“เพื่อนสนิท” เฉพาะกิจ

อาศัยจังหวะเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ คู่แข่งในสนามโทรศัพท์มือถือที่ห้ำหั่นอย่างดีแทคและทรู จึงหันมายึดสุภาษิต “มีศึกร่วมต้าน” ลงทุนเช่าห้องบอลรูม โรงแรมห้าดาวอย่างอินเตอร์คอนติเนนตัล จัดแถลงข่าวร่วมกันเป็นครั้งแรก

งานนี้ได้รับความสนใจจาก “สื่อมวลชน” ทั้งทีวี สื่อสิ่งพิมพ์ ที่ขนทัพมารอฟังแถลงข่าวกันแน่นขนัด ทั้งศุภชัย เจียรวนนท์ และซิคเว่ เบรกเก้ สองซีอีโอจากสองค่ายมือถือ ควงคู่ขึ้นเวทีแถลงข่าว ยังมีธนา เธียรอัจฉริยะ ที่มาพร้อมกับแผ่นชาร์ตอธิบายที่มาที่ไปโดยละเอียด โดยมี “ตาชั่ง” ที่หยิบยืมจากร้านทองมาตั้งประกอบฉาก

เนื้อหาหลักในการแถลงข่าวครั้งนี้ อยู่ที่ข้อเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) และรัฐมนตรีกระทรวงไอซีทีคนใหม่ กรณีสัมปทานของทรูและดีแทค เสียเปรียบคู่แข่ง อย่าง เอไอเอสมาโดยตลอด แบ่งออกเป็น 4 ข้อ

หนึ่ง-เอไอเอสได้รับการเอื้อประโยชน์ด้วยการปรับลดส่วนแบ่งรายได้ในโทรศัพท์แบบเติมเงินหรือระบบพรีเพดเหลือ 20% ตลอดอายุสัญญาตั้งแต่ปี 2544 ทำให้ เอไอเอสประหยัดรายได้ 8 หมื่น-1 แสนล้านบาท ตลอดอายุสัญญา

สอง- การจัดเก็บค่าเชื่อมวงจรหรือแอ็คเซ็สชาร์จที่ไม่เป็นธรรม โดยเอไอเอสได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่าย แต่ดีแทคและทรูมูฟต้องจ่ายเลขหมายละ 200 บาท

สาม-การไม่นำระบบเลขหมายโทรศัพท์เดียวสามารถใช้ได้ทุกระบบหรือนัมเบอร์พอร์ทาบิลิตี้มาใช้ ซึ่งจำกัดสิทธิของผู้ใช้บริการในการคงเลขหมายโทรศัพท์ ทำให้เอไอเอสได้เปรียบเพราะมีฐานลูกค้ามากกว่า ลูกค้าของเอไอเอสไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้ระบบอื่นได้

สี่- เอไอเอสลดค่าบริการต่ำมาก หรือมีพฤติกรรมดั๊มพ์ราคา เพราะมีต้นทุนที่ถูกกว่า ส่อไปในทางมีอำนาจเหนือตลาด

“วันนี้ผู้บริโภคไม่ได้รับประโยชน์ที่แท้จริง เพราะถ้ามีต้นทุนที่เท่าเทียมกันแล้ว คนที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดคือลูกค้า ทั้งในแง่ของการตลาด และพื้นที่ให้บริการ ที่จะครอบคลุมได้มากกว่านี้”

ส่วนการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นจะเป็นเช่นใด หากได้มีต้นทุนเท่าเทียมกัน ศุภชัยยกตัวอย่าง “ดูอย่างประเทศฝรั่งเศส หรือในอังกฤษสิ เขาถึงกับแจกเครื่องฟรี”

สำหรับสาเหตุที่เลือกมาแถลงข่าวในช่วงนี้ ศุภชัยบอกว่า “วันนี้ถือว่าฟ้าใหม่แล้ว และสิ่งที่ผมเรียกร้อง ไม่ใช่การแปรสัญญาสัมปทาน แต่ต้องการแข่งขันที่เป็นธรรม ส่วนตัวก็ไม่ได้ตั้งความหวังมาก เพราะผิดหวังมาทุกรัฐบาลแล้ว มาถึงรัฐบาลนี้ เราก็อยากให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมเกิดการเปลี่ยนแปลง”

จะเปลี่ยนแปลงได้ตามที่ทั้งสองค่ายคาดหวังหรือไม่…ยังบอกไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ไม่กี่วันถัดมา เอไอเอสต้องจัดงานแถลงข่าวตอบโต้กลับ และส่งผลให้พื้นที่ข่าวโทรศัพท์มือถือบนหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ อินเทอร์เน็ต และทีวี ร้อนแรงขึ้นมาทันตา