม่ตกเทรนด์ ประกาศเชิญชวนให้ซื้อคลิกเกอร์ด้วยถ้อยคำที่ว่า How many clicks did you get today? Can you beat Ben?

ภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าวทำให้หนุ่มๆ ทั้งหลายเกิดอาการอยากวัดเรตติ้งของตัวเองก่อนซื้อหามาเป็นเจ้าของ ลองคลิกเข้ามาดูที่ www.clickspray.com/clickgame ผลงานจากดราฟท์ (ประเทศไทย) เอเยนซี่เจ้าประจำของยูนิลีเวอร์ ที่เป็นส่วนงานรับผิดชอบนิวมีเดียของโลว์ ได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบของเกม โดยหนุ่มแอ็กซ์จะร่วมสนุกแข่งคลิกกับสาวๆ และ วีเจวุ้นเส้น แชนแนลวี ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ประจำเว็บไซต์

นอกเหนือจาก Digital Media แล้ว Axe Click ยังได้จัดปาร์ตี้ร้อนๆ ด้วยการนำดารานางแบบสาว มาร่วมกันออกแบบคลิกเกอร์การกุศล

ทำให้ Axe Click นับเป็นสินค้าแบรนด์แรกที่ใช้กระแสคลิกเกอร์มาเป็นจุดขายในชื่อของผลิตภัณฑ์ รวมถึงเป็นผู้แจกจ่ายกระแสคลิกเกอร์ให้ปะทุในเมืองไทย

โปโลม้าใหญ่…เด่นเด้งสะดุดตา
“The Big Pony is BACK!!”

แม้ใครต่อใครจะหันมาจับเทรนด์มินิกันแต่สำหรับ “POLO RALPH LAUREN” แบรนด์นักขี่ม้าสไตล์คลาสสิกอายุอานาม 38 ปี ขอหวนรำลึกถึงอดีตที่เคยมีมาด้วยการรีลอนซ์คอลเลกชั่น “ม้าใหญ่” อีกครั้ง และคืนชีพได้อย่างสวยงาม สร้างปรากฏการณ์ม้าใหญ่เกลื่อนเมืองทั้งของแท้ของปลอมกันเลยทีเดียว

โลโก้ขนาดใหญ่กินพื้นที่บนอกเสื้อด้านซ้ายของเสื้อยืดคอโปโลหลากสี โดดเด่นสะดุดตา ทำให้เห็นดีเทลของโลโก้มากขึ้น และนี่อาจเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ Big Pony ได้รับการตอบรับที่ดี

โดยคอลเลกชั่นสุดฮอตนี้ยังเป็น Official Sponsor ของ US OPEN อีกด้วย และมีราคาจำหน่ายที่ www.polo.com เฉลี่ยตัวละ 95 US สำหรับเชื้อ T-Shirt ส่วนเสื้อแจ็กเกตสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 125 US

ด้านเว็บ e-commerce เมืองไทยก็ไม่น้อยหน้า เช่น www.thaisecondhand.com ก็ขาย Big Pony กับเขาด้วย ในราคาประมาณ 2,400 บาท ขณะที่บางแห่งที่ไม่การันตีว่าเป็นของแท้ขายในราคาตัวละประมาณ 650 บาทก็มี

ปรากฏการณ์นี้นับเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกว่ากระแสหวนรำลึกอดีตยังคงใช้ได้เป็นอย่างดี

Profile

POLO ถือกำเนิดมากว่า 40 ปี เริ่มต้นคอลเลกชั่นแรกด้วยเนกไท ด้วยแฟชั่นกลิ่นอายแบบอเมริกัน ทั้งนี้ RALPH LAUREN ยังได้รับการยกย่องจากนิตยสาร TIME ให้เป็น 100 แบรนด์โลกที่ทรงอิทธิพล